แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ หนังญี่ปุ่น(Japanese) แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ หนังญี่ปุ่น(Japanese) แสดงบทความทั้งหมด

วันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2568

Review: Oyabaka Seishun Hakusho (2020)

 Oyabaka Seishun Hakusho (2020)

#ปีนรั้วรีวิว #Comedy Director: Fukuda Yuichi
      ซีรีส์เนื้อหาน่ารักที่เล่าเรื่องราวของ ซากุระ โอบิกะ (นากาโนะ เมย์) ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของ ทาโร่ โอบิกะ (มุโระ สึโยชิ) พ่อเลี้ยงเดี่ยว นักเขียน ที่ทั้งชีวิตมีนิยายโด่งดังกับเขาอยู่เรื่องเดียว ซากุระ อยู่ในช่วงที่กำลังลุ้นว่าเธอจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้หรือไม่ ซึ่งคนเป็นพ่ออย่าง ทาโร่ ก็ดูจะเอาใจช่วยลุ้นแทนลูกสาวอย่างออกนอกหน้า แต่ความลับที่ ทาโร่ ไม่ได้บอกใคร แม้แต่ลูกสาวของตัวเองก็คือ ไอ้ที่เขากำลังลุ้นจนออกนอกหน้าอยู่นั้น มันเป็นเพราะว่า ด้วยความห่วงลูกสาว ทาโร่ ก็เลยแอบไปสอบเข้ามหาวิทยาลัย เพื่อหวังจะได้เข้าไปนั่งเรียนเป็นเพื่อนลูกสาว

วันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2568

Review: Momoiro Anzuiro Sakurairo (2021)

 Momoiro Anzuiro Sakurairo (2021)

#ปีนรั้วรีวิว #Romance 
รับชมได้ทาง MONOMAX
      คาวาคามิ อันสุ (โอคุนากะ มาโกโตะ) สาวพนักงานออฟฟิศที่เก็บทรงไม่อยู่ ดื่มหนักในงานเลี้ยงพนักงานจนอ้วกต่อหน้า คุโรดะ เท็ตสึยะ (คิซุ ทาคุมิ) หนุ่มแปลกหน้าที่บังเอิญเจอในงานเลี้ยง ก่อนที่วันต่อมา อันสุ จะได้รู้ว่าหนุ่มที่ตัวเองอ้วกแตกต่อหน้านั้น เป็นหนึ่งในสองพนักงานรุ่นน้องที่เพิ่งเข้ามาใหม่ เท็ตสึยะ เข้ามาทำงานพร้อมกับเพื่อนซี้ อันโด คาเครุ (นาคาฮาระ ฮิโรกิ) ด้วยความเป็นสองหนุ่มหน้าตาดี เนกิชิ ยูกะ (ซูซุกิ ยูกะ) รุ่นพี่ในที่ทำงานจึงแอบกระซิบถามเพื่อนซี้ อันสุ ว่าเล็งคนไหนไว้ แน่ล่ะว่าตัวเองเพิ่งทำเรื่องให้อายไปไม่นาน อันสุ ก็เลยบ่ายเบี่ยงไม่ตอบเพื่อนไปตรง ๆ ยูกะ ก็เลยบอกเพื่อนซี้ไปว่า ถ้าอย่างนั้นเธอขอจอง เท็ตสึยะ ก็แล้วกัน

วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

Review: Switched (2018)

 Switched (2018) ผลัดกันเป็นสาวป๊อป

      “คนไม่สวยผิดเสมอ” ขออนุญาตจั่วหัวด้วยคำ ๆ นี้เลย ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงผู้ชายหรือเพศไหนก็ตาม เกิดมาหน้าตาดีก็เหมือนมีต้นทุนชีวิต อะไรก็ดีงามไปหมดใครก็อยากเข้าหา ถ้าเกิดมาไม่ได้หน้าตาดีเหมือนคนอื่นก็ต้องเอาความสามารถเข้าสู้ หรือทำตลกกลบเกลื่อนเพื่อให้มีตัวตน แต่หากความสามารถก็ไม่มีแถมชีวิตก็ห่วยอีกล่ะ ใครจะมาเข้าใจว่าต้องพยายามแค่ไหนเพื่อให้มีที่ยืน ซึ่งหากไม่ลองมาเป็นเหมือนกันคงไม่มีวันเข้าใจ

วันเสาร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

Review: The Many Faces of Ito (2018)

 The Many Faces of Ito (2018) Series 8EP + Movie รักหลายหน้าของอิโตะ

ริโอะ ยาซากิ (Fumino Kimura) นักเขียนบทละครชื่อดัง จากผลงานสร้างชื่อ Tokyo Doll house ละครที่ทำให้เธอกลายเป็นไอค่อนเรื่องรักสำหรับผู้หญิง แต่หลังจากความสำเร็จครั้งที่ผ่านมา เป็นเวลาร่วมสองปีแล้วที่ ริโอะ กับ ชินยะ ทามูระ (Kei Tanaka) โปรดิวเซอร์คู่บุญของเธอ ยังไม่สามารถร่วมกันสร้างผลงานใหม่ๆออกมาได้ จนตอนนี้เบื้องบนเริ่มกดดันพวกเขามากขึ้นทุกที

ทามูระ จึงเกิดไอเดียจัดงานพูดคุยและแจกลายเซ็น ให้แก่แฟนคลับของ ริโอะ ขึ้นมา แล้วให้แฟนคลับของเธอ บอกเล่าเรื่องราวความรักของตัวเอง ซึ่ง ริโอะกับทามูระ รู้สึกสะดุดตากับเรื่องราวของสาว 4 คน ที่พวกเธอล้วนแต่เจอกับความรัก ที่ไม่สมหวังในรูปแบบแตกต่างกัน แต่เรื่องราวของทุกคนมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันก็คือ อิโตะ ชื่อชายคนรักของผู้หญิงทั้ง 4 คน

วันพุธที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

Review: Temp Staff Psychic Ataru (2019)

 Temp Staff Psychic Ataru (2019) 

      อาทารุ มาโทบะ (Hana Sugisaki) พนักงานชั่วคราว ที่เพิ่งได้เข้าร่วมงานกับทีม D แผนกวางแผนและจัดงานอีเว้นท์ของบริษัท Sincere Events เป็นงานแรกในชีวิต เธอเป็นคนมีบุคลิกสะดุดตาตั้งแต่ครั้งแรก ที่ คาสุมิ คันดะ (Mirai Shida) หนึ่งในสมาชิกทีม D มองเห็น ไม่ว่าจะการเดินก้มหน้าไม่สบตาใคร อยู่ในที่ร่มก็ยังใส่แว่นตาดำ อยู่ในลิฟต์ก็หันหน้าเข้าฝาผนัง แต่หลังจากที่ อาตารุ เริ่มแนะนำตัว เธอกลับสดใส เปลี่ยนไปเป็นคนละคนจนน่าแปลกใจ

งานแรกที่ทีม D ได้รับมองหมายหลังจาก อาตารุ เริ่มทำงานก็คือ การจัดอีเว้นท์ Smile Baby ให้กับผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก ซึ่งผู้จัดการฝ่ายอย่าง ทาคุมิ โยโยกิ (Mitsuhiro Oikawa) โยนปัญหาหนักอึ้งมาให้กับทีม ในการหาเด็กเข้ามาร่วมกิจกรรมในงาน แล้วคนที่ได้รับมอบหมายให้จัดการกับปัญหาที่ว่าก็คือ คันดะ ที่กำลังมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องเด็กๆอยู่พอดี เมื่อเธอกำลังตั้งท้องอ่อนๆกับแฟนที่ยังไม่มีงานทำ เพราะเขาอยากเป็นนักกฎหมายแต่สอบไม่ผ่านสักที ภาระหน้าที่หาเงินเข้าบ้านจึงตกมาเป็นของเธออยู่ฝ่ายเดียว

คันดะ ก็เลยกังวลว่าตัวเองจะใช้ชีวิตหลังจากนี้ยังไง เมื่อเด็กก็กำลังจะเกิดอนาคตแฟนก็ยังไปไม่ถึงไหน แล้วงานที่ตัวเองเพิ่งเริ่มทำมาได้เพียงสองปี หากต้องลาคลอดนานหลายเดือน มันจะยังมีที่ว่างให้เธอยืนเมื่อกลับมาหรือเปล่า อาทารุ ที่มองเห็นความกังวลของ คันดะ มากเข้าเรื่อยๆ จึงตัดสินใจใช้ความสามารถพิเศษของตัวเองนั่นก็คือ การดูดวง เพื่อช่วยหาแนวทางให้กับ คันดะ สามารถตัดสินใจเลือกเส้นทางชีวิตของตัวเองได้

วันจันทร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

Review: Toshi no Sakon (2020)

 Toshi no Sakon (2020) คู่แต่งงานต่างวัย

รับชมได้ทาง: iQIYI

#ปีนรั้วรีวิว #Romance Director: Ryuichi Hiroki, Hirofumi Inaba
      มุราคามิ ไมโกะ (อาโออิ วาคานะ) สาวพนักงานบริษัทพัฒนาอสังหาที่ยังโสด ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาจนถึงอายุ 24 ปี เธอยังไม่เคยคบใครเป็นตัวเป็นตนมาก่อนเลย จนคนเป็นพ่อเริ่มห่วงลูกสาวเพราะตัวเองก็อายุมากขึ้นทุกวันและสุขภาพชักไม่ค่อยแข็งแรง เขาจึงจัดการนัดบอดให้ ไมโกะ ได้พบกับ ฮานาซาโตะ ฮารุมิ (โทรุโนสุเกะ ทาเคซาอิ) หนุ่มผู้บริหารพนักงานในบริษัทของตัวเอง

แม้ในทีแรก ไมโกะ จะไม่ค่อยเต็มใจเพราะฝ่ายชายอายุมากกว่าตั้ง 20 ปี แถมยังผ่านการแต่งงานมาแล้ว แต่ด้วยความที่ขัดใจพ่อไม่ได้จึงยอมไปตามนัด เรื่องมันกลับตาลปัตรตั้งแต่เดทครั้งแรก เมื่อ ไมโกะ รู้สึกประทับใจ ฮารุมิ ที่ดูสุขุม อบอุ่น จนเธอกลายเป็นฝ่ายเอ่ยปากชวนออกเดทในครั้งต่อไป เวลาผ่านไปไม่นานแม้จะมีความต่างกันอยู่บ้าง ทว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองคนก็พัฒนาอย่างรวดเร็ว จนที่สุดแล้ว ฮารุมิ จึงตัดสินใจคุกเข่าของ ไมโกะ แต่งงาน เพียงแต่พวกเขาคิดอะไรรวดเร็วจนลืมไปหรือเปล่าว่า แค่คู่รักธรรมดาทั่วไปที่วัยใกล้เคียงกันยังมีปัญหามากมาย แล้วคู่ที่วัยแตกต่างกันถึง 20 ปีความต่างนี้มันจะเป็นอุปสรรคหรือเปล่า

วันจันทร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2568

Review: Survival Family (2016)

 Survival Family (2016) ครอบครัวเราต้องรอด

#ปีนรั้วรีวิว #Adventure #Family #Comedy Director: Shinobu Yaguchi
      หนังเล่าเรื่องราวของครอบครัวซูซุกิที่อาศัยอยู่ในโตเกียว หัวหน้าครอบครัวอย่าง โยชิยูกิ (Fumiyo Kohinata) เป็นมนุษย์เงินเดือน ที่ขยันขันแข็งตั้งหน้าตั้งตาทำแต่งาน ส่วนแม่บ้านอย่าง มิทสึเอะ (Eri Fukatsu) เป็นแม่บ้านเต็มเวลา ที่ออกจะไม่ค่อยถนัดกับงานบ้านสักเท่าไหร่ ยูอิ (Wakana Aoi) ลูกสาววัยมัธยมปลายที่พยายามตามแฟชั่นของเพื่อน และ เคนจิ (Yuki Izumisawa) ลูกชายคนโตหนุ่มมหาลัย ที่กำลังแอบชอบสาวเพื่อนร่วมชั้น ครอบครัว ซูซุกิ ที่ใช้ชีวิตคนเมืองอย่างปรกติสุขมาตลอด กลับได้เจอกับเรื่องท้าทายในเช้าวันหนึ่ง

เมื่อไฟฟ้าเกิดดับติดต่อกันเป็นเวลานานหลายวัน แล้วมันอาจจะไม่ใช่แค่การดับทั้งเมือง แต่อาจจะหมายถึงทั้งโลกด้วยซ้ำ จากที่เหตุการณ์เกิดขึ้นมาใหม่ ๆ ครอบครัว ซูซุกิ ยังสามารถ Romanticize ออกมายืนริมระเบียงกินลมชมดาวกันได้ แต่ยิ่งนานวันไปความลำบากจากการไม่มีไฟฟ้าใช้มันเริ่มส่งผลชัดเจนมากขึ้น หัวหน้าครอบครัวอย่าง โยชิยูกิ เลยตัดสินใจจะพาครอบครัวไปที่เมืองคาโกชิม่า ซึ่งเป็นบ้านของพ่อตา เพียงแต่มันจะไม่เป็นปัญหาอะไรเลยหากจุดหมายที่ว่า ไม่ได้อยู่ห่างไกลออกไป 900 กิโลเมตร

วันเสาร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2568

Review: Horimiya (2021)

 Horimiya (2021) สาวมั่นกับนายมืดมน

#ปีนรั้วรีวิว #Romance Director: Matsumoto Hana, Yoshino Mamoru
      โฮริ (คุโบตะ ซายุ) นักเรียนมัธยมปลายดาวเด่น เธอทั้งหน้าตาดี เรียนเก่ง แถมยังเป็นที่ชื่นชอบของเพื่อนรวมถึงหนุ่ม ๆ ในโรงเรียน สวนทางกับพ่อหนุ่มโลกมืดอย่าง มิยามุระ (ซูซุกะ โอจิ) หนุ่มแว่นที่ไว้ผมเพร่ารุงรังปิดหน้าปิดตา แล้วไม่ว่าอากาศจะร้อนแค่ไหนก็ยังใส่เสื้อสองสามชั้น ซึ่งเขามักจะโดนคนอื่นในโรงเรียนนินทาทั้งลับหลังและต่อหน้าเอาว่า คงเป็นพวกโอตาคุที่ชอบอะไร โมเอะ หากเรามองเพียงผิวเผินก็คงเห็น โฮริ เป็นสาวที่มั่นใจในตัวเอง ส่วน มิยามุระ เป็นหนุ่มแว่นหน้าจืดที่ขาดความมั่นใจ แต่สำหรับบางคนพวกเขาอาจมีอีกด้านหนึ่ง ที่เก็บเป็นความลับเอาไว้ก็ได้

โฮริ เป็นดาวเด่นเมื่ออยู่ที่โรงเรียน แต่ที่บ้านเธอคือพี่สาวของ โซตะ น้องชายวัยอนุบาล เธอต้องดูแลตัวเองและน้องทำงานบ้านทุกอย่างมาตั้งแต่เด็ก เพราะแม่ยุ่งแต่กับงานและพ่อต้องย้ายที่ทำงานไปอยู่ต่างเมือง ซึ่งชีวิตที่เป็นแบบนี้เธอไม่ต้องการให้ใครมาเห็น จนกระทั่งวันหนึ่งที่ โซตะ หายตัวไปจากศูนย์รับเลี้ยง ก่อนจะมีเด็กหนุ่มแต่งตัวรุงรังเจาะทั้งหูทั้งปาก เดินมาส่ง โซตะ ที่หน้าบ้าน ในทีแรก โฮริ ไม่ทันได้สังเกตว่าเด็กหนุ่มคนนี้เป็นใคร ก่อนที่เขาคนนั้นจะแนะนำว่าตัวเองคือ มิยามุระ เพื่อนร่วมชั้นอันแสนมืดมนของเธอ แม้ โฮริ จะตกใจกับลุคที่ไม่คุ้นตาของเพื่อนร่วมห้อง แต่ด้วยความที่ โซตะ น้องชายของเธอดันชอบ มิยามุระ ตั้งแต่นั้นมาเขาจึงกลายเป็นแขกประจำของที่บ้าน เพียงแต่ความสัมพันธ์ที่ดูจะพัฒนาไปในทางที่ดี มันก็ยังมีกำแพง เมื่อ มิยามุระ มองว่า ทั้งสองคนนั้นแตกต่างกันเกินไป แล้วตัวเขาเองก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้คนอื่น อาจมอง โฮริ ในทางไม่ดีเหมือนกับที่ตัวเองเคยเจอมาตลอด

วันพฤหัสบดีที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2568

Review: Sacchan, Boku wa (2024)

 Sacchan, Boku wa (2024) ซัตจังครับ...คือว่าผม

#Romance #Drama

"เราจะรู้ได้เมื่อไหร่ว่าเรารักใครสักคน บางคนอาจจะรู้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบ กับบางคนอาจจะเป็นตอนที่สูญเสียใครคนนั้นไปแล้ว"

คาตากิริ เคียวสุเกะ (Kimura Keito) เด็กหนุ่มที่มีอันต้องจากบ้านเกิดและ โอซาไน ซาชิ หรือ ซัตจัง (Nakayama Hinano) แฟนตัวเล็กปุ๊กปิกน่ารัก เพราะต้องเข้ามาเรียนมหาลัยต่อที่โตเกียว แต่การห่างกันครั้งนี้ เคียวสุเกะ ก็ดูไม่ได้อาลัยอาวรณ์เท่าไหร่ ถึงอย่างนั้นแฟนที่ดีอย่างซัตจังก็สัญญาว่า จะเขียนจดหมายเป็นบันทึกความทรงจำส่งถึงเขาทุกครั้งที่มีโอกาส

ที่โตเกียว เคียวสุเกะ เช่าห้องอยู่เพียงคนเดียว ซึ่งเจ้าตัวเองก็ไม่ได้เป็นคนกินเที่ยวหรือมีมนุษย์สัมพันธ์กับใครเท่าไหร่ ก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไรให้ ซัตจัง ที่โดนเพื่อนปั่นให้ระวังว่า เคียวสุเกะ จะไปเจอสาวคนใหม่ เพราะทั้งสองคนยังไม่เคยมีอะไรกัน แต่สิ่งน่าระวังที่ว่าดันไม่ได้อยู่ในสังคมภายนอก แต่เป็น คุนิกิดะ ชิโนะ (Ishikawa Ren) พี่สาวข้างห้องแม่บ้านอารมณ์เปลี่ยวที่ความสัมพันธ์กับสามีไม่ค่อยดี เพียงแค่ยกทรงตัวเดียวที่ปลิวมาตกหน้าห้องของ เคียวสุเกะ เขาคงไม่คิดว่าตัวเองจะเข้าไปอยู่ในความสัมพันธ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกในอนาคต

วันเสาร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2568

Review: One In A Hundred Thousand (2020)

 One In A Hundred Thousand (2020) ใจดวงนี้แสนรักเธอ

#ปีนรั้วรีวิว #Drama #Romance Director: Koichiro Miki
      ริโนะ ซากุรางิ (ไทระ ยูนะ) เด็กนักเรียนมัธยมปลายที่ใช้ชีวิตออกห่างจากผู้คน เพื่อนสนิทของเธอมีเพียง ชิฮิโระ ทาจิบานะ (มิโอะ ยูกิ) ซึ่งมีแฟนเป็นนักกีฬา เคนโด้ ของโรงเรียนอย่าง โช ฮินาเสะ (จิน ชิราสุ) แต่เหตุผลที่ทำให้ ริโนะ ติดสอยห้อยตาม ชิฮิโระ ไปสนามซ้อมเคนโด้บ่อยครั้ง ไม่ใช่เพียงแค่การตามเพื่อนไปนั่งเฝ้าแฟนเท่านั้น เมื่อ ริโนะ เองก็อยากเฝ้ามอง เร็น คิริทานิ (อลัน ชิราฮามะ) หัวหน้าชมรมเคนโด้คนที่เธอแอบชอบใกล้ ๆ

วันพุธที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2568

Review: The Brightest Roof in the Universe (2020)

 The Brightest Roof in the Universe (2020) หลังคาที่สว่างไสวในจักรวาล

#ปีนรั้วรีวิว #Family Director: Michihito Fujii
      หนังเล่าเรื่องราวของ สึบาเมะ โออิชิ (คายะ คิโยฮาระ) นักเรียนมัธยมปลาย เธออาศัยอยู่กับพ่อและแม่เลี้ยงที่กำลังตั้งท้อง สึบาเมะ มักจะแอบขึ้นไปนั่งเขียนจดหมายสารภาพความในใจถึง โทรุ อาซากุระ (เคนทาโร่ อิโตะ) เด็กหนุ่มนักดนตรีเพื่อนบ้าน บนดาดฟ้าของโรงเรียนสอนประดิษฐ์อักษรและวาดพู่กัน แต่ถึง สึบาเมะ จะเขียนมากมายหลายฉบับแค่ไหน เธอก็ไม่กล้าส่งให้เขาสักครั้ง จนในวันหนึ่งเธออดใจไม่ไหวเอาไปใส่ไว้ในตู้จดหมายหน้าบ้านของเขา แล้วในเช้าวันถัดไปแม้ สึบาเมะ จะเปลี่ยนใจก็ไม่ทันการ เมื่อจดหมายฉบับนั้นมันได้หายไปจากตู้แล้ว ตั้งแต่วันนั้นเธอก็เลยออกอาการทำตัวไม่ถูกเมื่ออยู่ต่อหน้า โทรุ

วันจันทร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2568

Review: Lying to Mom (2018)

Lying to Mom (2018) โกหกแม่กันเถอะ

#ปีนรั้วรีวิว #Drama Director: Katsumi Nojiri
      หนังเล่าเรื่องราวของ โคอิจิ (เรียว คาเสะ) ลูกชายคนโตของบ้าน ซูซุกิ เขาจมอยู่กับความทุกข์ใจและกลายเป็นฮิคิโคโมริ ไม่ยอมก้าวเท้าออกจากห้องมานานหลายปี แม้คนในครอบครัวจะพยายามให้ความช่วยเหลือ แต่เหมือนว่ามันจะไม่ได้ผล จนในที่สุด โคอิจิ ตัดสินใจจบชีวิตของตัวเองลง ซึ่งคนที่พบศพคนแรกไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น ยูโกะ (ฮิเดโกะ ฮาระ) แม่ที่คอยให้กำลังใจลูกชายคนนี้เสมอมา ทันทีที่เห็นลูกชายผูกคอตัวเองกับตู้เสื้อผ้า เธอรีบวิ่งลงมาในครัวเพื่อหยิบมีดในทันที แต่ภาพที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น ยูโกะ กลับนอนนิ่งอยู่ตรงหน้าร่างของลูกชาย และข้อมือเต็มไปด้วยรอยกรีด

วันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2567

Review: Inubu (2021)

 Inubu (2021)

#Drama Director: Tetsuo Shinohara
      โซตะ ฮานาอิ (Kento Hayashi) นักศึกษาสาขาสัตวแพทย์ปี 2 ที่รักสัตว์เป็นชีวิตจิตใจ ในอพาร์ทเมนท์ของเขาจะเต็มไปด้วยหมาแมวเร่ร่อน รวมถึงสัตว์อื่นที่บาดเจ็บเพื่อนำตัวมารักษา แล้วในวันหนึ่ง โซตะ ก็ได้เจอกับเรื่องท้าทายที่มีสาเหตุจากความรักสัตว์ของเขา เมื่อหมาที่เขาช่วยชีวิตไว้ตัวหนึ่งดันเป็นหมาของมหาลัย ซึ่งเตรียมไว้ให้นักศึกษาฝึกผ่าตัด แน่นอนว่าชะตากรรมของมันหลังจากนั้นก็คือการถูกการุณญฆาต

วันพฤหัสบดีที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2567

Review: Analog (2023)

 Analog (2023)

#Drama #Romance Director: Hideta Takahata
Writer: Takeshi Kitano (novel), Takehiko Minato
      ซาโตรุ มิซุชิมะ (Kazunari Ninomiya) นักออกแบบภายในที่เครดิตผลงานของตัวเองมักจะตกเป็นของเจ้านายบ่อยครั้ง เขามักจะนัดเพื่อนสนิทไปนั่งดื่มและพูดคุยที่เปียโน คาเฟ่ร้านประจำซึ่งเขาเป็นคนออกแบบด้วยตัวเอง ในวันที่นัดเพื่อนไปเจอกันเหมือนเช่นเคย ซาโตรุ ได้พบกับ มิยูกิ มิฮารุ (Haru) สาวสวยที่ชื่นชมงานออกแบบของ ซาโตรุ โดยเฉพาะห้องน้ำที่ออกแบบได้มีเอกลักษณ์ ส่วน ซาโตรุ เองก็สายตาเฉียบคมชื่นชมกระเป๋าที่ มิยูกิ ถืออยู่ซึ่งเป็นกระเป๋าแฮนด์เมดฝีมือของแม่เธอ

วันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2567

Review: Drawing Closer (2024)

Drawing Closer (2024) วาดรัก…จนกว่าจะหมดเวลา

#Drama #Romance Director: Takahiro Miki
Writer: Aoi Morita (novel), Tomoko Yoshida
      อากิโตะ ฮายาซากะ (Ren Nagase) นักเรียนมัธยมปลายที่เหมือนฟ้าฝ่าลงกลางหัว เพราะตอนนี้ที่แค่อายุสิบกว่าปีก็ได้รับข่าวร้ายว่าตัวเองป่วย เหลือเวลาใช้ชีวิตอีกเพียงแค่ 1 ปีเท่านั้น ในตอนที่กำลังยืนคิดทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้นซ้ำไปมาบนดาดฟ้าโรงพยาบาล อากิโตะ ก็ได้พบกับ ฮารุนะ ซากุไร (Natsuki Deguchi) สาวน้อยที่กำลังนั่งวาดรูปอยู่ที่นั่น อากิโตะ ที่เดินเข้าไปทักทายจึงได้รู้ว่า ระยะเวลา 1 ปีของตัวเองดูจะมากเสียด้วยซ้ำ เมื่อเทียบ ฮารุนะ ที่เหลือเวลาเพียงแค่ 6 เดือน เธอกลับสดใสดูไม่เหมือนกับคนที่จะอยู่ได้อีกไม่นาน ทำให้ อากิโตะ ไม่กล้าบอกออกไปว่าตัวเองก็เหลือเวลาอีกไม่มากเช่นกัน จากวันนั้น อากิโตะ เลยกลายเป็นแขกเยี่ยมไข้ขาประจำของห้อง 231 ห้องผู้ป่วยของ ฮารุนะ

วันพฤหัสบดีที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

Review: Bokura wa Koi ga Hetasugiru (2020)

 Bokura wa Koi ga Hetasugiru (2020) พวกเราน่ะห่วยเรื่องความรัก

  • Director: Sakamoto Eiryu
  • Screenwriter: Uchida Hiroki

      ฟุจิวาระ ฮานะ (คาวาชิมะ ยูมิกะ) สาวออฟฟิศที่กำลังตรอมใจหลังจากถูกแฟนบอกเลิก พยาบาลสาวเพื่อนซี้ที่คบกันมาตั้งแต่สมัยมัธยม อย่าง คาตายามะ มิซุกิ (อาซากาวะ นานะ) ก็เลยชวนเปลี่ยนบรรยากาศมาเที่ยวบ่อน้ำพุร้อนต่างเมือง ซึ่งการไปเที่ยวครั้งนี้มันทำให้ทั้งสองคนได้พบ นาริตะ โยสุเกะ (ชิราสุ จิน) กับ อิชิโนเสะ อายุมุ (ชิโอโนะ อากิฮิสะ) สองหนุ่มเพื่อนสนิทที่ โยสุเกะ ก็มีชะตากรรมไม่ต่างจาก ฮานะ เมื่อเขาก็เพิ่งถูกแฟนบอกเลิกมาเหมือนกัน นั่นจึงทำให้บทสนทนาระหว่าง ฮานะ กับ โยสุเกะ มีความน่าอึดอัดใจ สวนทางกับ มิซุกิ ที่ดูเหมือนว่าจะสนใจในตัวพ่อหนุ่ม โยสุเกะ 

วันพุธที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2567

Review: My Favorite Girl (2020)

 My Favorite Girl (2020) เธอคนโปรด

#Comedy #Romance Screenwriter & Director: Tamada Shinya
      คาโตะ ยูสุเกะ (Watanabe Daichi) หนุ่มนักเขียนบทละครโทรทัศน์ ที่มีเพื่อนซี้เป็นสาวช่างภาพสุดติสต์อย่าง ซาเอกิ มิโฮะ (Nao) เขาและเธอมักใช้เวลาร่วมกันเสมอไม่ว่าจะกินข้าวเดินเล่นหรือนั่งดื่มด้วยกัน แม้ต่างฝ่ายต่างมีสถานะเป็นเพื่อนที่รู้ใจ แต่นอกจากการใช้เวลาเที่ยวเล่นสนุกไปด้วยกัน ทั้งสองคนก็แทบไม่มีอะไรร่วมกันเลย เพื่อนสนิทของทั้งสองคนต่างไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ของพวกเขา ความรู้สึกของ มิโฮะ คนภายนอกอาจมองได้ไม่ชัดเจน แต่ความรู้สึกของ ยูสุเกะ ไม่ว่าใครก็มองออกว่าเขาชอบเพื่อนสนิทคนนี้ แต่การกลัวจะสูญเสียมิตรภาพไปเลยทำให้ ยูสุเกะ ตัดสินใจขังตัวเองอยู่ในเฟรนด์โซน

หนังญี่ปุ่นที่พูดถึงความชอบที่มีต่อใครสักคน แต่กลับไม่มีความกล้าจะพูดออกไป อีกฝ่ายเลยกลายเป็นแค่คนโปรด ไม่ใช่คนรัก หนังไม่เชิงพูดถึงการพลาดจังหวะโอกาสในการสารภาพความรู้สึก แม้ตลอดทั้งเรื่องเราจะเห็นว่าทั้งสองคนสนิทสนมหยอกล้อกัน สายตาที่มีให้กันเหมือนจะแอบเกินเพื่อนสนิท แต่ฝั่ง มิโฮะ ก็ไม่ชัดเจนมากเท่ากับ ยูสุเกะ เลยเหมือนเป็นการเล่าเรื่องผ่านมุมมองของ ยูสุเกะ ฝ่ายเดียว

หากเราชอบใครสักคนแต่ติดอยู่ในสถานะไม่ชัดเจน คงสะดุดกับบางสถานการณ์ในเรื่องนี้ ไม่ว่าจะตอนไปเที่ยวด้วยกันสองคนแล้วบังเอิญเจอเข้ากับคนรู้จัก ในสถานการณ์ที่เราต้องแนะนำอีกฝ่ายที่มาด้วยว่าเป็นใคร คือถ้าบอกว่าเป็นเพื่อนก็เหมือนโดดเข้าไปในเฟรนด์โซนทันที แต่จะแนะนำว่ามีความสัมพันธ์มากกว่านั้น แล้วอีกฝ่ายไม่คิด สถานการณ์ก็จะอึดอัดอีกแบบหนึ่ง

การที่เราอยากจะให้ของขวัญธรรมดาสักชิ้นยังต้องคิดแล้วคิดอีก เพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะตีความหมายของขวัญที่ว่าแบบไหน เหมือน ยูสุเกะ ที่ซื้อเค้กไปแสดงความยินดีในงานแสดงภาพถ่ายของ มิโฮะ แต่กลับไม่ให้เธอตั้งแต่เริ่มจนจบงานกลับบ้าน ต้องเดินถือถุงเค้กติดตัวตลอดเพราะไม่มีความกล้ามากพอ หรือฉากที่ต้องเดินกันสามคนแล้ว ยูสุเกะ ที่อยู่ในสถานะเพื่อน จะค่อย ๆ เดินช้าลงจนถอยห่างออกมาเรื่อย ๆ ที่สุดแล้วอีกอย่างหนึ่งคือมักจะกล้าพูดถึงความรู้สึกที่มีกับคนอื่น แต่ไม่กล้าพูดออกมาต่อหน้าที่คนชอบ

ผมชอบประเด็นของหนังนะ ส่วนหนึ่งเพราะบางสถานการณ์ในหนังมันทำให้นึกย้อนถึงเรื่องที่ลืมไปแล้ว ว่าเออครั้งหนึ่งเราก็เคยมีเพื่อนผู้หญิงคนโปรดอยู่เหมือนกันนะ คือนานมาก แล้วก็แค่ช่วงสั้น ๆ แค่นั้น ไม่ได้ติดต่อไม่ได้เจอกันนานมาก ตอนนี้ไม่ใช่แค่ไม่ใช่คนโปรดแต่คงจะเป็นคนแปลกหน้า เดินสวนก็คงจำกันไม่ได้กันไปแล้วล่ะ ฮ่าฮ่า

การเล่าเรื่องของหนังก็ตามสไตล์หนังนอกกระแส ไม่ค่อยมีเนื้อเรื่อง ใช้วิธีเล่าผ่านสถานการณ์ที่ตัวละครเจอ เพื่อสื่อสารของใจความของหนัง ถามว่าสนุกไหมบอกได้ว่าไม่สนุก แต่ก็มีเสน่ห์ตามสไตล์หนังนอกกระแส ในการดูรีแอคของตัวละครที่มันสื่อความหมายในฉากนั้น ตอนจบของหนังอาจจะชวนเหวอสักนิด เอาจริงก็พอตีความได้ไม่เกินสามทาง แต่ส่วนตัวคิดว่าด้วยอาชีพของ ยูสุเกะ ความเป็นไปได้จริง ๆ น่าจะเหลือแค่บทสรุปเดียว

#MovieReview #รีวิวหนัง

วันจันทร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2567

Review: Marry Me! (2020)

 Marry Me! (2020) ถ้าให้ดีมาแต่งงานกัน

#ปีนรั้วรีวิว #Romance
      ชิน อาคิยาสุ (โทชิกิ เซโตะ) หนุ่มเจ้าหน้าที่รัฐ ที่กลายเป็นหนูทดลองของรัฐบาลในกฎหมายฉบับใหม่ ที่ออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาเด็กเกิดใหม่น้อยในสังคมญี่ปุ่น กฎหมายที่ร่างขึ้นมาเพื่อคุ้มครอง NEET กลุ่มคนที่วัน ๆ ไม่ทำอะไรเอาแต่เก็บตัวอยู่ในบ้าน ชิน ได้รับมอบหมายให้จับคู่กับผู้หญิงที่ลงทะเบียนผ่านหมอพร้อม ไม่ใช่ซิ ฮ่าฮ่า (ลงทะเบียนจนหลอน) เขาได้จับคู่กับหนึ่งในสาว NEET อาสาสมัครที่เสนอตัวเข้าร่วมโครงการ แต่ทว่า ฮิมาริ ซาวาโมโตะ (รินกะ คุมาดะ) สาว NEET ที่กำลังจะกลายมาเป็นภรรยาของเขา ดันไม่เต็มใจจะเข้าร่วมโครงการซะแล้ว เพราะอันที่จริงมันเป็นความต้องการจากยายของเธอที่เพิ่งเสียชีวิตไป ไม่ใช่ความต้องการของเธอเอง

วันจันทร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

Review: Birthday Card (2016)

Birthday Card (2016)

#ปีนรั้วรีวิว #Drama #Romance Director: Yasuhiro Yoshida
      โนริโกะ ซูซุกิ (ไอ ฮาชิโมโตะ) ผู้หญิงที่กำลังนั่งให้สัมภาษณ์กับใครบางคนอยู่ เธอเล่าย้อนไปถึงวัย 10 ขวบของตัวเอง ในช่วงประถม โนริโกะ เป็นเด็กเก็บตัวความสัมพันธ์กับเพื่อนในวัยเดียวกันไม่ดีนัก ยิ่งกับการถูกเพื่อนกดดันระหว่างการแข่งขันตอบปัญหาภายในโรงเรียน เธอเลยบอกกับตัวเองและใคร ๆ ว่า ชีวิตของเธอมีบทบาทเป็นเพียงตัวประกอบก็เพียงพอแล้ว ด้วยความเป็นแม่ที่ห่วงลูกสาว โยชิเอะ (อาโออิ มิยาซากิ) จึงเอ่ยปากไถ่ถามความรู้สึกของลูก แต่ โนริโกะ กลับย้อนถามว่า “แล้วแม่ล่ะ ที่เป็นอยู่ตอนนี้มันใช่ชีวิตที่ฝันไว้หรือเปล่า พอใจกับชีวิตตัวเองตอนนี้จริงหรือ” เล่นทำเอา โยชิเอะ เปิดตำราหาคำตอบให้กับลูกไม่ถูกเหมือนกัน

เพียงแต่ยังไม่ทันที่ โยชิเอะ จะหาคำตอบของคำถามนั้นมาให้กับลูกสาวได้ เธอก็ล้มป่วยด้วยโรคร้ายแรงที่รักษาไม่หายเสียก่อน ในช่วงสุดท้ายของชีวิต โยชิเอะ พยายามสร้างความทรงจำที่ดีกับสามี โชอิจิโร่ (ยูสุเกะ ซานตามาริอะ) ลูกสาว โนริโกะ และลูกชายคนเล็ก มาซาโอะ (ดคนตะ สุกะ) เพื่อให้คนในครอบครัวที่เหลือ สามารถเดินหน้าใช้ชีวิตต่อไปได้ โดยที่ โยชิเอะ ให้คำมั่นสัญญากับลูกสองคนว่า เธอจะส่งการ์ดอวยพรวันเกิดมาให้ทุกปี จนกว่าพวกเขาจะอายุครบ 20 ปี แม้ว่าเธอจะจากโลกใบนี้ไปแล้วก็ตาม

วันอังคารที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

Review: The Greatest Teacher (2023)

The Greatest Teacher (2023) 

#Thriller #Youth #Mystery Director: Suzuki Yuma
      รินะ คุโจ (Mayu Matsuoka) ครูมัธยมปลายที่กำลังยืนกินลมชมวิวตั้งคำถามถึงอาชีพครูของตัวเอง แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้คำตอบอะไรกลับมา รินะ ก็ถูกผลักจากด้านหลังตกลงไปเสียชีวิต โดยที่ไม่รู้ว่าใครหรือสาเหตุอะไรทำให้ตัวเองลงเอยอย่างนั้น เพียงอย่างเดียวที่ รินะ พอจะมองเห็นขณะกำลังตกลงไป คือชายแขนเสื้อที่บอกได้ชัดเจนว่าใครคนนั้นเป็นนักเรียนในห้องที่เธอเป็นครูประจำชั้นอยู่

หลังจากที่ รินะ คิดว่าตัวเองต้องตายไปแล้วแน่ ๆ เธอกลับรู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้งในคาบโฮมรูมของนักเรียนปี 3 ห้อง D แล้วจะบอกว่าภาพความตายเมื่อกี้เป็นความฝันก็ไม่ได้ เพราะเธอได้ย้อนเวลากลับไป 1 ปีก่อนหน้าในวันเปิดภาคเรียน สิ่งที่ รินะ คิดได้ในตอนนั้นคือการเปลี่ยนแปลงอนาคต ที่จะเกิดขึ้นกับตัวเองในวันจบการศึกษา ซึ่งคนแรกที่เธอจะต้องเปลี่ยนแปลงก็คือตัวเอง เธอจะต้องกลายเป็นครูที่ไม่ตั้งคำถามถึงการทำหน้าที่ของตัวเองเหมือนที่ผ่านมา

Review: Hi Venus (2022)

  Hi Venus (2022) บังเอิญพบรัก Screenwriter:   Wang Xiong Cheng Director:   Wang Zheng   รับชมทาง MONOMAX/ VIU       ลู่เจาซี (เจิงซุ่นซี) ห...