วันศุกร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2565

5 หนังรักของคนปากแข็ง

5 หรังแอบรักของคนปากแข็ง

ลิสต์หนังที่ผมเอามาแนะนำกันในวันนี้ ผมได้ไอเดียมาจากซีรีส์แนวเพื่อนรักแอบรักเพื่อนเรื่องหนึ่ง ที่เพิ่งจบไปไม่นานนี้ครับ กับ 5 หนังรักของคนปากแข็ง หนังรักที่มาพร้อมกับความอ้ำอึ้ง ปากหนัก ไม่กล้าสารภาพความในใจออกไป ส่วนมีเรื่องอะไรบ้างมาติดตามอ่านกันได้เลยครับ 

Review: Search (2020)

 Search (2020) ค้น ล่า ท้ามัจจุราช

      ซีรีส์เล่าถึงเหล่าทหารเกาหลีใต้ ที่ประจำอยู่ใกล้แนวเขต DMZ หรือว่าเขตปลอดทหารชายแดนระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ เมื่อในวันหนึ่งมีทหารสองนายขาดการติดต่อ หายตัวเข้าไปในเขตปลอดทหาร ท่ามกลางกระแสข่าวว่าเกิดโรคพิษสุนัขบ้าระบาดในสัตว์เขตนั้น ทางกองทัพจึงจัดตั้งทีมขึ้นมาเพื่อค้นหาทหารที่หายตัวไป ยงดงจิน (Jang Dong-Yoon) ทหารควบคุมสนุขดมกลิ่น ที่ใกล้ปลดประจำการ และเจ้าเลโอสุนัขคู่ใจ ถูกเรียกตัวด่วนเข้าร่วมทีมค้นหา ร่วมกับ ซนเยริม จากหน่วยป้องกันด้านชีวภาพ เพียงแต่หลังจากปฏิบัติการค้นหาทหารสองนายที่หายไปจนพบ มันกลับกลายเป็นเรื่องชวนสยองขวัญ เมื่อหนึ่งในทหารที่เสียชีวิตดันฟื้นตื่นขึ้นมา เนื่องจากได้รับเชื้อลึกลับบางอย่างในเขตปลอดทหาร แล้วดูเหมือนว่าผู้ติดเชื้อจะไม่ได้มีแค่หมาป่าและทหารที่หายตัวไปเท่านั้น แต่มันอาจเกี่ยวข้องถึงความลับบางอย่างในอดีต ที่เหล่าผู้มีอำนาจอยากจะปกปิดมันเอาไว้อีกด้วย

วันอังคารที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2565

Review: Alice in Borderland (2020) SS1

 Alice in Borderland (2020) 

      ซีรีส์เริ่มเล่าเรื่องราวจากกลุ่มเพื่อนซี้สามคนอย่าง เรียวเฮย์ อาริสุ (Kento Yamazaki) หนุ่ม NEET ที่ไร้เป้าหมายในชีวิต โชตะ (Yuki Morinaga) หนุ่มพนักงานออฟฟิศที่มีแม่เคร่งศาสนา และ คารุเบะ (Keita Machida) หนุ่มหัวทองที่ถนัดในเรื่องใช้กำลัง ทั้งสามคนกลายมาเป็นเพื่อนซี้กันเพราะต่างก็คิดว่า ตัวเองนั้นแปลกแยกจากคนอื่น แต่กลับกันในความคิดของ คารุเบะ นั้นกลับมองว่า คนอย่าง อาริสุ ดีเกินกว่าจะมาเสียเวลาอยู่กับเขา

จากความคิดเล่น ๆ ของทั้งสามหนุ่ม ที่อยากจะไปอยู่ในโลกที่ใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ ทำอะไรตามใจก็ได้ ใครมันจะไปคิดว่าพวกเขาจะหลุดเข้าไปอยู่ในโลกแบบนั้นจริง ๆ เมื่อคนทั้งเมืองหายไปอย่างไร้ร่อยลอย สิ่งที่เหลืออยู่คือตึกรามบ้านช่องที่มีแต่ความว่างเปล่า นอกจากพวกเขาแล้ว ที่แห่งนั้นยังเหลือคนเพียงแค่คนไม่กี่คน แล้วก็ยังไม่ทันที่ทั้งสามคนจะทันได้ตั้งตัวได้ พวกเขาก็ถูกเชิญเข้าไปอยู่ในเกมอันตราย ที่ผลลัพธ์ของความพ่ายแพ้ก็คือความตาย โดยไม่สามารถรีตาร์ทเริ่มเกมใหม่ได้ เหมือนทุกเกมที่พวกเขาเคยเล่นมา

วันศุกร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2565

Review: Master of My Own (2022)

 Master of My Own (2022) ขอโทษทีฉันไม่ใช่เลขาคุณแล้ว

#Drama #romance

รับชมได้ทาง VIU
      หนิงเหมิง (ถานซงอวิ้น) ผู้หญิงยุคใหม่ที่มีความใฝ่ฝันอยากเป็นผู้จัดการการลงทุนมาโดยตลอด แต่ความเป็นจริงเธอกลับกลายมาเป็นเลขาของ ลู่จี้หมิง (หลินเกิงซิน) ประธานบริษัทจี้หมิงแคปปิตอล ที่ไม่ว่าเลขาคนไหนก็มีอันทำงานกับเขาได้ไม่นาน มีแค่เพียง หนิงเหมิง ที่ยอมทนถูกโขกสับไม่ปริปากบ่น เพียงเพราะหวังว่าวันหนึ่งเธอจะได้ย้ายไปยังแผนกโครงการ แต่เจ้ากรรมเวลาผ่านมาปีแล้วปีเล่าเธอก็ยังไม่ได้ไปตามความฝันสักที หนิงเหมิง ก็เลยยื่นคำขาดกับประธานลู่ว่า หากไม่ยอมย้ายเธอไปแผนกโครการล่ะก็ เธอจะยอมลาออกไปตามความฝันที่อื่นแทน มันก็แน่นอนว่าประธานลู่ที่กว่าจะได้เลขารู้ใจมันชั่งยากแสนเข็ญ เขาจึงพยายามทำทุกทางเพื่อรั้งตัวเลขาคนนี้เอาไว้ เพียงแต่ไอ้ความพยายามรั้งตัวเอาไว้ จุดประสงค์มันแค่เพียงไม่อยากเสียเลขาคนนี้ไป หรือลึก ๆ แล้วเขาไม่อยากเสีย หนิงเหมิง ไปในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง

Review: Ending Cut (2022)

 Ending Cut (2022) 

      ซาโกตะ ยุย (มานะ อาชิดะ) นักเรียนมัธยมปลายที่ครอบครัวใช้ชีวิตในชุมชนชายทะเล พ่อและแม่ของ ยุย เปิดกิจการร้านตัดผม ส่วน ยุย มีความใฝ่ฝันอยากเรียนต่อด้านศิลปะหลังจบมัธยมปลาย แม้ภาพวาดของ ยุย จะออกมาสวย ถึงอย่างนั้นครูก็ยังบอกว่า ภาพวาดของเธอไม่สะท้อนความรู้สึกและอยากให้ ยุย ได้ออกไปเห็นสิ่งที่เธอวาดว่ามันเหมือนกับในภาพหรือไม่ 

ในระยะหลัง ยุย มักจะตั้งคำถามเอากับ คาซึโทชิ (ซาโตะ เรียวตะ) คนเป็นพ่อว่า ทำไมเขาถึงต้องออกไปทำงานนอกร้านแล้วปล่อยให้แม่ทำงานอยู่คนเดียว กระทั่งวันหนึ่ง ยุย ได้เห็นพ่อเดินเข้าไปในสถานฌาปนกิจ จึงได้รู้ว่าพ่อมารับงานที่เรียกว่า Ending Cut เป็นคนตัดผม อาบน้ำ และแต่งหน้าให้กับผู้เสียชีวิต แต่ที่ทำให้ ยุย ตั้งคำถามกับพ่อมากขึ้นไปอีก ก็เมื่อเธอได้รู้ว่าแม่อย่าง นานามิ (เรียวโกะ ฮิโรสุเอะ) ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย เธอเอาแต่คิดวนไปมาหาคำตอบไม่ได้ว่า ทำไมพ่อถึงมัวแต่เอาเวลาไปดูแลคนที่ตายไปแล้ว แต่กลับไม่เอาใจใส่แม่ที่กำลังป่วยหนัก

วันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2565

Review: Doctor John (SBS/2019)

 Doctor John (SBS/2019)

#ปีนรั้วรีวิว #Drama Directed : Jo Soo-won
      หากพูดถึงซีรีส์แนวการแพทย์แล้วเนื้อหาของหลายเรื่องที่ผ่านมา มักจะเล่าถึงอุดมการณ์ของหมอตามอุดมคติ ที่ทุ่มเททำทุกอย่างเพื่อรักษาคนไข้ แต่จะมีสักกี่เรื่องกันกล้าหยิบยกเอาดราม่า ที่ไม่ใช่แค่ท้าทายอุดมการณ์ทางการแพทย์ แต่ยังท้าทายเรื่องพื้นฐานความเป็นมนุษย์อย่างการ เกิด แก่ เจ็บและความตาย ที่กลายเป็นความต้องการของคนที่อยากหลุดพ้น จากความเจ็บปวดทรมานของโรคที่ไม่สามารถรักษาได้

คังชียอง (Se-yeong Lee) วิสัญญีแพทย์ปี 2 ที่เกิดเรื่องไม่คาดฝัน จนทำให้เธอตัดสินใจหันหลังให้กับการเป็นหมอ และเตรียมตัวออกเดินทางไกลหนีความรู้สึกผิด ชียอง ได้รับโทรศัพท์จาก โอจองนัม (Jung In-Gi) ลุงของเธอ ที่ยื่นข้อเสนอให้มาทำงานชั่วคราวในเรือนจำ ซึ่งไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้เธอที่กำลังจะออกเดินทางไกลตัดสินใจตกลงเข้าทำงาน แต่ ชียอง ก็ไม่สามารถรับมือกับสารพัดความเจ็บป่วยของนักโทษได้เลย กลับเป็นนักโทษหมายเลข 6238 ชาโยฮัน (Seong Ji) บุคคลปริศนา ที่สามารถวินิจฉัยและจัดการปัญหาอาการเจ็บป่วยได้สารพัด และที่เรือนจำแห่งนี้นักโทษหมายเลข 6238 ได้พยายามผลักดันให้ คังชียอง กลับมามีแรงบันดาลใจในการเป็นหมออีกครั้ง แต่ตัวเขาเองก็มีอดีตที่กำลังจะกลับมาไล่ล่าเขา หลังจากพ้นโทษออกจากเรือนจำแห่งนี้ และจะไม่ยอมปล่อยให้เขากลับไปใช้ชีวิตสงบสุขได้ง่าย ๆ

Review: Hot Gimmick: Girl Meets Boy (2019)

 Hot Gimmick: Girl Meets Boy (2019) รักร้อน ซ่อนกล

#ปีนรั้วรีวิว #Drama
      ช่วงชีวิตในวัยมัธยมสิ่งที่เราได้เรียนรู้นอกจากเรื่องเรียน เรื่องเพื่อน ก็คงจะเป็นเรื่องความรักนี่แหละ ที่พอเริ่มโตเป็นหนุ่มสาวกันแล้วก็อยากมีความรัก บางครั้งความสัมพันธ์ก็เริ่มต้นจากการได้ทำความรู้จักกับคนใหม่ ๆ แต่บางครั้งก็อาจเป็นคนใกล้ตัวอย่างเพื่อนในวัยเด็ก ที่ครั้งหนึ่งเราไม่เคยคิดอะไรมาก่อน แต่ในตอนนี้เพื่อนวัยเด็กที่เคยเล่นคลุกฝุ่นกันมา คำว่า “เพื่อน” อาจเปลี่ยนแปลงไปในสายตาของเรา

