วันอังคารที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2566

Review: Sweat and Soap (2022)

 Sweat and Soap (2022)

#Comedy #Romance Director: Shibue Shuhei
 
รับชมได้ทาง: https://www.viki.com/

      อาซาโกะ ยาเอชิมะ (Ohara Yuno) สาวพนักงานฝ่ายบัญชีของบริษัทผลิตภัณฑ์อาบน้ำ ซึ่งไม่รู้ว่าเพราะปมในวัยเด็กหรือเปล่าถึงทำให้เธอตัดสินใจเลือกทำงานที่นี่ อาซาโกะ ถูกเพื่อนวัยเด็กล้อเลียนเรื่องเหงื่อและกลิ่นตัว จนทำให้เธอขาดความมั่นใจในตัวเองเมื่ออยู่ใกล้คนอื่น สิ่งเดียวที่พอจะเยียวยาความรู้สึกของเธอได้ เห็นจะเป็นกลิ่นสบู่หอม ๆ เวลาอาบน้ำ ซึ่ง อาซาโกะ คงไม่คิดมาก่อนว่ากลิ่นตัวที่เธอไม่ชอบนักหนานี้ จะกลายมาเป็นแรงบันดาลใจในการทำงานของ นาโทริ โคทาโร่ (Sato Kanta) หนุ่มฮอตของบริษัทที่มีพรรสวรรค์ด้านกลิ่น พนักงานฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ขอซึดดดดดดกลิ่นตัว อาซาโกะ ทุกวัน เพื่อสร้างไอเดียในการพัฒนากลิ่นสบู่ของตัวเอง

ซีรีส์แนวโรแมนติก คอมเมดี้ สร้างจากมังงะ “Ase to Sekken” ของ Kintetsu Yamada ที่หน้าหนังมีจุดขายแบบเด่นชัดที่ความหวาบหวิว สยิวกิ้ว ฮ่าฮ่า ถามว่าพอได้ดูซีรีส์แล้วมันเป็นตามหน้าหนังไหม ก็ต้องบอกว่าตามนั้นเลยครับ มันจะมีความเซ็กซี่ บรรยากาศพาไปให้ผีผลักอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ต้องบอกอีกแหละครับว่ามันเป็นความเซ็กซี่ปนตลก ขายขำ โบ๊ะบ๊ะ ไม่ใช่ความเซ็กซี่โรแมนซ์ชวนจิ้นขายความหวาบหวิวอะไรทำนองนั้น ฉากเซ็กซี่ของซีรีส์เรื่องนี้เลยจะใส่ความแฟนตาซีมีความกาวอยู่ในโลกจินตนาการ ในขณะเดียวกันกับที่ตัวละครกำลังทำกิจกรรมเข้าจังหวะกันอยู่
      แต่ถึงผมจะบอกว่าซีรีส์เน้นขายขำตัวละครมีความกาว ในอีกด้านหนึ่งต้องบอกว่าซีรีส์เรื่องนี้ไม่กลวงเลยนะครับ ค่อนข้างมีสาระแล้วก็นำเสนอได้ดีย่อยง่ายในบางประเด็น อย่างแรกเลยตัวละคร อาซาโกะ ที่ขาดความมั่นใจในตัวเอง มักจะคำนึงถึงแต่ความรู้สึกคนอื่น ไม่กล้าพูดความรู้สึกตัวเอง พอได้มาเจอกับ นาโทริ ที่ได้ใช้ประโยชน์จากกลิ่นตัวของ อาซาโกะ (เอ๊ะ...ฟังดูแปลก ๆ เหมือนกันนะ) มันเลยทำให้เธอรู้สึกมีประโยชน์และเริ่มมั่นใจมากขึ้น จะว่ายังไงดีล่ะครับคือซีรีส์คงจะไม่ได้บอกว่ามีกลิ่นตัวแล้วดีหรืออะไรหรอก

แต่ Sweat and Soap หรือ เหงื่อกับสบู่ ตามชื่อของซีรีส์มันสื่อสารได้ชัดเจนในตัวเองแล้ว คนเรามันไม่ได้สมบูรณ์หรืออาจมีสิ่งไม่พึ่งใจในตัวเองอยู่บ้าง ของบางสิ่งบางอย่างที่อาจใช้คำว่าเติมเต็มไม่ได้ก็จริง แต่มันก็เป็นสิ่งที่เข้าคู่กันได้ไม่ว่าจะเพื่อเติมเต็ม สนับสนุน หรือพึ่งพากัน เหมือน "เหงื่อกับสบู่" ซึ่งไม่ใช่ของที่เข้ากัน ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นอะไรที่...จะว่ายังไงดีล่ะครับ คือถ้าเราร้อนมีเหงื่อ ไม่สบายตัว ตัวเหม็น พอไปอาบน้ำถูสบู่นอนผึ่งพัดลมง่าย ๆ แค่นี้ก็ตัวหอมสดชื่นแล้ว เหมือนกับ อาซาโกะกับนาโทริ ที่คงจะใช้คำว่าเติมเต็มกันยากสักหน่อย เพราะยังมีอะไรที่ไม่เข้าใจกันมากมาย แต่ทั้งคู่ก็เป็นเหมือน "เหงื่อกับสบู่" นั่นแหละที่เข้าคู่กันได้

แล้วพอพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่าง อาซาโกะกับนาโทริ ส่วนที่ซีรีส์นำเสนอได้ดีอีกเรื่องเห็นจะเป็นชีวิตรักแบบข้าวใหม่ปลามันของทั้งสองคนนี่แหละครับ ผมว่าซีรีส์ใส่ใจรายละเอียดเรื่องเล็กน้อยในความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเรื่องของความเข้าอกเข้าใจ การตัดสินใจทำหรือไม่ทำอะไรร่วมกัน การพึ่งพากันในฐานคนรัก ซีรีส์หยิบยกเอาเรื่องพื้นฐานความสัมพันธ์แบบคนรักเหล่านี้มานำเสนอได้ดี เรียกว่าจากหน้าหนังที่ดูหื่น ๆ กลายเป็นซีรีส์ที่ดูมีสาระไปในทันที

ส่วนพาทของนักแสดงพระนางของเราอย่าง ซาโตะ คันตะกับโอฮาระ ยูโนะ ก็ Keep คาแรคเตอร์ได้ดีทั้งสองคน อย่าง คันตะ ก็จะมีหลายบุคลิกหน่อย บางทีก็ดูหล่อเป็นหนุ่มฮอตในที่ทำงาน บางทีก็เพี้ยนชวนกาว บางทีก็ดูอบอุ่นพึ่งพาได้ ส่วน ยูโนะ ผมดูเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สองต่อจาก The Beloved You We Killed คาแรคเตอร์พลิกเป็นคนละขั้วเลยครับ จากสาวแซ่บกลายมาเป็นสาวแว่นขาดความมั่นใจในตัวเอง แต่ก็ต้องบอกว่าเสน่ห์ของคาแรคเตอร์ อาซาโกะ ในเรื่องนี้กินขาดเลยครับ ด้วยความที่ตัวละครมันมีแง่มุมอื่น ๆ ให้เห็นหลากหลายมากกว่า

หากจะให้สรุปปิดท้ายถึงซีรีส์เรื่องนี้ ผมคงจะบอกว่าเป็นซีรีส์ที่ดูเพลินหลากรสชาติ ทั้งความเซ็กซี่ ตลก เนื้อหาสาระสื่อสารได้ดี แต่เอาจริงก็แอบมีความรู้สึกว่าซีรีส์ยังทำได้ไม่สุดเท่าไหร่ พอมีความกาวความตลกผสมเข้ามาเลยไปเจือรสชาติด้านอื่นให้จางลง ชอบที่สุดเห็นจะเป็นสาระแง่คิดที่ซีรีส์แทรกเข้ามาได้แนบเนียนดีครับ
 
ขอบคุณภาพประกอบจากซีรีส์: Sweat and Soap (2022)

#SeriesReview #รีวิวซีรีส์ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: All of Us Are Dead (2022)

 All of Us Are Dead (2022) มัธยมซอมบี้ Screenwriter:  Chun Sung Il Director:  Lee Jae Gyoo       ซีรีส์เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในโรงเรียนมัธ...