วันจันทร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2564

Review: Somebody's Xylophone (2016)

 Somebody's Xylophone (2016) อาจเป็นคำว่าเหงาที่ทำให้เรามาเจอ

#ปีนรั้วรีวิว #Drama Director: Yôichi Higashi
      ซาโยโกะ (Takako Tokiwa) แม่บ้านสาวสวย หน้าที่ในแต่ละวันของเธอไม่มีอะไรมากไปกว่า การปรนนิบัติสามี (Masanobu Katsumura ) และดูแลลูกสาวที่กำลังอยู่ในวัยมัธยม ซาโยโกะ เป็นลูกค้าหน้าใหม่ที่ร้านตัดผม Mint Salon ที่มีช่างตัดผมหนุ่มรูปหล่ออย่าง ยามาดะ ไคโตะ (Sôsuke Ikematsu) ให้บริการแก่เธอ ทั้งสองคนคุยกันอย่างออกรสชาติถูกคอ จน ซาโยโกะ ตัดสินใจสมัครเป็นสมาชิกประจำของร้าน พร้อมทั้งยังแลกนามบัตรกับ ไคโตะ อีกด้วย ฝีมือการตัดผมของ ไคโตะ ยังได้ผลลัพธ์ดีเยี่ยม เมื่อสามีของ ซาโยโกะ ถูกใจทรงผมของเธอเป็นอย่างมาก จนอดใจไม่ไหวจัดไปหนึ่งดอก

แต่เรื่องราวมันคงไม่มีอะไรผิดปรกติไป หาก ซาโยโกะ ไม่ถ่ายรูปเตียงนอนใหม่ของเธอส่งไปให้กับ ไคโตะ ดู แล้วหลังจากนั้นอีกเพียงแค่ 2 อาทิตย์ เธอก็กลับไปยังร้านตัดผมเพื่อใช้บริการของ ไคโตะ อีกครั้ง โดยคราวนี้เธออ้างว่ามีนัดเลี้ยงรุ่นเพื่อนสมัยมัธยม แล้วสิ่งที่ทำให้ ไคโตะ เริ่มรู้สึกว่าแม่บ้านคนนี้รุกเขาหนักมากขึ้นก็คือ เธอแอบย่องมาตอนไหนก็ไม่รู้ เพียงเพื่อแอบเอาสตรอเบอรี่มาแขวนไว้ให้ที่หน้าบ้าน

ทำให้ ไคโตะ เริ่มหวาดระแวงขึ้นมาบ้างแล้วว่า แม่บ้าน ซาโยโกะ คนนี้กำลังคิดอะไรกับเขาอยู่หรือเปล่า แต่ปัญหาที่สำคัญที่สุดก็คือแฟนของเขา (Aimi Satsukawa) ที่เริ่มออกอาการหึงหวงมากขึ้นทุกที เมื่อไม่เฉพาะ ไคโตะ เท่านั้นที่โดนติดตาม แต่แฟนของ ไคโตะ เองก็ไม่พ้นเช่นเดียวกัน

***เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ***
***

      ความรู้สึกหลังจากดูหนังเรื่องนี้จบ มันแปลก ๆ บอกไม่ถูก ฮ่าฮ่า จะว่าถูกใจก็ถูกใจ จะว่าไม่ชอบก็มีส่วนที่ไม่ชอบ เมื่อหนังมันเหมือนจะมีอะไร แต่สุดท้ายกลับไม่พบอะไรในกอไผ่เลย ไอ้ความไม่มีอะไรที่ว่าของหนัง หากจะมองในมุมว่ามันเจ๋ง จากสิ่งที่ปูเรื่องราวมาทั้งหมดมันก็พอได้ แต่หากจะบอกว่าห่วยแตก เพราะทำเหมือนจะมีอะไร แต่สุดท้ายเรื่องราวกลับตาลปัตร ก็คงจะไม่มีความเห็นแบบไหนที่ผิดทั้งสองความคิดเห็น

หนังมันเป็นเรื่องราวของคนเหงากับความเข้าใจผิด เมื่อสองอย่างมาพบกันมันเลยกลายเป็นความดราม่าตลกร้าย ที่จะว่าไปมันก็ทำให้ตัวละคร ไคโตะ แม่งซวยแบบซวยอิบอ๋ายเลย คืออยู่ดี ๆ ก็มีแม่บ้านที่ไหนก็ไม่รู้มาถ่ายรูปเตียงนอนส่งมาให้ เทียวมาตัดผมที่ร้านและเจาะจงเลือกใช้บริการเฉพาะ ไคโตะ แอบจำข้อมูลเรื่องที่อยู่ แอบเอาข้าวของไปแขวนไว้ให้ที่หน้าบ้าน คือใครจะไม่คิดล่ะว่า อีกฝ่ายอาจจะรู้สึกพิเศษอะไรกับตัวเอง แล้ว ซาโยโกะ ไม่เพียงแค่รุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวของ ไคโตะ เท่านั้น แต่ยังรุกล้ำไปถึงพื้นที่ของแฟนสาวของเขา นั่นมันเลยยิ่งทำให้เหมือนราดน้ำมันใส่กองไฟ

เท่าที่ทุกคนอ่านมาถึงตรงนี้สิ่งที่ ซาโยะโกะ ทำไป ใครก็คงมองว่าเธอคิดอะไรกับ ไคโตะ ใช่ไหม แต่จริงแล้วเปล่าเลย เธอเป็นเพียงแม่บ้านที่เหงา ไม่มีเพื่อนแล้วอยากมีเพื่อนก็แค่นั้น สามีของเธอออกไปทำงานทุกวันแทบไม่มีเวลาพูดคุยกัน ลูกสาววัยเรียนที่กำลังเป็นวัยรุ่น ก็เริ่มทำตัวห่างเหินกับพ่อแม่ มันเลยทำเกิดช่องว่างขึ้นในครอบครัว

แล้วการที่…ว่ากันง่าย ๆ ไคตะ ที่มีอาชีพบริการตัดผมให้กับลูกค้า ก็ย่อมมีอัธยาศัยใจคอดีพูดคุยกับลูกค้า ซึ่งจุดนี้มันเลยทำให้ ซาโยโกะ รู้สึกผ่อนคลาย เหมือนได้เพื่อนใหม่กับเขามาคนหนึ่ง เธอเลยอยากจะแชร์สิ่งต่าง ๆกับเขาและแฟนสาวของเขา แต่กลายเป็นว่ายิ่งเธอเข้าหาและทำดีให้กับแฟนคู่นี้มากเท่าไหร่ มันยิ่งกลับกลายเป็นความเข้าใจผิดมากขึ้นเท่านั้น

ไม่รู้ว่าหนังแอบใส่จุดนี้เข้ามาเป็นกิมมิกเล็ก ๆ เข้ามายั่วล้อพฤติกรรมแปลก ๆ ของ ซาโยโกะ ด้วยหรือเปล่า ในฉากที่สามีของเธอไปสังสรรค์กับเพื่อนที่ทำงาน แล้วเพื่อนของสามีเธอคนหนึ่งชอบใส่มาสก์ปิดหน้าตลอดเวลา จนโดนเพื่อนร่วมงานคนอื่นต่อว่า ว่าให้เอาออกเสียที มันดูตลก ดูไม่น่าไว้วางใจ ฮ่าฮ่า มันก็เหมือนกับว่าคนเราหากไม่ใช่พวกจิตไม่ปรกติหรือเป็นสตอลเกอร์ ก็อย่าไปทำอะไรให้คนอื่นคิดว่าตัวเองเป็น

      สรุปแล้ว Somebody's Xylophone (2016) อาจเป็นคำว่าเหงาที่ทำให้เรามาเจอ ผมคงจะบอกว่าเป็นหนังที่ไม่สนุก ไม่บันเทิงนะ แต่ส่วนตัวตอนดูก็ไม่ได้รู้สึกเบื่ออะไร เพราะหนังเองก็ทำท่าทางเหมือนจะมีอะไร ส่วนมุมมองต่อหนัง ก็อย่างที่บอกไปตอนต้นล่ะว่า มันมีทั้งสองความรู้สึก ทั้งชอบและไม่ชอบในบางจุดของหนังซึ่งเป็นจุดเดียวกัน เลยคงพอจะสรุปได้ว่าเป็นหนังที่อาจจะเหมาะกับบางคนเท่านั้น
 
ฝากช่องยูทูปรีวิวหนังช่องเล็ก ๆ ด้วยครับผม:  https://www.youtube.com/channel/UCo1Txn08XONf92m_kngztWQ 
 
ขอบคุณภาพประกอบจากภาพยตร์: Somebody's Xylophone (2016)
 



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: #Alive (2020)

 #Alive (2020) คนเป็นฝ่านรกซอมบี้ Screenwriter & Director:   Jo Il Hyung       ตั้งแต่ทั่วโลกได้รู้จักกับ Train to Busan ก็ต้องบอกว่า ไม...