วันเสาร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2568

Review: Horimiya (2021)

 Horimiya (2021) สาวมั่นกับนายมืดมน

#ปีนรั้วรีวิว #Romance Director: Matsumoto Hana, Yoshino Mamoru
      โฮริ (คุโบตะ ซายุ) นักเรียนมัธยมปลายดาวเด่น เธอทั้งหน้าตาดี เรียนเก่ง แถมยังเป็นที่ชื่นชอบของเพื่อนรวมถึงหนุ่ม ๆ ในโรงเรียน สวนทางกับพ่อหนุ่มโลกมืดอย่าง มิยามุระ (ซูซุกะ โอจิ) หนุ่มแว่นที่ไว้ผมเพร่ารุงรังปิดหน้าปิดตา แล้วไม่ว่าอากาศจะร้อนแค่ไหนก็ยังใส่เสื้อสองสามชั้น ซึ่งเขามักจะโดนคนอื่นในโรงเรียนนินทาทั้งลับหลังและต่อหน้าเอาว่า คงเป็นพวกโอตาคุที่ชอบอะไร โมเอะ หากเรามองเพียงผิวเผินก็คงเห็น โฮริ เป็นสาวที่มั่นใจในตัวเอง ส่วน มิยามุระ เป็นหนุ่มแว่นหน้าจืดที่ขาดความมั่นใจ แต่สำหรับบางคนพวกเขาอาจมีอีกด้านหนึ่ง ที่เก็บเป็นความลับเอาไว้ก็ได้

โฮริ เป็นดาวเด่นเมื่ออยู่ที่โรงเรียน แต่ที่บ้านเธอคือพี่สาวของ โซตะ น้องชายวัยอนุบาล เธอต้องดูแลตัวเองและน้องทำงานบ้านทุกอย่างมาตั้งแต่เด็ก เพราะแม่ยุ่งแต่กับงานและพ่อต้องย้ายที่ทำงานไปอยู่ต่างเมือง ซึ่งชีวิตที่เป็นแบบนี้เธอไม่ต้องการให้ใครมาเห็น จนกระทั่งวันหนึ่งที่ โซตะ หายตัวไปจากศูนย์รับเลี้ยง ก่อนจะมีเด็กหนุ่มแต่งตัวรุงรังเจาะทั้งหูทั้งปาก เดินมาส่ง โซตะ ที่หน้าบ้าน ในทีแรก โฮริ ไม่ทันได้สังเกตว่าเด็กหนุ่มคนนี้เป็นใคร ก่อนที่เขาคนนั้นจะแนะนำว่าตัวเองคือ มิยามุระ เพื่อนร่วมชั้นอันแสนมืดมนของเธอ แม้ โฮริ จะตกใจกับลุคที่ไม่คุ้นตาของเพื่อนร่วมห้อง แต่ด้วยความที่ โซตะ น้องชายของเธอดันชอบ มิยามุระ ตั้งแต่นั้นมาเขาจึงกลายเป็นแขกประจำของที่บ้าน เพียงแต่ความสัมพันธ์ที่ดูจะพัฒนาไปในทางที่ดี มันก็ยังมีกำแพง เมื่อ มิยามุระ มองว่า ทั้งสองคนนั้นแตกต่างกันเกินไป แล้วตัวเขาเองก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้คนอื่น อาจมอง โฮริ ในทางไม่ดีเหมือนกับที่ตัวเองเคยเจอมาตลอด

ซีรีส์สร้างจากมังงะที่พูดถึงการไม่ตัดสินคนอื่นที่ภายนอกและคนกลุ่มเล็ก ๆ ในห้องเรียน คนที่โดดเดี่ยวเก็บตัวเสมือนแปลกแยกจากเพื่อน ๆ โดยที่เรื่องนี้สื่อสารว่าอันที่จริงแล้วคนกลุ่มนี้เขาไม่ได้อยากโดดเดี่ยว แต่ว่ามันอาจมีบางเรื่องหรือบางคนต่างหากที่ทำให้เขาเป็นแบบนั้น

มิยามุระ เด็กหนุ่มที่โดดเดี่ยวทำตัวแปลกแยกจากเพื่อนคนอื่น ซึ่งจากในซีรีส์มันดูเหมือนว่า ส่วนหนึ่งมันก็มาจากความตั้งใจของเจ้าตัวเอง ที่ต้องการปิดบังความชอบส่วนตัวเอาไว้ จนทำให้เกิดความเข้าใจผิด เมื่อคนอื่นมองเห็นเพียงรูปลักษณ์ภาพนอกกับบุคลิกที่ชอบเก็บตัวเงียบ คนที่เคยเห็น มิยามุระ ในอีกมุมหนึ่งจึงมีเพียงแค่ โฮริ ที่เอาจริงแล้วเธอก็ตกใจเหมือนกันเมื่อได้เห็นเขาในครั้งแรก เพราะจะว่าไปไม่ว่าลุคไหนของ มิยามุระ มันก็ดูมืดมนทั้งสองแบบอยู่ดี แต่สิ่งที่ โฮริ ทำแตกต่างจากคนอื่นก็คือ การไม่ตัดสิน มิยามุระ เพียงแค่ภายนอก

เช่นเดียวกันกับ มิยามุระ ที่ได้เห็นด้านที่ไม่ได้สวยหรูของ โฮริ ซึ่งมุมมองของเขาที่มีต่อเธอมันไม่ใช่ความผิดหวัง ที่ได้เห็นคนที่เขาและใคร ๆ ต่างชื่นชมเมื่ออยู่ที่โรงเรียน ในมุมที่ชีวิตวุ่นวายกลายเป็นแม่บ้านหน้าสดหัวฟู แม้ลึก ๆ แล้ว โฮริ จะกลัวความโดดเดี่ยวและอ่อนแอกว่าที่เห็น แต่ มิยามุระ ก็ยังชื่นชมเธอที่มีความรับผิดชอบ สามารถดูแลตัวเองและน้องได้

ประเด็นหลักที่ซีรีส์พูดถึงจึงเป็นเรื่องของการไม่มองคนเพียงแค่ภายนอก เมื่อแต่ละคนอาจจะมีแง่มุมที่หลายคนมองไม่เห็นซ่อนอยู่ บางคนที่ดูเหมือนไม่สนใจใคร ที่จริงแล้วอาจใส่ใจความรู้สึกคนอื่นมากกว่าที่เห็น บางคนที่ภายนอกเข้มแข็งดูเหมือนยังไหว แต่ข้างในจิตใจอาจจะเปราะบางกว่าที่คิด
เป็นซีรีส์ที่การเล่าเรื่องไม่มีความซับซ้อน หรือมีดราม่าเนื้อหาชวนหน่วงอะไร ในภาพรวมผมถือว่าซีรีส์ทำออกมาดูเพลิน สนุกกำลังดีเลยนะครับ คาแรคเตอร์ตัวละครค่อนข้างลงตัว เวลาที่ตัวละคร โฮริ กับ มิยามุระ มีแอร์ไทม์ด้วยกันมันออกมาน่ารัก มีทั้งฉากตลกโบ๊ะบ๊ะ ฉากจิ้นชวนฟิน ส่วนตัวผมถือว่าเป็นคู่พระนางอีกคู่หนึ่ง ที่สร้างความสัมพันธ์ตัวละครออกมาได้ดี พอดูจบแล้วเราอินในความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ซูซุกิ โอจิ ที่รับบทเป็น มิยามุระ ก็คีพคาแรคเตอร์ได้ทั้งหนุ่มจืดแล้วก็หนุ่มมาดเท่ ที่เรายิ่งดูไปเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งมีมุมที่แอบเซอร์ไพส์คนดูอยู่เรื่อย ๆ ส่วน โฮริ ที่รับบทโดย คุโบตะ ซายุ ผมว่าลุคของเธอคล้าย ๆ กับ ฮารุนะ คาวากุชิ ครับ เธอไม่ใช่สาวในแบบสวยหวาน อาจไม่โดนใจตั้งแต่เห็นในครั้งแรก แต่จะเป็นผู้หญิงในแบบที่ยิ่งมองยิ่งมีเสน่ห์มากขึ้นเรื่อย ๆ

แล้วซีรีส์ก็ไม่ได้มีแค่เนื้อหาระหว่างคู่พระนางเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องราวของเพื่อนทั้งในแง่มุมของความรัก แล้วก็การปรับความเข้าใจซึ่งกันและกัน แม้จะเล่าแบบเบาบางไม่ได้มีประเด็นอะไรมาก แต่ในความสัมพันธ์แบบเฟรนด์โซนกับรักสามเศร้า มันก็มีอะไรให้คนดูได้ลุ้นได้ติดตามอยู่เหมือนกันครับ

ในช่วงท้ายรีวิวผมขอสรุปปิดท้ายถึงซีรีส์เรื่องนี้ว่า เป็นซีรีส์จากมังงะที่ทำออกมาได้โอเคเรื่องหนึ่งเลยนะครับ เล่าในประเด็นที่สื่อสารออกมาได้ชัดเจน ย่อยง่าย อย่างประเด็นการตัดสินคนที่ภายนอก ความสัมพันธ์ตัวละครทั้งหลักและรองก็ทำออกมาได้ น่ารักดี มีทั้งความโรแมนติก ความตลก รวมถึงพาทความสัมพันธ์ที่ผูกโยงตัวละครเข้าไว้ด้วยกัน จะว่าไปซีรีส์ยังแอบมีมุม Coming of Age เล็ก ๆ ในช่วงท้ายอีกด้วยครับ

#SeriesReview #รีวิวซีรีส์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: Hi Venus (2022)

  Hi Venus (2022) บังเอิญพบรัก Screenwriter:   Wang Xiong Cheng Director:   Wang Zheng   รับชมทาง MONOMAX/ VIU       ลู่เจาซี (เจิงซุ่นซี) ห...