วันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2562

第36個故事/Taipei Exchanges (2010)

第36個故事/Taipei Exchanges (2010) แลกเปลี่ยนเพื่อเปลี่ยนชีวิต 
#ปีนรั้วรีวิว #Drama Director: Ya-chuan Hsiao

      “ถ้ามีเงินเยอะๆคุณจะเอาไปทำอะไร ระหว่างออกไปหาประสบการณ์ไปเที่ยวรอบโลก 
หรือว่าเอาเงินที่ได้มาส่งตัวเองเรียนสูงๆ” 

      นี่คือความแตกต่างกันระหว่างสองพี่น้อง โดริส (Lun-Mei Kwei จาก Blue Gate Crossing) กับโจซี่ (Zaizai Lin) พี่น้องที่แตกต่างกันเหลือเกิน เมื่อพ่อของทั้งสองคนเสียและทิ้งเงินมรดกไว้ให้ก้อนหนึ่ง ฝ่ายพี่สาวอย่าง โดริส ตัดสินใจเอาเงินนั้นมาต่อยอดเป็นทุนเรียนหนังสือ  และตอนนี้เธอก็กำลังจะเปิดร้านกาแฟ ส่วนยัยน้อง โจซี่ กลับตัดสินใจหอบเงินที่ได้มาเดินทางไปเที่ยวรอบโลก จนเงินหมดถึงได้กลับมาแป๊กทำงานร้านกาแฟอยู่กับพี่สาว 

      เมื่อร้านกาแฟในฝันจอง โดริส เปิดขึ้นมันกลับไม่ได้เป็นอย่างที่หวัง เมื่อแต่ละวันแทบไม่มีใครเข้ามาใช้บริการเลยสักคน  จนเริ่มออกอาการท้อแท้  กระทั่งวันหนึ่งมีลูกค้าเข้ามาเห็นเมนูอาหารไทยบนโต๊ะในร้าน  แล้วเขาอยากได้มันอย่างมาก แต่ โจซี่ กลับไม่ยอมขายแถมยังยืนยันด้วยว่า  หากอยากได้จริงๆก็ให้เอาของบางอย่างมาแลกถึงจะได้ไป สุดท้ายดีลสมุดเมนูอาหารไทยเล่มนี้  จบด้วยการที่ในวันรุ่งขึ้น ลูกชายของลูกค้าคนนี้  มาลอกท่อร้านกาแฟนให้เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน หลังจากเหตุการณ์นี้จบลง โจซี่ จึงปิ๊งไอเดียโปรโมทร้าน  ด้วยการหาของเก่าหรือของแปลกที่มีเรื่องราวต่างๆ นำมาโชว์ในร้านและลูกค้าสามารถนำสิ่งของมาแลกเปลี่ยนไปได้
      มันก็ตอบยากนะว่า  ระหว่างการเรียนเพื่อหาความรู้กับประสบการณ์ชีวิต คือ…มันก็สำคัญทั้งคู่นั้นแหละ แต่หากจะให้บอกว่าอะไรสำคัญกว่า  คำตอบของแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไป เพราะหากมีความรู้แล้ว มันก็ช่วยลดความผิดพลาดในชีวิตได้ แต่ประสบการณ์ตรงจากความผิดพลาด  มันก็ช่วยให้การแก้ไขปัญหาในคราวถัดไปดีขึ้น จะดีที่สุดคงต้องมีทั้งสองอย่างคู่กัน

      การที่พี่สาวอย่าง โดริส เลือกที่จะเรียนต่อและเปิดร้านกาแฟในฝัน ซึ่งเธอก็ทำมันได้สำเร็จ เพียงแต่เมื่อมันไม่ได้เป็นอย่างฝัน เธอกลับไม่สามารถแก้ไขมันได้ กลับเป็นน้องสาวอย่าง โจซี่ ที่สร้างโอกาสสามารถโปรโมทร้านจนเป็นที่รู้จักได้ นั่นก็เพราะถึง โดริส จะมีความรู้ ตรรกะเยอะก็จริง แต่ไม่มีประสบการณ์  ไม่กล้าตัดสินใจเท่าน้องที่ออกไปเห็นโลกกว้างมาแล้ว

      ส่วน โจซี่ น้องสาวถึงจะมีประสบการณ์  ได้ออกเป็นเห็นโลกกว้างมาแล้วก็เถอะ แต่หากไม่มีพี่สาวที่เป็นผู้ใหญ่ มีความรู้มีเหตุผล แล้วก็เก็บออมเงินจนสามารถเปิดร้านได้ เธอก็คงไม่มีโอกาสได้ใช้ประสบการณ์ที่มี  ลงมือทำจนสำเร็จได้เช่นกัน ฉะนั้นไม่ว่าจะความรู้หรือประสบการ  ต่างก็สำคัญด้วยกันทั้งคู่ เพราะหากไม่มีความรู้แล้ว  เราก็อาจจะเจอแต่ประสบการณ์ที่ล้มเหลวก็ได้เหมือนกัน หากทำอะไรด้วยความไม่รู้ไปตลอด  นอกจากเรื่องราวของสองพี่น้องแล้ว  อีกสิ่งนึงที่เป็นหัวใจหลักของเรื่องก็คือ 
      สิ่งของต่างๆที่ผู้คนนำมาแลกเปลี่ยนกันไปจากร้านและนำมาแทนที่ ของทุกชิ้นต่างมีเรื่องราวในตัวมันเองทั้งนั้น ไม่ว่าจะหนังสือเพลงเก่าที่ลูกค้าบางคนอยากได้ เนื่องจากแม่ของเขาเคยร้องเพลงจากหนังสือแบบเดียวกันนี้ให้ฟังเมื่อยังเด็ก หรือนักบินหนุ่มที่นำสบู่จากสถานที่ต่างๆ  มาเพื่อแลกกับของบางอย่างจาก โดริส ก่อนที่เขาจะหายไป ชายที่ต้องการนำกีตาร์มาแลกกับมือไม้ให้ลูกชาย  แต่ถูก โจซี่ ปฏิเสธด้วยเหตุผลบางอย่าง

      เป็นหนังจากไต้หวัน ที่การเล่าเรื่องอาจจะไม่บันเทิง และมีความเฉพาะตัวปาะมาณนึงเลยนะ ส่วนตัวผมเองอาจจะไม่ถึงกับรู้สึกประทับใจ แต่ก็พอไหวนะในการเล่าเรื่องแบบเฉพาะตัว นานทีได้ดูมันก็โอเค(บ่อยๆคงไม่ไหว ฮ่าฮ่า) อีกอย่างก็ กุ้ยหลุนเหม่ย จาก Blue Gate Crossing ก็น่ารักด้วยล่ะดูเพลินเลย ฮ่าฮ่า

      สรุปแล้ว Taipei Exchanges (2010) แลกเปลี่ยนเพื่อเปลี่ยนชีวิ เป็นหนังเบาสมองที่มีความเฉพาะตัวไม่ใช่แนวบันเทิง และยังสอดแทรกแง่คิดเกี่ยวกับการศึกษาหาความรู้  ไปพร้อมๆกับการหาประสบการณ์ชีวิตที่ก็สำคัญไม่แพ้กัน

#MovieReview #รีวิวหนัง



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: #Alive (2020)

 #Alive (2020) คนเป็นฝ่านรกซอมบี้ Screenwriter & Director:   Jo Il Hyung       ตั้งแต่ทั่วโลกได้รู้จักกับ Train to Busan ก็ต้องบอกว่า ไม...