วันจันทร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

Hope (2013)

Hope (2013 film) aka Wish จับมือกันไว้…หัวใจไม่สิ้นหวัง
#ปีนรั้วรีวิว #Drama #Hope #SoWon
      หลังจากเพิ่งได้ดู Silenced (2011) เสียงจากหัวใจ... ที่ไม่มีใครได้ยิน จบไป…ทีแรกก็กะจะว่างเว้นหนังดราม่าซักหน่อย แต่พอดีนึกถึงหนังเรื่องนี้ขึ้นมาได้เพราะธีมหนังคล้ายๆกันเลยตัดสินใจดูต่อเนื่องกันไปเลย ผลที่ได้จากเรื่องนี้บอกตรงๆน้ำตาแตกท่วมจอหนักเลย

กับ Silenced เราสะเทือนใจก็จริงอยู่แต่หนังจะเน้นขยี้เราด้วยความไม่เป็นธรรมที่เหยื่อต้องเจอเป็นหลัก เราเลยมีแต่ความรู้สึกอึดอัดกับเรื่องราว แต่สำหรับ Hope หนังกลับพาเราไปเจออีกมุมมองอีกเรื่องราวของเหยื่อ ครอบครัว และเพื่อนๆ ที่รายล้อมทำให้เรามองเห็นความหวังและแสงสว่างที่อยู่ในใจของผู้คน เมื่อต้องรับมือกับเรื่องราวร้ายๆ


      โซวอน เด็กน้อยวัยเพียง 8 ขวบ ที่อาศัยอยู่กับแม่ที่เปิดร้านขายของชำและพ่อที่ทำงานโรงงาน ชีวิตประจำวันของเธอก็เหมือนเด็กทั่วๆไปคือไปโรงเรียนแล้วก็เดินกลับบ้านด้วยตัวเอง แต่บางครั้งโชคร้ายมันก็ไม่ได้เคาะประตูเตือนเรา

เมื่อเช้าวันฝนตกวันนึงขณะที่ โซวอน กำลังเดินไปโรงเรียนกลับเจอชายแปลกหน้าคนหนึ่งลักพาตัวเธอไป ทำสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น กว่าที่ ดองฮุนและมิฮี พ่อและแม่ของ โซวอน จะรู้เรื่องก็เมื่อตำรวจโทรตามตัวให้ไปยังโรงพยาบาล ซึ่งภาพที่ได้เห็นตรงหน้าคงไม่มีใครกลั้นน้ำตาได้อยู่ กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเด็กอายุเพียง 8 ขวบ 

      แต่ โซวอน ก็ยังโชคดีที่ได้มีชีวิตต่อ เพียงแต่เธอต้องกลายเป็นคนที่ไม่มีระบบขับถ่ายเหมือนคนอื่นๆอีกต่อไป สิ่งที่เธอและครอบครัวต้องเผชิญเป็นเรื่องร้ายๆที่คงไม่มีใครอยากเจอในชีวิตนี้ แต่อย่างน้อยในเรื่องร้ายๆก็ยังมีแสงสว่างมีความหวังเสมอหากคนรอบข้างพร้อมช่วยเหลือและจับมือเดินร่วมกันไป

เป็นหนังที่สารภาพตามตรงเลยนะว่าดูไปน้ำตาคลอไปทั้งเรื่อง ช่วงแรกของหนังเราก็สะเทือนใจกับเรื่องร้ายๆที่เกิดขึ้น แต่หลังจากนั้นหนังก็ทำเราให้ทั้งตื้นตันใจกับเรื่องราวดีๆที่ผู้คนต่างหยิบยื่นความช่วยเหลือให้กันและกัน มันมีแต่ความซาบซึ้งกินใจ แต่ก็ไม่วายที่หนังจะตัดสลับอารมณ์สะเทือนใจเช้ามาแทรกเป็นช่วงๆอยู่ดี

      เป็นหนังที่ค่อนข้าง Real ในหลายๆอย่าง คือมันเป็นเรื่องราวร้ายๆที่สามารถเกิดได้กับทุกคนโดยไม่รู้ตัว ซึ่งบางทีเราก็ไม่รู้จะป้องกันตัวเองยังไงเหมือนกันเพราะคนชั่วคนเลวมันก็มีอยู่ทุกที่ เหมือนกับ โซวอน ที่เดินอีกเพียงไม่กี่ก้าวก็จะถึงโรงเรียนอยู่แล้ว แต่ก็เกิดเรื่องร้ายๆขึ้นกับเธอจนได้

ใจความสำคัญของหนังเรื่องนี้ก็คือเมื่อเกิดเหตุขึ้นมาแล้วเราจะรับมือกับสถานการณ์นี้อย่างไร คนเป็นพ่อแม่หรือครอบครัวจะสามารถตั้งสติรับมือกับมันได้ไหม อย่างในเรื่องนี้แม้ ดองฮุน จะดูไม่เอาไหน เป็นพ่อที่ไม่รู้จักโต แต่เมื่อถึงช่วงเวลาวิกฤติของครอบครัวเขาก็ยังสามารถเป็นที่พึ่งพาได้ ในยามที่ลูกสาวและเมียต้องการเขามากที่สุด

      ส่วน มิฮี แม้จะดูเป็นแม่ที่ดื้อดึงและใช้แต่อารมณ์ แต่เพื่อลูกของตัวเองแล้ว เธอก็ยอมลดทิฐิลงมาเพื่อให้ลูกสาวได้รับการช่วยเหลืออย่างถูกวิธี แม้แต่เพื่อนๆของทั้ง ดองฮุนและมิฮี อย่าง กวางซิกกับเมียของเขา ที่คอยให้ความช่วยเหลือในยามที่เพื่อนต้องเจอกับปัญหาไม่ว่าจะเรื่องเงินทอง กำลังใจ หรือต่อให้ต้องออกแรงช่วยก็เต็มที่เสมอ

กระทั่งเด็กน้อยเพื่อนๆของ โซวอน เอง อย่าง ยองซุก และเพื่อนๆที่โรงเรียนก็ยังให้กำลังใจเพื่อให้ โซวอน ผ่านเรื่องราวร้ายๆไปได้

      ในหนังเรื่องนี้แล้ว ตัวร้ายของเรื่องนอกจากคนร้ายแล้วยังรวมไปถึงสื่อมวลชนที่กระหายข่าวจนเกินงาม รวมถึงแน่นอนที่ขาดไม่ได้เลยก็คือกระบวนการยุติธรรมที่มักจะมีช่องทางลดโทษให้คนกระทำผิดเสมอ

ความเจ็บปวดในใจของคนเป็นพ่อแม่ที่ลูกต้องมาเจอเรื่องราวร้ายๆมันก็แย่พอแล้ว แต่ ดองโฮ ยังต้องกลายเป็นพ่อที่ลูกสาวไม่อยากเข้าใกล้เพราะว่าในตอนนี้ โซวอน หวาดระแวงพ่อของตัวเองที่เป็นผู้ชายเหมือนกับคนร้าย สิ่งที่คนเป็นพ่อทำได้ก็เพียงเอาชุดมัสคอตตุ๊กตา Kokomong การ์ตูนที่ลูกสาวชอบดูมาสวมไว้เพื่อที่ลูกสาวจะได้ไม่รู้สึกหวาดกลัวตัวเอง

      เรื่องราวที่หนังเรื่องนี้พยายามถ่ายทอดไม่ได้ต้องการให้เราสะเทือนใจไปกับเรื่องราวร้ายๆที่เกิดขึ้น แต่เป็นการบอกกับเราว่า เมื่อมันเกิดเรื่องร้ายขึ้นมาแล้วเราและครอบครัว คนรอบข้างที่รายล้อมอยู่ รวมทั้งสังคม จะมีวิธีรับมือกับมันยังไง เพื่อที่จะทำให้เหยื่อและครอบครัวสามารถก้าวเดินต่อไปได

ใช่…ที่เราอาจจะเสียน้ำตาให้กับเรื่องราวสะเทือนใจกับชะตากรรมที่เหยื่อต้องเจอ แต่เรากลับเสียน้ำตาให้กับความอบอุ่นและเรื่องราวประทับใจหลังจากเหตุการณ์ร้ายๆมากกว่า เมื่อทุกคนต่างเดินจับมือโอบกอดกันไว้ แม้ในวันที่เจอเรื่องร้ายแรงที่สุดในชีวิต แต่เชื่อได้เลยว่า…เรายังมีความหวังที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างแน่นอน

      สรุปแล้ว Hope (2013) เป็นหนังที่แนะนำเลยว่าคอดราม่าควรดู แต่ถึงไม่คอดราม่าก็ดูได้หนังดีจริง อย่างที่บอกแม้หนังเองจะเป็นเรื่องราวร้ายๆที่ตัวละครต้องเจอ แต่ในโชคร้ายก็ยังมีเรื่องราวดีๆที่ คนในครอบครัว เพื่อนๆ รวมถึงคนในสังคมหยิบยื่นให้กัน เป็นหนังที่แม้จะเป็นเรื่องเศร้าแต่เราก็อิ่มเอมหัวใจกับเรื่องราวดีๆที่ทำให้เรามีความหวังกับเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
 
ฝากช่องยูทูปรีวิวหนังช่องเล็ก ๆ ด้วยครับผม:  https://www.youtube.com/channel/UCo1Txn08XONf92m_kngztWQ 
 
ขอบคุณภาพประกอบจากภาพยนตร์: Hope (2013)

#MovieReview #รีวิวหนัง



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: Dreaming Back to the Qing Dynasty (2019)

Dreaming Back to the Qing Dynasty (2019) ฝันคืนสู่ต้าชิง #Drama   #Romance Director: Lee Kwok Lap, Wai Hong Chui, Chen Shu Liang Screenwrite...