วันศุกร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2565

Review: Will I Be Single Forever? (2021)

 Will I Be Single Forever? (2021) ฉันจะเป็นโสดตลอดไปได้มั้ย?

#Drama Director: Momoko Fukuda
      มามิ ฮอนดะ (มินามิ ทานากะ) สาววัย 36 ปีผู้เขียน ซิตี้ ซาวานน่า หนังสือขายดียาวนานตั้งแต่ 10 ปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน เรื่องราวในหนังสือกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับสาวโสดทั้งหลาย ส่วนตัวผู้เขียนอย่าง มามิ ก็กลายเป็นไอดอลสำหรับสาวโสดทุกคน จากงานเขียนอันโด่งดัง ทำให้ มามิ กลายมาเป็นหนึ่งในผู้ดำเนินรายการทางโทรทัศน์ที่ชื่อ Are You Single Forever? รายการโทรทัศน์ที่เชิญสาวโสดมาเป็นแขกรับเชิญ เพื่อพูดคุยถึงเหตุผลความเป็นมาในการใช้ชีวิตโสด แต่ในรายการเทปล่าสุดก็กลายเป็นที่พูดถึงในสังคม เมื่อ มามิ บอกว่า หลังจากผ่านเวลามานาน 10 ปี นับตั้งแต่ที่เขียนหนังสือออกมา เธอชักไม่แน่ใจแล้วว่าตัวเองจะยังอยากอยู่คนเดียวอีกหรือเปล่า แถมยังบอกอีกว่าในตอนนี้เธอก็มีคนที่คุย ๆ อยู่ด้วยอีกเช่นกัน ทันใดนั้นโซเชียลก็เริ่มระอุเกิดความคิดเห็นขัดแย้ง เมื่อคนที่เป็นสัญลักษณ์ของสาวโสดดันประกาศมีแฟนซะอย่างนั้น
      หนังญี่ปุ่นที่เล่าเรื่องราวผ่านตัวละครผู้หญิง 4 คน แต่ละคนใช้ชีวิตแตกต่างกัน โดยที่ มามิ จะเป็นแกนในการดำเนินเรื่องราว ซึ่ง มามิ คนที่กลายมาเป็นไอดอลของสาวโสด เริ่มตั้งคำถามกับตัวเองว่าเธออยากเป็นโสดต่อไปจริงหรือเปล่า จากการที่มีแฟนอายุน้อยกว่าแล้วเข้ากันได้ดี พอที่บ้านเริ่มกดดันเรื่องการแต่งงานมากเข้า เธอก็เลยเริ่มคิดถึงมันอย่างจริงจัง เพียงแต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับ มามิ หลังจากเปิดตัวแฟน แทนที่ตัวเองจะมีความสุข เมื่อไม่ต้องคอยกดดันจากคำถามของคนในครอบครัว มันกลับทำให้เธอพบเจอกับความคาดหวังไม่สิ้นสุด ไม่ว่าจะเรื่องลูก เรื่องงาน เรื่องบ้าน เรื่องรถและอีกสารพัด ทำให้ มามิ ต้องมานั่งถามตัวเองซ้ำอีกครั้งว่า เธอต้องการการมีครอบครัวจริง ๆ หรือเปล่า

คนที่สองอย่าง ยูกิโนะ ซาโตะ (มิวาโกะ อิชิคาวะ) สาวโสดที่กลายเป็นแอนตี้แฟน หลังจากที่ มามิ ประกาศออกสื่อว่ามีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้ว แต่ลึก ๆ ยูกิโนะ กลับต้องการมีใครสักคน ถึงอย่างนั้นเพราะผู้ชายส่วนใหญ่ที่แวะเวียนเข้ามาในชีวิต กลับกลายเป็นคนในแบบที่เธอไม่ชอบ ยูกิโนะ ก็เลยต้องแสร้งทำเป็นโนสนโนแคร์ว่าเธอเองไม่คิดมีครอบครัว

คนที่สามอย่าง อายากะ ทาคาฮาชิ (เอริ โทคุนากะ) แม่ลูกอ่อนคนดังในโลกโซเชียลที่มีคนติดตามหลักแสน ผู้หญิงที่ต้องรับหน้าที่เมียและแม่ของลูก เมื่อต้องทำงานบ้านทุกอย่างไปพร้อมกับการดูแลลูก แต่สามีกลับไม่ค่อยให้ความร่วมมือแบ่งเบาภาระ ทั้งสองบทบาทนั้นมันเลยทำให้ อายากะ หันมาตั้งคำถามกับตัวเองว่า ชีวิตครอบครัวที่เธอมีอยู่ตอนนี้ใช่ความสุขจริงหรือเปล่า

คนสุดท้าย มิโฮะ ซูซุกิ (ซายูริ มัตสึมูระ) ผู้หญิงที่ทำงานเป็นเพื่อนกินเพื่อนเที่ยวให้กับเหล่าอาเสี่ยทั้งหลาย สิ่งเธอเธอต้องการจากคนเหล่านั้น ก็แค่เพียงเงินทองและความสุขสบาย ไม่ได้มีความต้องการครอบครองอยู่ในหัวเลยแม้แต่น้อย เพียงแต่ มิโฮะ ที่ในตอนนี้เริ่มมีอายุมากขึ้น ไม่ได้เป็นเด็กสาวใส ๆ ขวัญใจอาเสี่ยอีกแล้ว เธอจะใช้ชีวิตต่อไปยังไง เมื่อไม่ต้องการมีความสัมพันธ์กับใคร แต่หากจะเป็นเพื่อนเที่ยวต่อไปมันก็คงไม่ใช่ยุคทองของเธออีกแล้ว
 

หลังจากดูหนังเรื่องนี้จบได้เห็นชีวิตของสาวทั้งสี่คน ผมว่าหนังค่อนข้างมีมุมมองเป็นลบต่อการมีครอบครัวพอสมควรเลยล่ะครับ พูดตามตรงหนังชั่วโมงกว่า ๆ เรื่องนี้ ไม่ได้พูดถึงอีกด้านหรือข้อดีของการมีครอบครัวเลย ทุกอย่างมีแต่ปัญหา มีแต่เรื่องไม่ถูกใจไปเสียหมด หากใครมีทัศนคติแบบเดียวกับหนัง ผมว่าคงจะชอบรู้สึกว่าเนื้อหามันโดนใจแหละครับ แต่พูดก็พูดเถอะครับ ขนาดว่าผมก็ตัวคนเดียวมาหลายปี ไม่ได้นึกถึงเรื่องมีครอบครัวเท่าไหร่แล้ว ยังรู้สึกว่ามองในทางลบจนมากเกินไปเลย

โอเคว่า สถานการณ์แบบในหนังเรื่องนี้ผมว่ามันเรียล หลายคนอาจจะเคยเจอประสบการณ์เดียวกัน อย่างกรณีของ มามิ แค่การพูดคุยตกลงกันเรื่องเล็กน้อยในการใช้ชีวิตคู่ ก็ยังไม่ลงตัว ถึงเวลามีแฟนเปิดตัวแฟนกับที่บ้านกับเพื่อนเป็นครั้งแรก ก็หนีพ้นการถูกยิงคำถามที่บ้างครั้งก็อึดอัดใจที่จะตอบ หรือสถานการณ์ของ อายากะ ที่เหนื่อยหน่ายกับการเลี้ยงลูก แล้วสามียังเอาแต่เรื่องของตัวเองไม่ช่วยแบ่งเบา จากที่ครอบครัวน่าจะสุขสันต์เมื่อมีพร้อม กลับกลายเป็นการบั่นทอนจิตใจ ยังไม่นับความกดดัน ความคาดหวัง จากคนรอบข้างรวมถึงคู่ของเราเอง ที่พยายามเปลี่ยนเราจากสิ่งที่เป็นอยู่

แม้ตรงจุดนี้ ผมจะบอกว่าหนังมองแง่ลบในการมีครอบครัว แต่ถามว่าสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้มันมีโอกาสเกิดขึ้นกับใครสักคนในชีวิตจริงมั้ย ก็คงปฏิเสธได้ยากครับ มาถึงจุดนี้ แม้หนังจะจับแต่ส่วนที่เป็นปัญหาชีวิตครอบครัวมาพูดถึงก็จริง บทสรุปของหนังที่อาจเรียกไม่ได้ว่า จบแบบปลายเปิด ก็สามารถให้บทสรุปได้ค่อนข้างโอเค ด้วยการบอกว่า “ชีวิตของคนเรา ไม่ว่าจะอยู่คนเดียวหรือมีครอบครัว ที่สุดแล้วเราควรจะอยู่ในจุดที่ตัวเราเข้มแข็งและมีความสุขกับมันได้”

หากจะพูดถึงปัญหาบางส่วนของตัวละครในหนังเรื่องนี้ ก็ต้องจะเชื่อมโยงมาหาบทสรุปในตอนท้ายนั่นแหละครับ ว่าบางครั้งที่ปล่อยผ่านไม่หนักแน่น ไม่พูดความคิดของตัวเอง ปัญหามันก็เลยเถิดเกิดความสัมพันธ์แง่ลบขึ้นมา เหมือนที่ ยูกิโนะ กล้าฉอดใส่ มามิ ในโซเชียล แต่ไม่กล้าพูดกับรักแรกว่าเขาเป็นคนปากไม่ดี ส่วน มามิ ก็ปล่อยเลยตามเลย ไม่หนักแน่นในความคิดความต้องการตัวเองในทีแรก จนเรื่องมันเลยเถิดมาถึงการตัดสินใจแต่งงานกัน แต่ก็อย่างว่าแหละครับมาเขียนเป็นบทความ ถอดบทเรียนตัวละครที่เกิดขึ้นเห็นผลลัพธ์แล้วมันก็ง่าย ส่วนชีวิตจริงของคนเรามันก็ไม่ใช่ว่า เราจะสามารถพูดทุกอย่างที่คิดได้ขนาดนั้นใช่มั้ยล่ะครับ

เป็นหนังที่หากจะให้สรุปผมคงจะบอกว่ามันไม่ใช่หนังที่บันเทิง ออกจะมีทัศนคติแบบมองเห็นแต่เฉพาะปัญหาด้วยซ้ำ ถึงอย่างนั้นมันก็ค่อนข้างจริงแล้วคนเราก็มีโอกาสได้เจอ ซึ่งหากเป็นคนที่มีมุมมองเดียวกับหนัง ผมคิดว่าน่าจะรู้สึกตรงใจ แต่หากไม่ได้มองเหมือนกันก็อาจรู้สึก เอ๊ะ…อยู่ในใจตัวโต ๆ สักหน่อย ว่าความสัมพันธ์แบบครอบครัวของคนเรา มันแย่มากขนาดนั้นเลยหรือยังไง

ขอบคุณภาพประกอบจากภาพยนตร์: Will I Be Single Forever? (2021)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: All of Us Are Dead (2022)

 All of Us Are Dead (2022) มัธยมซอมบี้ Screenwriter:  Chun Sung Il Director:  Lee Jae Gyoo       ซีรีส์เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในโรงเรียนมัธ...