Parallel World Love Story (2019) ความรักโลกขนาน
#ปีนรั้วรีวิว #Drama #Mystery Director: Yoshitaka Mori
ทว่าหลายเดือนต่อมาที่ โทโมฮิโกะ มิวะ (Shôta Sometani) คนที่เป็นทั้งเพื่อนซี้และเพื่อนร่วมงานของเขา นัดเจอเพื่อเปิดตัวแฟนที่เพิ่งคบกันหมาด ๆ กลายเป็นว่าสาวสวยน่ารักที่เขาเห็นตรงหน้าก็คือ มายูโกะ สึโนะ ผู้หญิงที่น่าจะเป็นคนเดียวกับที่เขาเห็นบนขบวนรถไฟ ซึ่งเจ้าตัวได้แต่เก็บเรื่องนี้เอาไว้ในใจไม่สามารถบอกใครได้ ก่อนในคืนนั้นจะกลับมานอนที่บ้านอย่างคิดไม่ตก กระทั่งรุ่งเช้า สึรุกะ ตื่นขึ้นมาก็พบว่าเขาอาศัยอยู่กับ มายูโกะ โดยรู้จักกันผ่านการแนะนำของ โทโมฮิโกะ มิวะ อ้าว…แล้วแบบนี้เหตุการณ์ในโลกไหนมันคือ ความจริง หรือว่า มันจริงทั้งสองโลกกันล่ะ
เอาจริงหนังเดาไม่ยากหรอกว่าเป็นการใช้ทฤษฎีโลกคู่ขนาน หรือว่าใช้เทคนิคแบบไหนในการเล่าเรื่อง เพราะหนังบอกใบ้ไว้ค่อนข้างชัดตั้งแต่ต้นเรื่องอยู่แล้ว ว่าเนื้อหาของวิทยาศาสตร์ในหนังเกี่ยวกับอะไร ซึ่งการใช้วิธีแบบนั้นมันตอบโจทย์ปมดราม่าของตัวละครได้ดีด้วย เมื่อคนเราก็มักอยากจะหลีกหนีสิ่งไม่พึงใจอยู่เสมอ ไม่ว่าจะการไม่อยากรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นหรือกระทั่งการหลอกตัวเอง เพื่อหล่อเลี้ยงชีวิตให้ผ่านพ้นไปในแต่ละวัน
หากความดีงามของหนังคือ ไอเดีย ส่วนที่เป็นด้านตรงข้ามก็เห็นจะเป็น การเล่าเรื่องที่ไม่ชวนติดตามเท่าไหร่ ไม่ค่อยเน้นปริศนาหรือการไขความจริงหนังเลยขาดความน่าติดตาม ด้านที่หนังให้น้ำหนักจะเป็นเรื่องของ อารมณ์ ความรู้สึก ของแต่ละตัวละครมากกว่า ว่าอะไรมันคือแรงผลักดันให้พวกเขาเลือกทางเดินนั้น
การเล่าเรื่องของหนังพยายามทำให้ตัวละคร สึรุกะ กับ คนดูสับสน ว่าตกลงแล้วเหตุการณ์ไหนที่เป็นเรื่องจริงกันแน่ ระหว่าง มายูโกะ เป็นคนรักของเขา กับ มายูโกะ เป็นคนรักของ มิวะ สำหรับคนดูจะว่าเดาง่ายมันก็พอได้ จะว่าเดายากมันก็ไม่ผิดนัก(ตกลงง่ายหรือยาก ฮ่าฮ่า) เมื่อมันมีเพียงแค่สองตัวเลือกให้คนดูคาดเดา ส่วนหนังเองก็มาเฉลยความลับเอาหลังจากผ่านครึ่งเรื่องมาแล้ว
เป็นหนังอีกเรื่องหนึ่งที่ความรู้สึกก้ำกึ่ง คือมันมีส่วนที่ไม่ถูกใจ การดำเนินเรื่องของหนังค่อนข้างช้า ไม่น่าติดตามเท่าไหร่ แต่ไอเดียของหนังดีงาม มันทำให้เราอยากรู้ว่าตกลงแล้วเกิดอะไรขึ้นกับ สึรุกะ ใครเป็นคนทำแบบนั้นกับเขา แล้วอะไรมันคือ แรงผลักดัน เมื่อถึงตอนที่หนังเปิดเผยเนื้อหาออกมาทุกอย่าง มันชวนหน่วงอยู่เหมือนกันนะ เมื่อมันแฟนตาซีคนที่รู้สึกผิด เป็นทุกข์ แล้วอยากจะหลีกหนีไปจากโลกใบเดิมให้พ้น ๆ แล้วทางที่จะหนีได้ก็คือการลบโลกใบเก่าแล้วสร้างโลกใบใหม่ขึ้นมา เพื่อลบล้างความรู้สึกผิด ความเจ็บปวด ที่ผ่านมา
แม้ผมจะชอบไอเดียของหนังที่เล่นประเด็นการหลีกหนีความรู้สึกด้านลบ แต่ส่วนตัวผมลึก ๆ แล้วมีความเห็นแย้งกับตัวละครอยู่เหมือนกัน เพราะหากเราทำผิดแล้วสามารถหลีกหนีความรู้สึกผิดนั้นไปได้ มันก็เท่ากับเราจะไม่ได้เรียนรู้อะไรเกี่ยวกับมันเลย หรือหากต่อให้เราเป็นฝ่ายถูกกระทำจนเสียใจ เสียความรู้สึก สิ่งนั้นก็คือ บทเรียนในการเรียนรู้ที่จะดูคนด้วยเช่นกัน
สรุปแล้ว Parallel World Love Story (2019) ความรักในโลกขนาน เป็นหนังในสไตล์ที่คอหนังญี่ปุ่นคุ้นเคยกันอยู่แล้ว น่าจะไม่ติดในเรื่องที่หนังดำเนินเรื่องช้า แต่คอหนังแมสทั่วไปอาจจะมีชวนลำไยบ้างเหมือนกัน ส่วนตัวผมเองก็อย่างที่บอกไปว่าค่อนข้างก่ำกึ่ง อธิบายความรู้สึกออกมายากว่าชอบหรือไม่ชอบ เหมือนกับการทำความเข้าใจกับตัวละครและหนังเรื่องนี้นั่นแหละ
ขอบคุรภาพประกอบจากภาพยนตร์: Parallel World Love Story (2019)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น