วันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2565

Review: Unicorn ni Notte (2022)

 Unicorn ni Notte (2022)

#Business #Romance Director: Takahiro Aoyama, Takayoshi Tanazawa, Masahide Izumi
      ซานะ นารุคาวะ (นากาโนะ เมย์) สาววัยรุ่นที่ครอบครัวใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก หลังจากประสบปัญหาด้านการเงิน ซานะ ที่จบเพียงชั้นมัธยมปลายจึงรับงานแอบเข้าเรียนแทน จิโร่ คุริกิ (Kou Maehara) นักศึกษาที่มักโดดเรียนมาแอบหลับ สาเหตุที่ ซานะ ตัดสินใจทำอย่างนั้น ไม่ใช่เพราะอยากเรียนในมหาลัยเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเพราะว่าเธออยากเริ่มต้นทำธุรกิจสตาร์ทอัพการศึกษา ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้เรียนอย่างเท่าเทียม ซึ่งแน่นอนว่าความรู้ในระดับชั้นมัธยมปลายยังไม่เพียงพอ ที่มหาลัยแห่งนั้นเลยทำให้ ซานะ ได้พบกับมิตรภาพดี ๆ จาก จิโร่และโค สุซากิ (โยสุเกะ สุกิโนะ) สองหนุ่มนักศึกษาที่กลายมาเป็นหุ้นส่วนธุรกิจ ผู้ร่วมก่อตั้ง ดรีมโพนี่ สตาร์ทอัพการศึกษา ที่มี CEO จบเพียงชั้นมัธยมปลาย เพียงแต่ในโลกธุรกิจการก่อตั้งบริษัทสำเร็จก็ไม่ได้หมายความว่าบริษัทจะไปรอด ทั้งสามคนจึงต้องพา ดรีมโพนี่ สตาร์ทอัพ ที่มีอุดมการแบบอุดมคติ ฟันฝ่าอุปสรรคมากมายเพื่อสานต่อความฝันในการสร้างการศึกษาเท่าเทียมให้สำเร็จ
      ซีรีส์ญี่ปุ่นแนวธุรกิจที่ทำออกมาแบบอุดมคติทั้งวิธีการเล่าเรื่องและอุดมการของตัวละคร เพราะแม้ซีรีส์จะใส่อุปสรรค ปัญหา ดราม่าต่าง ๆ เข้ามา แต่โดยธีมหลักแล้วก็ยังอยู่บนการให้ความหวังแก่ตัวละครและผู้ชม แกนหลักของเนื้อหาจะพูดเรื่องการดำเนินธุรกิจสตาร์ทอัพ เรื่องของแนวคิดการศึกษาเท่าเทียม และการเชื่อมประสานคนหลากหลายรุ่นเข้าด้วยกัน ผมไม่รู้นะว่าทางญี่ปุ่นเขามีประเด็นความแตกต่างทางแนวคิด ระหว่างคนรุ่นเก่ากับรุ่นใหม่เข้มข้นมากแค่ไหน โดยทั่วไปเราก็รู้แค่ว่าทางญี่ปุ่นเขาค่อนข้างอนุรักษ์นิยม ซึ่งซีรีส์หยิบเอาส่วนนี้มาใส่เป็นเนื้อหาหลัก

ในพาทธุรกิจซีรีส์ใส่ปมปัญหาอุปสรรคเข้ามาท้าทาย ดรีมโพนี่ หลายต่อหลายครั้งมาก มีทั้งปัญหาพื้นฐานของการดำเนินธุรกิจโดยทั่วไป อย่างปัญหาเงินทุนหมุนเวียน การขาดคน ขาดไอเดีย ความขัดแย้งในแนวคิด จนถึงปัญหาที่ซีรีส์บอกว่าทุกบริษัทสตาร์ทอัพจะได้เจอ อย่างการต่อยอดความสำเร็จของบริษัทเพื่อก้าวไปข้างหน้าในลำดับต่อไป

ในพาทนี้ผมว่าซีรีส์ทำออกมาได้สนุกน่าติดตามในช่วงแรก แต่พอคนดูเริ่มจับทางซีรีส์ได้แล้ว ความลุ้นเอาใจช่วยในอุปสรรคครั้งต่อไปมันก็แอบลดลงนิดนึง ความน่าสนใจในพาทธุรกิจโดยรวมเลยอยู่ตรงประเด็นที่นำเสนอ โอเคว่าตรงนี้เราอาจจะมองว่ามีแนวคิดอุดมคติ แต่ตอนดูเราก็ไม่รู้สึกขัดใจหรือเคอะเขินกับมัน เพราะเรารู้อยู่แล้วว่าธีมของซีรีส์เป็นการสร้างแรงบันดาลใจ ความอุดมคติมันเลยออกมาในรูปแบบของการแฝงแง่คิดสไตล์ซีรีส์ญี่ปุ่น

เรื่องแนวคิดการศึกษาเท่าเทียมแนวคิดแบบอุดมคติของ ซานะ เด็กที่เคยตั้งคำถามกับตัวเองว่า การขาดการศึกษาของเธอจะเป็นอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจหรือไม่ ซึ่งคนที่ไขข้อข้องใจนี้ให้ก็คือ ประธานซาจิ ฮาเนดะ (เรียวโกะ ฮิโรสุเอะ) นักธุรกิจหญิงไฟแรงไอดอลบันดาลใจของ ซานะ ผมค่อนข้างชอบความสัมพันธ์ระหว่าง ฮาเนดะ กับ ซานะ ความสัมพันธ์ที่เหมือนอาจารย์กับนักศึกษาแต่ไม่ได้อยู่ในมหาลัย อาจารย์ในแบบที่ไม่ได้สอนแต่เป็นการให้บทเรียนและโจทย์กลับไปแก้ไข ประธานฮาเนดะ เลยเป็นตัวละครที่แอร์ไทม์อาจจะไม่เยอะ แต่อิมแพคผลกระทบต่อเรื่องราวค่อนข้างเยอะทีเดียวครับ

ส่วนในพาทของการประสานความแตกต่างระหว่างคนหลากหลายรุ่น พาทนี้ซีรีส์ใส่รายละเอียดลงไปแทบทุกตัวละครนำ ไม่ว่าจะ ซานะ ที่คนเป็นแม่ยังยึดติดอยู่กับความล้มเหลวในอดีตของครอบครัว ตัวละคร โค ที่พ่อเป็นเจ้าของบริษัทใหญ่โตแต่ยังยึดถือกับแนวคิดการบริหารดั้งเดิม โดยที่ซีรีส์ใส่ตัวละคร ซาโตชิ โคโตริ (ฮิเดโตชิ นิชิจิมะ) เข้ามาเป็นตัวประสานความแตกต่าง ตัวละครหนุ่มใหญ่ที่ยังพยายามวิ่งตามความฝันในวัยหนุ่ม เขาตัดสินใจท้าทายตัวเองด้วยการลาออกจากงานเดิม เพื่อมาสานต่อความใฝ่ฝันที่สตาร์ทอัพอย่าง ดรีมโพนี่ คนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมีประสบการณ์การทำงานและประสบการณ์ชีวิต เลยกลายมาเป็นคนเติมเต็มให้กับดรีมโพนี่ที่ทุกคนต่างขาดประสบการณ์

ในพาทเฉพาะตัวของ โคโตริ ซีรีส์ค่อนข้างให้กำลังใจคนวัยกลางคน ที่ยังมีไฟยังอยากท้าทายเปลี่ยนแปลงตัวเอง ให้กล้าลุกขึ้นมาทำอะไรแล้วก็สนุกกับมัน เห็นความพยายามของตัวละคร โคโตริ คงจะบอกได้ว่า ไม่มีใครแก่เกินเรียนรู้จริง ๆ ครับ ในพาทนี้ผมชอบที่ซีรีส์ใส่รายละเอียดเล็กน้อย ทั้งในแง่ของความเคอะเขินไม่เข้ากันในช่วงแรกของตัวละคร โคโตริ รวมถึงรายละเอียดเล็กน้อยในแง่ของประสบการณ์ชีวิตตัวละคร ที่เข้ามาช่วยซับพอร์ทแก้ไขปัญหาของบริษัท ซีรีส์ทำให้เห็นได้จริงแบบไม่ยัดเยียด โอเคว่าคนรุ่นใหม่มีแนวคิดก้าวหน้า มีความสามารถจริง แต่ในยุคเปลี่ยนผ่านที่ยังไม่เต็มรูปแบบ ประสบการณ์ ความเข้าใจความคิดผู้คนในวัยที่แตกต่าง ก็มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากันในการทำงานให้ลุล่วง

ในส่วนของซับพล็อตอื่นก็จะมีเรื่องราวความรักระหว่าง ซานะ กับ โค ที่ตัวละคร โคโตริ เหมือนจะกลายมาเป็นตัวแปร ก็เพราะไอ้ความเป็นผู้ใหญ่ที่อบอุ่นพึ่งพาได้นี่แหละ เลยทำให้ ซานะ เกิดความสับสนในความรู้สึกของตัวเอง เพราะความสัมพันธ์ระหว่าง ซานะ กับ โค มันดันมีเส้นกั้นแบ่งความเป็นพาทเนอร์ทางธุรกิจที่ดีต่อกัน กับความสัมพันธ์แบบคนรักที่ไม่มีใครกล้าก้าวข้าม เป็นพาทที่เหมือนใส่เข้ามาเพื่อสร้างสีสันให้คนดูได้ลุ้น ซึ่งก็ดูจงใจทำให้คนดูลุ้นจริง ๆ ฮ่าฮ่า ส่วนที่สุดแล้วใครจะลงเอยกับใครไปลุ้นกันเอาเองนะครับ

ในช่วงท้ายรีวิวหากจะให้สรุปถึงซีรีส์ธุรกิจเรื่องนี้ ผมว่าเป็นซีรีส์สร้างแรงบันดาลใจที่โอเคทำได้ดีเรื่องหนึ่งเลยนะครับ ถึงผมจะบอกว่าซีรีส์อุดมคติก็จริง แต่ปมปัญหาที่ซีรีส์ใส่เข้ามาก็ไม่ใช่ง่าย แล้วก็มีโอกาสเจอได้จริง ๆ หากใครคิดจะดำเนินธุรกิจ ส่วนความบันเทิงในแง่ของความดราม่าหรือเข้มข้นไม่ใช่หัวใจหลัก ซีรีส์เน้นที่ความดูเพลินให้เราตามติดตัวละครในดรีมโพนี่ ว่าพวกเขาจะพาตัวเองไปต่อในแต่ละขั้นยังไง พวกเขาจะสามารถรักษาตัวตนอุดมการณ์ของตัวเองไว้ได้หรือเปล่า ในโลกธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยผลประกอบการ

ขอบคุณภาพประกอบจากซีรีส์: Unicorn ni Notte (2022)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: All of Us Are Dead (2022)

 All of Us Are Dead (2022) มัธยมซอมบี้ Screenwriter:  Chun Sung Il Director:  Lee Jae Gyoo       ซีรีส์เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในโรงเรียนมัธ...