วันพุธที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

Review: Prayers In The Emergency Room (TBS/2020) บอกหมอว่าอย่าเพิ่งสวด

Prayers In The Emergency Room (TBS/2020) บอกหมอว่าอย่าเพิ่งสวด

โชเอน มัตสึโมโตะ (Hideaki Itoแพทย์แผนกฉุกเฉินแห่งโรงพยาบาลอาโอบะได หมอที่มีความแตกต่างจากหมอคนอื่น เมื่อเขาเป็นทั้งหมอและพระในคนเดียวกัน หมอมัตสึโมโตะ ก็เลยมักจะสร้างความน่าขนลุกขนพองให้กับคนไข้เสมอ เมื่อเขามักจะสวดมนต์อธิษฐานขอพร พร้อมทั้งรักษาคนไข้ในเวลาเดียวกัน ไม่ต่างจากวันนี้ที่มีผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ถูกส่งเข้ามามากมาย หมอมัตสึโมโตะ จึงต้องทำการรักษาคนไข้ทั้งจีวรพระที่สวมใส่อยู่ ด้วยปริมาณผู้บาดเจ็บที่ถูกส่งเข้ามา ทำให้หมอในแผนกฉุกเฉินรวมถึงหมอมัตสึโมโตะ มีความท้าทายในหน้าที่ตัวเอง เมื่อพวกเขาต้องจัดลำดับความฉุกเฉินของคนไข้ เพื่อทำการรักษา รวมถึงจัดการกับดราม่าจากญาติของคนไข้ ที่อาจ ไม่เข้าใจ ตั้งคำถาม กับแนวทางการรักษาของเหล่าหมออีกด้วย

ซีรีส์การแพทย์จากญี่ปุ่นสร้างจากมังงะ ของ ทามาโยะ โคยาสุ (Tamayo Koyasu) บอกเล่าเรื่องราวของทั้งหมอและคนไข้ ที่เกิดขึ้นในแผนกฉุกเฉินและโรงพยาบาลอาโอบะได นำเสนอทั้งในมุมมองการทำความเข้าใจ การหาความหมาย คำตอบ ของความเจ็บป่วยและความตาย และยังพูดถึงการตัดสินใจของคนเรา ที่บางครั้งมันก็พูดได้ยากว่า ตกลงแล้วมันขาวหรือดำ เป็นการตัดสินใจที่ถูกหรือผิดกันแน่ หรือว่ามันยังมีตรงกลางระหว่างสองคำนั้นอยู่ ไม่ได้มีเพียงแค่คำว่าถูกหรือผิดเท่านั้น

ตั้งแต่ตอนแรกซีรีส์เลือกที่จะบอกเลยว่า หมอมัตสึโมโตะไม่ได้เป็นพระในแบบที่เข้าใจโลกอย่างถ่องแท้ แต่เขาเป็นพระในแบบที่ยังต้องฝึกฝนและเรียนรู้ เพื่อหาคำตอบของอะไรบางอย่างให้กับตัวเอง เหมือนที่หมอมัตสึโมโตะพยายามใช้คำสอนทางศาสนา เพื่อบอกให้ญาติของคนไข้เข้าใจความเป็นไปของชีวิต แต่ด้วยช่วงวัยในขณะที่กำลังเผชิญหน้ากับการสูญเสียคนสำคัญ บางครั้งคนเราก็อาจจะอยากได้คำปลอบโยนจิตใจ มากกว่าการบอกให้ยอมรับความจริงของโลก ที่ตัวเองยังไม่พร้อมเผชิญกับมัน ในตอนแรกสิ่งที่สะท้อนตัวละครหมอมัตสึโมโตะ จึงเป็นการบอกว่า เขาเป็นหมอที่ดีเป็นพระที่รู้คำสอน แต่เขาก็ยังเป็นแค่คนหนึ่งเหมือน ๆ กับคนทั่วไป ที่ไม่สามารถเข้าใจความรู้สึกนึกคิดของคนทุกคนได้ ยังมีต้องเรียนรู้อะไรอีกมาก เพื่อให้เป็นทั้งหมอและพระที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม

นอกจากหมอมัตสึโมโตะแล้ว ซีรีส์ยังมีตัวละครอย่างหมอทัตสึยะ ฮามาดะ (Tsuyoshi Muroศัลยแพทย์ทรวงอกชื่อดัง ที่เพิ่งย้ายมาทำงานที่โรงพยาบาลอาโอบะได หมอฮามาดะ กลายมาเป็นไม่เบื่อไม้เมากับหมอมัตสึโมโตะ เพราะครั้งหนึ่งในอดีต หมอมัตสึโมโตะ เคยมีท่าทีเหมือนจะดูถูกหมอฮามาดะ แต่ดูเหมือนว่าหมอมัตสึโมโตะ จะไม่รู้ตัวและจำเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ ทั้งสองตัวละครนี้ไม่เพียงขัดแย้งกันด้วยเรื่องราวในอดีต แต่อุดมการณ์ของทั้งสองคนยังแตกต่างกันอีกด้วย เมื่อหมอมัตสึโมโตะถือคติว่าเขาคือผู้ช่วยชีวิตผู้คน ฉะนั้นไม่ว่าคนไข้จะเป็นใครจะเป็นคนเลวหรือเป็นคนดี จะอยากมีชีวิตต่อหรือไม่ เขาก็จะพยายามช่วยอย่างสุดกำลังที่มี สวนทางกับหมอฮามาดะ ที่มีความตั้งใจว่า จะให้ความช่วยเหลือ เฉพาะคนที่อยากจะมีชีวิตอยู่ หรือคู่ควรจะมีชีวิตอยู่ต่อไปเท่านั้น

ส่วนที่ผมชอบในซีรีส์เรื่องนี้เห็นจะเป็นการสะท้อนเรื่องราว ที่เอาจริงแล้วมันน่าจะชวนหน่วงในความรู้สึก ออกมาได้อย่างตรงไปตรงมา แต่ด้านหนึ่งก็ประนีประนอมกับผู้ชม ด้วยการให้ทางเลือกกับตัวละครและผู้ชม เพราะไม่ว่าจะการต่อสู้เพื่อที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป หรือการทำใจยอมรับว่าความตายมันเป็นธรรมดาของโลก ผมชอบตอนหนึ่งที่เป็นเรื่องราวแฟนเก่าของหมอเรียวโกะ มิยาเกะ (Miki Nakataniที่ป่วยหนักด้วยโรคที่รักษาไม่หาย เขากำลังจะกลายเป็นภาระที่หนักอึ้งของครอบครัวที่ต้องดูแลต่อจากนั้น ผมว่ามันท้าทายความรู้สึกนึกคิดของผู้คนนะ ถ้าวันหนึ่งเราต้องป่วยหนักไม่มีทางรักษา เวลาชีวิตเริ่มนับถอยหลัง เราจะอยากจบเรื่องราวให้หลุดพ้นไป หรือจะสู้เพื่อต่อเวลาชีวิตให้ยาวไปอีกแม้จะทรมาน และเป็นเวลาอีกเพียงเล็กก็ตาม

ในซีรีส์เรื่องนี้ผมแอบเห็น เอริกะ คาราตะ แวบ ๆ ไม่รู้ว่าถ่ายทำ ตั้งแต่ก่อนเป็นข่าวสะเทือนวงการ หรือว่าหลังจากมีข่าวสะเทือนวงการนะครับ เพราะเห็นเธอออกมาแค่ตอนแรกแป๊บเดียว หลังจากนั้นก็หายจ้อยไม่มีออกมาให้เห็นอีกเลย แม้ซีรีส์จะดำเนินเรื่องด้วยตัวละครหมอมัตสึโมโตะและหมอฮามาดะ แต่ในแต่ละตอน ซีรีส์ก็จะมีซับพล็อตเรื่องราวของตัวละครสมทบด้วย ไม่ว่าจะหมอมิยาเกะ อย่างที่ผมเพิ่งกล่าวถึงไปแล้ว ยังมีเรื่องราวของหมอมาชิโระ โคจิมะ (Honoka Matsumotoที่มองทั้งหมอมัตสึโมโตะและหมอฮามาดะเป็นต้นแบบ แต่ว่าเธอจะเลือกเดินตามรอยเท้าของใครกันล่ะ แล้วก็ยังมีเรื่องราวของ เรย์อิชิ ทานากะ (Ryota Katayoseทายาทโรงพยาบาลชื่อดัง ที่มาเป็นแพทย์ฝึกหัดที่อาโอบะได เขายังสสับสนกับทางที่ต้องเลือก เมื่อการเป็นแพทย์ศัลยกรรมทรวงอก มันคงทำให้เขาสามารถก้าวหน้าได้ ตามความต้องการของพ่อ แต่ในตอนนี้ที่เขาฝึกงานในแผนกฉุกเฉิน เขาก็เริ่มซึมซับความมุ่งมั่นพยายาม ในการช่วยเหลือชีวิตของผู้คนยามวิกฤติ และอยากใช้เวลากับมันมากขึ้นกว่าที่ผ่านมา

ในช่วงท้ายสรปเนื้อหาของซีรีส์ ผมคงจะบอกว่าเป็นซีรีส์การแพทย์จากญี่ปุ่นที่ดูสนุก แล้วผู้ชมก็ยังได้แง่คิด เมื่อให้มุมมองกับคนดูทั้งสองด้าน ไม่ว่าจะการทำความเข้าใจกับความเป็นจริง และการพยายามต่อสู้ไม่ยอมแพ้ ในการที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป เนื้อหาทำออกมาได้บันเทิงไม่ดราม่าหนักหน่วง คาแรคเตอร์หมอมัตสึโมโตะ อาจจะเป็นทั้งหมอและพระในแบบที่ไม่คุ้นเคย แต่ก็เป็นตัวละครที่มีเสน่ห์ แม้จะดูแปลก ๆ กวน ๆ เป็นพระขี้โวยวายก็ตาม แต่ก็ดูแล้วไม่น่ารำคาญใจอะไร ออกไปทางสร้างเสียงหัวเราะ ตลกโปกฮาเสียมากกว่าครับ

ขอบคุณภาพประกิบจากซีรีส์: Prayers In The Emergency Room (TBS/2020)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: All of Us Are Dead (2022)

 All of Us Are Dead (2022) มัธยมซอมบี้ Screenwriter:  Chun Sung Il Director:  Lee Jae Gyoo       ซีรีส์เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในโรงเรียนมัธ...