Review: Hibiki (2018)

 Hibiki (2018) ฮิบิกิ

#ปีนรั้วรีวิว #Drama Director: Shô Tsukikawa

      ฮิบิกิ อาคุอิ (Yurina Hirate) สาวน้อยมัธยมปลายผู้มีพรสวรรค์ในการแต่งนิยาย แต่ถึงจะเห็นว่าเธอเป็นเด็กแว่นเงียบ ๆ อีกด้านของ ฮิบิกิ กลับเป็นคนอ่อนไหวจุดเดือดต่ำ ถูกกระตุ้นต่อมโมโหได้ง่าย ๆ ทำให้ตั้งแต่วันแรกที่เด็กใหม่อย่างเธอเข้าไปสมัครชมรมวรรณกรรม ก็สร้างวีรเวรหักนิ้วรุ่นพี่จนพวกเขาหนีออกไปจากชมรมกันหมด

ฮิบิกิ ได้เขียนนิยายเรื่องสวนเทพนิยาย เพื่อส่งเข้าประกวดงานนักเขียนหน้าใหม่ โมคุเร็น แต่เจ้ากรรม…เธอดันไม่อ่านกติกาการส่งผลงานเข้าประกวด ทำให้ผลงานของเธอเกือบจะถูกโยนลงถังขยะไปเสีย แต่ยังโชคดีที่ได้ ฟูมิ ฮานาอิ (Keiko Kitagawa) บก.ของสำนักพิมพ์ที่จิตวิญญาณแรงกล้าหยิบมาเปิดอ่านเสียก่อน ฮานาอิ ชื่นชอบสวนเทพนิยายของ ฮิบิกิ เป็นอย่างมาก จึงพยายามที่จะผลักดันผลงานของเธอให้ได้ตีพิมพ์ แต่ปัญหามันอยู่ที่ ฮานาอิ ไม่รู้ว่าจะติดต่อกับ ฮิบิกิ ได้ยังไง และวันส่งผลงานเข้าประกวดมันก็กระชั้นเข้ามาทุกที

เอาเรื่องย่อประมาณนี้ก็แล้วกัน แล้วก่อนอื่นเลยก็ขอออกตัวว่าไม่เคยอ่านฉบับมังงะของ Mitsuharu Yanamoto มาก่อน ซึ่งเท่าที่เคยอ่านบางความเห็นผ่านตามา หลายคนก็ชื่นชอบกันพอสมควร ส่วนตัวผมเองเลยขอว่ากันเฉพาะความเป็นหนังแล้วกันครับ

Review: Golden Slumber (2018)

 Golden Slumber (2018)

#ปีนรั้วรีวิว #Action #Thriller Director: Dong-Seok Noh

      คิมกอนอู (Dong-won Gang) พนักงานส่งของที่ได้รางวัลพลเมืองดีเด่นสามเดือนซ้อน จากการที่เขาสวมบทเป็นฮีโร่ช่วยชีวิตนักแสดงสาวชื่อดังจากโจรเอาไว้ได้ ชีวิตของ กอนอู เปลี่ยนไปจากเดิม เมื่อเขากลายเป็นที่รู้จักไปทำงานที่ไหนก็มีแต่เด็ก ๆ มาของถ่ายรูป แต่สุดท้ายแล้วชายหนุ่มผู้แสนดีอย่างเขา ก็ยังย่ำต๊อกขับรถส่งพัสดุเหมือนเดิมอยู่ดี แต่ในวันนี้มีความพิเศษมากกว่าวันปรกติ เมื่อ มูยอล (Kye-Sang Yoon) เพื่อนซี้สมัยเรียนติดต่อเขาเข้ามาเพื่อนัดพบ แม้ กอนอู จะสงสัยว่าเพื่อนคนนี้คงจะยัดเยียดขายประกันให้แก่เขา เหมือนเพื่อนเก่าคนอื่น ๆ แต่ กอนอู ก็ยังเต็มใจที่จะออกมาพบ

เรื่องกลับกลายเป็นว่า มูยอล หลอกใช้ กอนอู เพื่อให้เขากลายเป็นผู้ต้องสงสัย คดีวางระเบิดผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเกาหลีใต้เสียชีวิต ยังไม่ทันที่ กอนอู ตั้งตัวจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ ก็ถูกไล่ล่าจากกลุ่มคนปริศนาที่หวังจะจับไปเป็นแพะรับบาป เขาจึงต้องพยายามหลบหนีเพื่อเอาชีวิตรอด แล้วใครกันล่ะที่เขาจะสามารถไว้ใจได้ในสถานการณ์เช่นนี้

Review: Papa katsu (TV Mini-Series 2017)

 Papa katsu (TV Mini-Series 2017) แด๊ดดี้ที่ไม่ได้แปลว่าพ่อ

#ปีนรั้วรีวิว #Drama

      อันริ อาคามะ (Marie Iitoyo) นักศึกษามหาลัยสาขาวรรณคดีฝรั่งเศส ครอบครัวของเธอกำลงมีปัญหา จากในตอนแรกพ่อทิ้งครอบครัวไปปล่อยให้เธออยู่กับแม่สองคน แต่ในตอนนี้แม่ก็กำลังมีผู้ชายคนใหม่เข้ามาในชีวิต และเห็นเขาดีกว่าลูกสาวอย่างเธอ ทำให้ อันริ ต้องระเห็จเก็บข้าวของออกจากบ้าน จะหันไปพึ่งพาแฟนแฟนก็ดันนอกใจไปคบกับเพื่อนซี้ของเธอเอง จะหันไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อน เพื่อนก็ต่างต้องการความเป็นส่วนตัว ในเวลาที่เธอเดือดร้อนเสียอีก

คนเดียวที่เต็มใจให้ความช่วยเหลือ อันริ ก็คือ มิโนรุ คาคิซาวะ (Kentarô Itô) เชฟหนุ่มที่ทำงานในร้านอาหารฝรั่งเศส ที่ อันริ ทำงานพาร์ทไทม์อยู่ แต่ อันริ กลับตอบปฏิเสธความหวังดีไป เพราะเธอคิดว่าพ่อรูปหล่อ มิโนรุ นั้นเจ้าชู้ไม่น่าไว้วางใจ คำแนะนำเพียงอย่างเดียวที่ อันริ ได้มาจากเพื่อนก็คือ การใช้แอพหาคู่สำหรับนักศึกษาสาว ๆ ที่ต้องการรายได้จาก Papa Katsu หรืองานเป็นเพื่อนกินเพื่อนเที่ยว สำหรับอาเสี่ยขี้เหงาทั้งหลายนั่นเอง

จากในทีแรก อันริ ที่พยายามทำงานเพื่อช่วยเหลือตัวเอง ก็ต้องยอมยกธงขาวสมัครแอพหาคู่และสร้างความบันเทิงให้แก่ป๋า ๆ ทั้งหลาย กระทั่งเธอได้มาเจอกับ วาตารุ คุริยามะ (Atsuro Watabe) หนุ่มใหญ่มาดนิ่ง ที่แม้วัยจะล่วงเลยมามากแล้ว แต่ก็ยังคงเหลือเค้าความหล่ออยู่พอสมควร เขาแตกต่างจากคนอื่นที่เพียงแค่พาเธอไปพัก ที่ห้องของเขาโดยที่ไม่แตะต้องอะไรเธอ

จนกระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้น อันริ ถึงได้รู้ว่าป๋าคนใหม่ของเธอคนนี้ก็คือ อาจารย์สอนวรรณกรรมฝรั่งเศสคนใหม่นี่เอง แล้วแบบนี้ อันริ จะทำยังไงดี เพราะหากปฏิเสธก็ต้องกลับไปนอนปวดหลังในร้านเกม แต่หากเดินหน้าต่อไปมันก็อาจมีปัญหาได้เช่นกัน หากใครรู้ว่าอาจารย์กับนักเรียนกำลังมีความสัมพันธ์กันอยู่

Review: Less than Evil (MBC/2018)

 Less than Evil (MBC/2018) 32EP

#ปีนรั้วรีวิว #Crime #Drama

      อูแทซอก (Shin Ha-Kyun) นายตำรวจเลือดบ้าที่สามารถทำได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะรุนแรงแค่ไหนหรือผิดกฎหมายก็ตาม หากมันทำให้เขาสามารถตามจับคนร้ายได้ อูแทซอก คนนี้ก็จะทำ หลังจากคดีล่าสุดของเขาจบไปได้ไม่นาน แทซอก ได้เจอกับใครบางคนที่คุ้นตาในอดีต ชายคนนั้นก็คืออัยการ จางฮยอนมิน (Kim Gun-Woo) เพียงแต่ภาพจำของ แทซอก ที่มีต่ออัยการคนนี้ก็คือ ฆาตกรที่ฆ่าใครบางคนที่เขาสัญญาว่าจะปกป้องเอาไว้ให้ได้
หลังจากที่ อูแทซอก รู้ถึงการกลับมาของศัตรูคู่แค้น จึงพยายามตามสืบเรื่องราวของ จางฮยอนมิน อีกครั้ง

แน่นอนว่าฆาตกรอย่าง จางฮยอนมิน เองก็ไม่ได้หยุดออกล่าเหยื่อ เมื่อเป้าหมายรายใหม่ของเขาคือ ภรรยาของตำรวจรายหนึ่งที่ถูกลักพาตัวไปจากบ้าน อูแทซอก ที่อยากแก้ไขความผิดพลาดจากเรื่องราวในอดีต จึงต้องพยายามหาทางช่วยชีวิตเหยื่อเอาไว้ให้ได้ และจัดการกับโจทย์เก่าอย่าง จางฮยอนมิน ให้ได้รับโทษอย่างสาสม

เพียงแต่เรื่องราวความแค้นระหว่างเขากับจางฮยอนมิน ดันมีตัวแปรที่ไม่คาดคิดมาก่อนนั้นก็คือ นักข่าวสาว อึนซอนแจ ที่ให้ความสนใจในตัว นักสืบอูแทซอก เป็นพิเศษ แล้วไม่นานนัก อูแทซอก ก็ได้ล่วงรู้ถึงความลับของนักข่าวสาวคนนี้ ที่ทำให้เขาได้นึกย้อนถึงความผิดพลาดในอดีตขึ้นมาอีกครั้ง

Review: La MAISON DE HIMIKO (2005)

 La MAISON DE HIMIKO (2005) 

#ปีนรั้วรีวิว #Drama #LGBTQ Director: Isshin Inudô

      ซาโอริ โยชิดะ (Ko Shibasaki) สาวพนักงานออฟฟิศที่มีหนี้สินท้วมหัว จนเกือบตัดสินใจทำงานพิเศษเป็นพนักงานเสียงตามสายขายเซ็กโฟนเสียแล้ว แต่จู่ ๆ ฮารุฮิโกะ (Joe Odagiri ) หนึ่งในคนที่เธอไม่อยากพบหน้ามากที่สุด ก็เดินทางมาถึงที่ทำงานเพื่อยื่นข้อเสนอพิเศษให้ นั่นคือการไปทำงานเป็นพนักงานชั่วคราวที่ La MAISON DE HIMIKO

บ้านพักคนชราซึ่งไม่เหมือนที่อื่นทั่วไป เมื่อที่นั่นคือบ้านพักคนชราของชาว LGBTQ ส่วนเจ้าของบ้านพักคนชราแห่งนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่นไกล เธอก็คือ ฮิมิโกะ (Min Tanaka) ชาย(ในตอนนั้น)ผู้ทำให้ ซาโอริ เกิดขึ้นมา อีกหนึ่งในคนที่เธอไม่อยากเจอหน้ามากที่สุด และเขากำลังจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน

ด้วยความเดือดร้อนเงินทองที่กำลังรุมเร้า ซาโอริ ทำให้แม้เธออยากจะปฏิเสธมากแค่ไหน ก็ต้องจำใจตกปากรับคำยอมไปทำงานพิเศษที่นั่น สถานที่ที่เธอไม่อยากไปที่สุด ซาโอริ ต้องไปอยู่ท่ามกลางกลุ่มคนรักร่วมเพศที่เธอแอนตี้สุดชีวิต เมื่อเธอคิดว่าเพราะพ่อทอดทิ้งเธอและแม่ไป ทำให้แม่ของเธอต้องเป็นทุกข์มีชีวิตที่ลำบาก ซาโอริ เองหนี้สินท่วมหัวก็เพราะต้องหาเงินมารักษาแม่ที่ป่วย แต่ผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อและสามี กลับหนีมาใช้ชีวิตที่ตัวเองต้องการอย่างมีความสุข

Review: The Witch: Part 1. The Subversion (2018)

 The Witch: Part 1. The Subversion (2018)

#ปีนรั้วรีวิว #Action #Mystery Director: Hoon-jung Park

      กูจายุน (Da-mi Kim) เด็กสาววัยรุ่น ที่อดีตของเธอคือเด็กในโครงการทดลองอาวุธสังหาร นำโดย ดร.เบค (Min-soo Jo) หัวหน้าโครงการในเกาหลีใต้ ที่คัดสรรเด็ก ๆ มาตัดต่อพันธุกรรม โดยนำยีนเด่นความสามารถพิเศษของสิ่งมีชีวิตบนโลก ใส่เข้าไปในตัวเด็กในโครงการ

แต่ จายุน เธอพิเศษกว่าคนอื่น เมื่อก้าวไปถึง Lv.1 ระดับการทดสอบสูงสุด เท่าที่เคยมีเด็กในโครงการทำได้ตั้งแต่อายุ 8 ขวบ แต่แทนที่การทดลองจะประสบผลสำเร็จ กลายเป็นว่าการก้าวไปถึง Lv.1 ของ จายุน ทำให้เธอ แข็งแกร่งจนองค์กรไม่สามารถควบคุมได้อีก

เธอหนีการไล่ล่าขององค์กรพ้นด้วยอาการปางตาย แต่โชคดีที่ จายุน ได้สองผัวเมียเจ้าของฟาร์มเลี้ยงสัตว์ช่วยชีวิตเอาไว้ พวกเขาตัดสินใจรับดูแล จายุน ที่ความจำเสื่อม จนเวลาผ่านไปนาน 10 ปี จายุน ในตอนนี้กลายมาเป็นเด็กมัธยมที่สดใส ขยันทำงาน แต่ด้วยอาการป่วยของคนเป็นแม่ทำให้ครอบครัวเป็นหนี้จนอาจต้องขายฟาร์ม

ซอนยอ (Woorim Jung) เพื่อนซี้ของ จายุน จึงชวนให้เธอเข้าสมัครประกวด Birth of a Star การแข่งขันประกวดร้องเพลงชิงเงินรางวัล ลูกกตัญญูอย่าง จายุน จึงไม่รอช้าตกลงเข้าแข่งขัน แต่ที่เธอทำพลาดก็คือ เผลอแสดงความสามารถพิเศษบนเวที จนทำให้องค์กรลับที่สร้างเธอมากับมือหาจนพบ และคราวนี้ จายุน ที่ความจำเสื่อมยังไม่รู้ว่าตัวเองคือใครจะเอาตัวรอดได้อย่างไร เมื่อคนที่มาไล่ล่าเธอต่างก็มีความพิเศษเช่นกัน

Review: Ano ko no, Toriko (2018)

 Ano ko no, Toriko (2018)

#ปีนรั้วรีวิว #Romance #Comedy Director: Ryô Miyawaki

      โยริ ซูซุกิ (Ryô Yoshizawa) หนุ่มแว่นนักศึกษาที่ตัดสินใจย้ายมาเรียนที่ สถาบันโฮริกิริในหลักสูตรทั่วไป เขาเป็นคนไม่มีความมั่นใจในตัวเอง เพียงแค่จะพูดคุยกับคนทั่วไปยังเปล่งเสียงออกมาได้แค่ในลำคอ ที่นั่น โยริ ได้พบกับ ชิสุกุ ทาจิบานะ (Yûko Araki) และ สุบารุ โทโจ (Yôsuke Sugino) เพื่อนสมัยยังเป็นเด็กน้อย ทั้งสามคนมีความใฝ่ฝันร่วมกันเมื่อครั้งยังเป็นเด็กว่า พวกเขาจะก้าวไปเป็นนักแสดงที่ยิ่งใหญ่ และหวังว่าจะได้แสดงหนังร่วมกันสักเรื่องหนึ่ง

แต่ความเป็นจริงในตอนนี้ที่เกิดขึ้นมีเพียงแค่ ชิสุกุกับสุบารุ เท่านั้นที่เข้าใกล้ความฝัน แม้ ชิสุกุ จะยังไม่เคยแสดงอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน แต่เธอก็เป็นนางแบบวัยรุ่นที่กำลังได้รับความนิยม ส่วน สุบารุ ก็เป็นนายแบบชื่อดังที่ฮอตในหมู่สาว ๆ ส่วน โยริ นั้นด้วยความที่ต้องย้ายที่อยู่ตามครอบครัวตลอด ทำให้ความฝันที่มีเช่นเดียวกับเพื่อนอีกสองคนมันช่างห่างไกลเหลือเกิน

แต่กลายเป็นว่า ชิสุกุ แนะนำให้บริษัทเอเจนซี่จ้าง โยริ มาเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้กับเธอ แล้วเหมือนโชคชะตาจะหันมาเข้าข้าง โยริ กับเขาบ้าง เมื่อเกิดปัญหาระหว่างการถ่ายทำโฆษณาชุดชั้นในของ ชิสุกุ ซึ่งมันอาจก่อปัญหาให้กับงานของเธอในอนาคตได้ โยริ จึงตัดสินใจอาสาเป็นนายแบบถ่ายงานคู่กับเธอเสียเอง แถมผู้กำกับ ฮิโรมุ คอนโดะ (Gorô Kishitani) ที่เห็นแววของ โยริ ก็สนับสนุนความคิดนี้เสียด้วย เลยกลายเป็นว่า ทันทีที่ภาพงานถ่ายแบบชุดนี้ถูกเผยแพร่ออกไป สาว ๆ ต่างให้ความสนใจหนุ่มปริศนาคนนี้ขึ้นมาทันที

Review: Double Mints (2017)

 Double Mints (2017) สองชายหัวใจเดียว

#ปีนรั้วรีวิว #Romance Director: Eiji Uchida

      มิตซึโอะ อิชิคาวะ (Yasushi Fuchikami) หนุ่มวิศวกรระบบ ถูกเพื่อร่วมงานวานให้ช่วยแก้ไขงานกลางดึก ยังไม่ทันที่เจ้าตัวจะแก้ไขงานจนเสร็จสิ้น จู่ ๆ ก็มีโทรศัพท์จากคนคุ้นเคยอย่าง มิตซึโอะ อิชิคาวะ (Shunpei Kawagoishi) เพื่อนร่วมชั้นสมัยเรียนมัธยมปลาย ที่ทั้งชื่อและนามสกุลเหมือนกับเขา สิ่งที่อดีตเพื่อนคนนี้โทรมาบอกก็คือ เขาเพิ่งพลั้งมือฆ่า อาซามิ (Ami Tomite) แฟนสาวของตัวเองไป และกำลังต้องการความช่วยเหลือจาก มิตซึโอะ ที่ฉลาดในการใช้สมองแก้ไขปัญหากว่าเขาเยอะ

ทันทีที่ มิตสึโอะ รู้เรื่องราวเขารีบตรงมาหาและช่วย อิชิคาวะ แก้ไขปัญหา ด้วยการขับรถพาขึ้นไปยังภูเขาและจัดการฝังศพเสีย ระหว่างทางที่ขับรถกลับลงจากเขา อิชิคาวะ เอาแต่บ่นเสียใจกับสิ่งที่ตัวเองทำ และบอกว่าเขาเองก็รัก อาซามิ ไม่น้อย แต่หลังจากที่ มิตซึโอะ ได้ยิน อิชิคาวะ พร่ำรำพึงหาแฟนที่ตายไปแล้ว เขากลับจอดรถกลางทางและพุ่งเข้าระดมจูบ อิชิคาวะ อย่างที่เจ้าตัวเองไม่ทันตั้งได้ตัว ทำให้ อิชิคาวะ หัวเสียกับเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งสองคนจึงแยกย้ายกันไป

แต่หลังจากเรื่องเกิดขึ้นได้ไม่กี่วัน อิชิคาวะ ที่รู้สึกผิดและตัดสินใจไปสารภาพกับตำรวจ พร้อมกับพาเจ้าหน้าที่ไปขุดหาศพของ อาซามิ พวกเขากลับไม่พบอะไรที่นั่น แม้ตำรวจจะไม่พบศพและคิดว่า อิชิคาวะ กุเรื่องขึ้นมา กลับยังมี โทชิโอมิ นาโอกะ (Kazuya Takahashi) นายตำรวจคนหนึ่งยังสงสัยเรื่องที่เกิดขึ้นและพยายามสืบหาความจริง

Review: The Soul-Mate (2018)

 The Soul-Mate (2018) คนกับผี คู่แสบแบบว่าป่วง

#ปีนรั้วรีวิว #Comedy #Fantasy Director: Cho Owen

      แทจิน (Young-kwang Kim) ตำรวจหนุ่มที่ทุ่มเททำหน้าที่อย่างสุดตัวทุกครั้ง เขาคบอยู่กับ ฮยอนจี (Yoo-Young Lee) แม่ค้าขายปลาในตลาด อาชีพตำรวจของ แทจิน ไม่เป็นที่ถูกใจเธอนัก สาเหตุก็เพราะเธอเป็นห่วงกลัวเขาจะได้รับบาดเจ็บ หรือเป็นอันตรายเพราะงานที่ทำ แล้วสิ่งที่ ฮยอนจี กลัวก็เกิดขึ้นจนได้ เมื่อ แทจิน พาตัวเองเข้าไปยุ่งกับคดีค้ามนุษย์ ถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บอาการโคม่าเป็นตายเท่ากัน

จางซู (Dong-seok Ma) โค้ชเทควันโดอดีตนักกีฬาชื่อดัง ผู้มีร่างกายกำยำแต่เจ้าตัวกลับเป็นคนไม่ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่น เรียกว่าต่อให้เห็นใครกำลังเดือดร้อนอยู่ตรงหน้า สิ่งที่เขาจะทำก็แค่เพียงเดินหนีออกมาเท่านั้น แต่การเข้าใจผิดกันระหว่างเขากับ แทจิน ทำให้ จางซู กลายเป็นพยานการถูกทำร้ายของ แทจิน

แล้วสิ่งที่ จางซู พยายามหลีกหนีมาตลอดอย่างการไม่ยุ่งเรื่องชาวบ้าน คราวนี้เขาก็ไม่สามารถหนีพ้นได้อีกต่อไป เมื่อวิญญาณของ แทจิน ดันหลุดออกจากร่าง แถมคนเดียวที่สามารถมองเห็นได้ก็คือ จางซู แทจิน ก็เลยทำตัวเป็นผีขี้ตื้อขอร้องให้ จางซู ช่วยสืบคดีที่ค้างคา และปกป้อง ฮยอนจี คนรักของเขาที่กำลังตกอยู่ในอันตราย

Review: DEMO, KEKKON SHITAI! (2018)

 DEMO, KEKKON SHITAI! (2018) BL Mangaka no kojirase konkatsuki แต่ฉันอยากแต่งงานอ่ะ

#ปีนรั้วรีวิว #Drama #Romance

      ฮารุโกะ ฟูจิตะ (Chiaki Kuriyama) นักวาดมังงะแนว BL (Boy’Love ความรักระหว่างผู้ชาย) ตอนนี้อายุของเธอปาเข้าไป 34 แล้วแต่ก็ยังไม่เป็นฝั่งเป็นฝาเสียที นั่นก็เป็นเพราะมังงะ BL ที่เธอรักนี่แหละที่เป็นสาเหตุ เพราะเมื่อผู้ชายคนไหนรู้ว่าเธอทำอาชีพอะไร พวกเขาต่างก็รับไม่ได้กับงานของเธอ ฮารุโกะ จึงถอดใจและไม่คิดมีครอบครัว

แต่ด้วยแรงยุส่งของ ทาจิบานะ คิริโกะ (Sano Hinako) ผู้ช่วยของเธอ ที่เล่าเรื่องราวระหว่างเธอที่ก็รักมังงะ BL เหมือนกัน แต่คนรักก็ยังรับได้กับเรื่องที่ว่า บวกกับการ์ดแต่งงานของอดีตเพื่อนร่วมอุดมการณ์ BL ของเธอ ที่เดินหน้าตัดสินใจมีครอบครัว ฮารุโกะ จึงคิดว่าเอาไงเอากันตายเป็นตายงานนี้ ตัดสินใจเข้าร่วมปาร์ตี้นัดบอดหาคู่ แต่ผลที่ได้คือเธอเองไม่กล้าก้าวออกจาก comfort zone

ไม่เปิดใจให้ใครและไม่กล้าที่จะบอกออกไปว่าตัวเองทำงานอะไร กระทั่ง ไทชิ แฟนหนุ่มของ คิริโกะ แนะนำให้ได้รู้จักกับเพื่อนรุ่นพี่ของเขา กลายเป็นว่าผู้ชายคนนั้นเหมือนเงาสะท้อนของตัว ฮารุโกะ เอง ที่มักโทษคนอื่นและงานที่ทำ แต่กลับไม่ยอมเปิดใจกับใครสักคน คราวนี้ ฮารุโกะ เลยมุ่งมั่นมากกว่าเดิมเพื่อค้นหาผู้ชายคนนั้นให้เจอ

Review: The Anthem of the Heart (2017)

 The Anthem of the Heart (2017) บทเพลงของหัวใจ

#ปีนรั้วรีวิว #Drama #Family Director: Naoto Kumazawa

      ตอนดูหนังเรื่องนี้ยังไม่เห็นเครดิตผู้กำกับว่าเป็นใคร พอมาเห็นเครดิตปุ๊บอ้าวเพิ่งจะดู Yurigokoro (2017) หนังของผู้กำกับ นาโอโตะ คุมาซาวะ ไปเมื่อไม่นานนี้เอง หยิบเอามาเปรียบกับเรื่องนี้เรียกว่าเป็นงานคนละแนวกันเลย

หนังเล่าถึง นารุเสะ จุน (Kyôko Yoshine) เด็กน้อยชั่งเจรจาที่เรียกได้ว่าพูดจนลิงหลับ เธอใฝ่ฝันถึงโลกแฟนตาซีจินตนาการเกี่ยวกับเจ้าชายและเจ้าหญิง แล้ววันหนึ่งเธอก็ได้พบกับพ่อของเธอที่เปรียบเสมือนเจ้าชาย ขับรถออกมาจากปราสาทพร้อมกับเจ้าหญิงคนหนึ่ง ทว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่แม่ของเธอ และปราสาทนั้นก็ไม่ใช่วังในนิทานแต่เป็นโรงแรมม่านรูด

ด้วยความชั่งพูดตามประสาเด็กน้อย เธอเอาเรื่องที่ว่านี้ไปเล่าให้แม่ฟัง จนมันกลายเป็นสาเหตุทำให้คำว่าครอบครัวมีอันจบลง หลังจากการแตกสลายของครอบครัว นารุเสะ กลายเป็นเด็กที่ไม่สามารถเปล่งเสียงพูดได้อีกต่อไป เพราะหากเธอพูดเมื่อไหร่อาการปวดท้องของเธอจะกำเริบทุกครั้ง เธอคิดว่ามันเป็นคำสาปติดตัวจากสิ่งที่ทำให้ครอบครัวแตกแยก

หลังจาก นารุเสะ เรียนชั้นมัธยมมาจนถึงปีสุดท้ายแม้จะพูดไม่ได้ก็ตาม เธอกลายเป็นคนแปลกแยกไม่มีเพื่อนและคนอื่นในโรงเรียน ก็รู้สึกประหลาดใจกับสิ่งที่เธอเป็น เมื่องานกิจกรรมพัฒนาชุมชนมาถึง ครูได้มอบหมายงานให้กับ นารุเสะ, นัตสึกิ นิโตะ (Anna Ishii), ทาคุมิ ซาคากามิ (Kento Nakajima) และ ไดกิ ทาซากิ (Kan'ichirô Satô)

โดยให้ทั้งสี่คนร่วมกันวางแผน และเป็นตัวแทนนำเพื่อนร่วมห้องจัดกิจกรรมขึ้นมา แต่ นารุเสะ เองก็ไม่สามารถพูดกับใครได้ นิโตะกับทาคุมิ ก็เคยมีความหลังต่อกันมาก่อน แถม ไดกิ เองก็ไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะทำงานกิจกรรมอะไรกับใคร แล้วทั้งสี่คนจะทำยังไงให้การจัดงานสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี เมื่อต่างฝ่ายต่างมีปัญหาส่วนตัวด้วยกันทั้งนั้น

Review: Dying To Survive (2018)

Dying To Survive (2018) สู้เพื่อความอยู่รอด

#ปีนรั้วรีวิว #Comedy #Drama Director: Muye Wen

      เจิ้งหยง (Zheng Xu) ชายที่เลิกรากับภรรยาไปแล้ว แต่ทั้งสองคนยังไม่สามารถตกลงเงื่อนไขการเลี้ยงดูบุตรได้ เจิ้งหยง เปิดร้านขายของชำและยาสมุนไพรเล็ก ๆ แต่สถานการณ์ทางการเงินของเขาไม่ดีนัก จนเจ้าหนี้อยากยึดร้านของเขาเต็มแก่แล้ว กระทั่งวันหนึ่ง Lv Shouyi (Chuan-jun Wang) เข้ามาพบกับเขาและเสนอให้ เจิ้งหยง นำเข้ายารักษาโรคมะเร็งจากอินเดีย ซึ่งราคาถูกกว่ายารักษามะเร็งที่ผลิตภายในประเทศ แต่ว่ายาที่พวกเขาจะนำเข้ามานั้น เป็นการแอบลักลอบนำเข้า ซึ่ง เจิ้งหยง เองไม่กล้าบ้าบิ่นพอที่จะทำอะไรเสี่ยงแบบนั้นในตอนนี้

แต่ด้วยอาการป่วยของพ่อที่ต้องการเงินเร่งด่วนเป็นค่ารักษา ทำให้ เจิ้งหยง ไม่มีทางเลือกและตัดสินใจติดต่อกับ Lv Shouyi และเดินทางไปยังประเทศอินเดียเพื่อเจรจากับโรงงานผลิตยา แต่การที่เขาแทบไม่มีเงินไปเลยทำให้ได้ยามาเพียงจำกัด และงานยากที่สุดของเขาก็คือการหาลูกค้านี่แหละ เพราะใครกันล่ะที่จะเชื่อถือยา

ซึ่งผลิตมาจากอินเดียที่พวกเขาอ่านฉลากยาไม่ออก แต่สุดท้าย เจิ้งหยง ก็ได้ความร่วมมือจาก Liu Sihui (Zhuo Tan) สาวระบำเปลื้องผ้าที่ลูกสาวเธอก็ป่วยเป็นมะเร็ง ไม่ใช่เพียงแค่เธอที่ต้องการยานั่น แต่ Liu Sihui ยังมีเครือข่ายผู้ป่วยมะเร็งมากมาย ที่สามารถบอกต่อให้พวกเขาเข้าถึงยาเถื่อนของ เจิ้งหยง ซึ่งมีราคาถูกกว่า ยาของนายทุนบริษัทผลิตยาในจีนหลายเท่าตัว

Review: Overlord (2018)

Overlord (2018) ปฏิบัติการโอเวอร์ลอร์ด

#ปีนรั้วรีวิว #Action #Adventure #Horror Director: Julius Avery

      ในวัน D-Day 5 มิถุนายน ปี 1944 พลร่มอเมริกาหลายชีวิตได้รับมอบหมายภารกิจ วางระเบิดศูนย์วิทยุของฝ่ายนาซีเพื่อตัดการติดต่อ ก่อนที่กองทัพอากาศและกองทัพเรือจะตามเข้าสมทบ แต่ระหว่างโดดร่มลงในพื้นที่ศัตรูพวกเขาถูกถล่มอย่างหนัก จนมีทหารเหลือรอดเพียงไม่กี่นาย นำทีมโดย ฟอร์ด (Wyatt Russell) ผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิด พลทหาร บอยซ์ (Jovan Adepo), ทิบเบ็ต (John Magaro), ช่างภาพทหารอย่าง เชส (Iain De Caestecker)และ ดอว์สัน (Jacob Anderson)

ฟอร์ด ยังนำทีมมุ่งหน้าทำภารกิจต่อแม้กำลังพลจะเหลือเพียงน้อย ระหว่างทางพวกเขาได้เจอกับ โคลอี้ (Mathilde Ollivier) สาวชาวฝรั่งเศสที่ออกมาขโมยข้าวของจากศพทหารที่เสียชีวิต ฟอร์ด ตัดสินใจให้เธอนำทางเข้าไปในหมู่บ้าน หาที่พักเพื่อเตรียมตัวก่อนจะบุกเข้าไปในค่ายของนาซี ระหว่างอยู่ที่นั่น บอยซ์ ยังได้ให้ความช่วยเหลือ โคลอี้ และยังล่วงรู้ความลับการทดลองที่น่ากลัวของพวกนาซีอีกด้วย