ฮัทสึมิ นาริตะ (Miona Hori) พี่สาวแสนดีที่แอบซื้อที่ตรวจการตั้งครรภ์มาให้กับ อากาเนะ (Hiyori Sakurada) น้องสาวตัวดีที่ใช้ชีวิตคนละขั้วกับพี่ อากาเนะ เป็นคนน่าตาดีและมั่นใจในตัวเอง ส่วน ฮัทสึมิ คนพี่กลับขาดความมั่นใจในตัวเองอย่างรุนแรง เธอไม่กล้าปฏิเสธใครแม้ตัวเองจะต้องฝืนใจทำก็ตาม แล้วความซวยก็มาเยือน ฮัทสึมิ เมื่อ เรียวกิ ทาจิบานะ (Hiroya Shimizu) เพื่อนวัยเด็กหนุ่มเนิร์ดที่อาศัยอยู่ในตึกเดียวกับเธอ ล่วงรู้ความลับว่า ฮัทสึมิ แอบซื้อที่ตรวจครรภ์มา เรียวกิ จึงขู่ว่าหากเธอไม่ยอมตกเป็นทาสรับใช้ เขาก็จะเอาเรื่องนี้ไปป่าวประกาศให้รู้กันทั้งตึก

แน่ล่ะว่าถึงตัวเองจะไม่ได้เป็นคนใช้ที่ตรวจการตั้งครรภ์อันนั้น แต่ ฮัทสึมิ ก็ไม่สามารถบอกได้ว่ามันเป็นของใครอยู่ดี เธอจึงต้องจำยอมทำตามคำสั่งของ เรียวกิ ที่ดูเหมือนว่าเพื่อนวัยเด็กที่เพิ่งกลับเข้ามาในชีวิตของ ฮัทสึมิ อย่างหนุ่มนายแบบชื่อดัง อาซึสะ โอดากิริ (Mizuki Itagaki) จะไม่พอใจที่ทั้งสองคนสนิทสนมกัน แล้ว ชิโนกุ พี่ชายคนโตของ ฮัทสึมิ ก็ดูจะหวงน้องสาวเกินความเป็นพี่ชายไปสักหน่อยแล้วในตอนนี้

Review: Nee Sensei, Shiranai No? (2019)

 Nee Sensei, Shiranai No? (2019) อาจารย์รู้มั้ย ใครรักอาจารย์

#ปีนรั้วรีวิว #Romance
      ฮานาอิ อาโออิ (Baba Fumika) นักวาดมังงะแนวการ์ตูนตาหวาน เธอทำงานร่วมกับผู้ช่วยสองคนอย่าง โคอินุมะ (Miyase Ryubi) และ มาโกโตะ (Tanda Hazuki) ฮานาอิ เป็นคนตั้งใจกับงานตรงหน้ามากขนาดที่เรียกได้ว่า หากได้จับปากกาวาดมังงะเมื่อไหร่ เธอก็จะไม่สนใจเรื่องราวที่เกิดรอบๆตัวในทันที เพราะนี่คือเส้นทางที่เธอเลือกเดินมาตั้งแต่จบมัธยมปลาย และใฝ่ฝันว่าสักวันหนึ่งเรื่องราวในมังงะของเธอ จะถูกนำไปสร้างเป็น Live-Action ฉบับคนแสดง

แต่ผลงานในระยะหลังของเธอ มักถูกคอมเม้นต์จาก คิริทานิ (Wada Masanari) บรรณาธิการของเธอว่า ไม่รู้จะบอกว่ามันสนุกหรือว่าน่าเบื่อดี เหมือนมันขาดอะไรบางอย่างไป คิริทานิ จึงตั้งคำถามว่าเธอเคยมีความรักบ้างไหม เคยไปเดตกับใครบ้างหรือเปล่า มันเลยกลายเป็นว่า ฮานาอิ คือนักเขียนมังงะโรแมนติก ชวนจิ้น ที่ดันไม่มีประสบการณ์ความรักเสียเอง ฮานาอิ เลยตัดสินใจแล้วว่าเพื่อทำให้งานของเธอกลับมาเข้าที่เข้าทางอีกครั้ง เธอจะยอมมองหาใครสักคนมาเป็นแฟนดูก็ได้ แต่ทันใดนั้น…ฮานาอิ ก็เกิดรับไม่ได้ เมื่อเหลือบไปเห็นสภาพของตัวเองหน้ากระจก ฮ่าฮ่า จึงตัดสินใจเดินเข้าไปในร้านทำผมที่อยู่ระหว่างทาง ที่นั่นเธอได้พบกับ คิโดะ ริอิชิ (Akaso Eiji) หนุ่มหล่อพนักงานร้านทำผม ที่ทั้งละมุนแล้วก็อ่อนโยนกับเธอ ในทีแรกเธอคิดว่าเขาเพียงแค่ดูแลเธอเหมือนลูกค้าทั่วไป แต่จู่ ๆ พ่อหนุ่ม ริอิชิ ก็จู่โจมเธอด้วยการขอคบเป็นแฟน ยังไงกันล่ะทีนี้ อยู่ดี ๆ ก็มีหนุ่มหล่อสายละมุนมาขอความรักอย่างไม่ทันตั้งตัว

Review: I Wanna Hear Your Song (KBS2/2019)

 I Wanna Hear Your Song (KBS2/2019)

#ปีนรั้วรีวิว #Drama #Comedy #Music Director: Lee Jung-Mi
      หากพูดถึงแนวที่เป็นจุดขายของซีรีส์เกาหลี ซึ่งทำออกมาได้ถูกใจแฟนซีรีส์ชาวไทย คงจะไม่พ้นแนวโรแมนติก คอมเมดี้ ที่บันเทิง สนุก ชวนจิ้น ถูกใจแฟน ๆ แต่เมื่อถูกผลิตออกมามากเข้าแน่นอนว่า ข้อจำกัดอย่างหนึ่งคือ จะทำอย่างไรให้พล็อตของแต่ละเรื่องมันไม่ซ้ำกัน ซึ่งเป็นเรื่องยากเอามาก ๆ นะที่จะพยายามบิดเนื้อหาให้ไม่ซ้ำกับซีรีส์หรือหนังเรื่องอื่น แต่ก็ยอมรับเลยว่าผู้เขียนบทของเกาหลีเขาฝีมือจริง สังเกตได้ว่าในระยะหลังนอกจากผู้กำกับ ที่มักจะได้อยู่ในแสงสปอร์ตไลท์เหมือนกับนักแสดงแล้ว คนเขียนบทก็เริ่มมีชื่อเสียงได้รับความสำคัญ กลายเป็นชื่อที่สามารถการันตีว่าซีรีส์หรือหนังเรื่องนั้นจะสนุกได้ เหมือนกับ I Wanna Hear Your Song เรื่องนี้ที่คนเขียนบท คิมมินจู สามารถเอาพล็อตโรแมนติก ดราม่า มาผสมกับการฆาตกรรมและการล้างแค้นได้อย่างลงตัว

ฮงอียอง (Se-Jeong Kim) สาวนักตีกลองทิมปานี ที่ความใฝ่ฝันของเธอคือการได้เข้าร่วมวงออเคสตร้า แต่ไม่ว่าจะเข้าร่วมการออดิชั่นกี่ครั้งเธอก็ไม่เคยผ่านการคัดตัวเลย ฮงอียอง ที่ยังไม่หยุดไล่ตามความฝันจึงตัดสินใจทำงานรับจ้างขับรถ เพื่อหาเงินให้พอเลี้ยงตัวเองและมีเวลามากพอฝึกซ้อม ฮงอียอง ได้พบกับ จางยุน (Woo-jin Yeon) ชายปริศนาที่เข้าหาเธอ ด้วยเหตุผลเกี่ยวกับเหตุการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อ 1 ปีที่แล้ว ซึ่งมันเป็นสาเหตุที่ทำให้ ฮงอียอง นอนไม่หลับในทุกคืน ซ้ำร้ายเธอยังไม่สามารถจดจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วง 3 เดือนนั้นของปีที่แล้วได้ จางยุน จึงเสนอตัวร้องเพลงกล่อมเป็นเพื่อนเธอทุกคืน เพื่อแลกกับเงินสัปดาห์ละหมื่นวอน แล้วใครจะไปคิดว่าเลียงร้องที่เพี้ยนได้โล่ของเขา มันจะสามารถกล่อมให้เธอนอนหลับฝันดีได้

Review: Parallel World Love Story (2019)

 Parallel World Love Story (2019) ความรักโลกขนาน

#ปีนรั้วรีวิว #Drama #Mystery Director: Yoshitaka Mori
      ทาคาชิ สึรุกะ (Yûta Tamamori) เด็กหนุ่มที่เพิ่งเรียนจบมหาวิทยาลัย ในเช้าวันจบการศึกษาที่เจ้าตัวกำลังรีบเร่งเพื่อไปให้ทันพิธี สึรุกะ เดินทางในวันนั้นด้วยรถไฟฟ้าเช่นเดิมเหมือนทุกวัน แต่คราวนี้เขาตัดสินใจเปลี่ยนสายรถไฟ เพื่อหวังว่าตัวเองจะได้พบกับสาวปริศนาคนหนึ่ง ที่เขามักจะมองเห็นเธอผ่านหน้าต่างขบวนรถไฟในทุกวัน แต่ไม่รู้ด้วยความบังเอิญหรือตั้งใจ เมื่อ สึรุกะ ที่อุตส่าห์เปลี่ยนสายรถไฟแล้ว แทนที่จะได้พบกับสาวเจ้า เธอดันไปโผล่ที่รถไฟสายประจำของเขาแทน สึรุกะ ก็เลยได้แต่คิดปลอบใจตัวเองว่า เขาและเธอคงอยู่กันบนโลกคู่ขนานที่อาจจะไม่มีวันได้พบกัน

ทว่าหลายเดือนต่อมาที่ โทโมฮิโกะ มิวะ (Shôta Sometani) คนที่เป็นทั้งเพื่อนซี้และเพื่อนร่วมงานของเขา นัดเจอเพื่อเปิดตัวแฟนที่เพิ่งคบกันหมาด ๆ กลายเป็นว่าสาวสวยน่ารักที่เขาเห็นตรงหน้าก็คือ มายูโกะ สึโนะ ผู้หญิงที่น่าจะเป็นคนเดียวกับที่เขาเห็นบนขบวนรถไฟ ซึ่งเจ้าตัวได้แต่เก็บเรื่องนี้เอาไว้ในใจไม่สามารถบอกใครได้ ก่อนในคืนนั้นจะกลับมานอนที่บ้านอย่างคิดไม่ตก กระทั่งรุ่งเช้า สึรุกะ ตื่นขึ้นมาก็พบว่าเขาอาศัยอยู่กับ มายูโกะ โดยรู้จักกันผ่านการแนะนำของ โทโมฮิโกะ มิวะ อ้าว…แล้วแบบนี้เหตุการณ์ในโลกไหนมันคือ ความจริง หรือว่า มันจริงทั้งสองโลกกันล่ะ

Review: Dreaming Back to the Qing Dynasty (2019)

Dreaming Back to the Qing Dynasty (2019) ฝันคืนสู่ต้าชิง #Drama   #Romance Director: Lee Kwok Lap, Wai Hong Chui, Chen Shu Liang Screenwrite...