วันพฤหัสบดีที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2564

Review : Yurigokoro (2017)

 Yurigokoro (2017) 

#ปีนรั้วรีวิว #Mystery Director: Naoto Kumazawa
      เรียวสุเกะ (Tôri Matsuzaka) หนุ่มอารมณ์ร้อนกำลังขับรถพา ชิเอะ (Nana Seino) ไปแนะนำให้ ยูสุเกะ พ่อของเขารู้จัก หลังจากที่ทั้งสองคนตัดสินใจสร้างอนาคตเปิดร้านอาหารร่วมกัน แล้วข่าวดีที่ ชิเอะ เองก็ไม่ทันตั้งตัวก็คือ เรียวสุเกะ บอกกับพ่อว่าเขาตัดสินใจจะแต่งงานกับ ชิเอะ ในเร็ว ๆ นี้แล้ว ทุกอย่างของ เรียวสุเกะ ผ่านไปอย่างราบลื่นไม่ว่าจะความรักหรือธุรกิจที่กำลังทำอยู่

แต่จู่ๆวันหนึ่งที่ ชิเอะ โทรบอกกับคนรักว่า เธอไม่สบายและขอหยุดงานหนึ่งวัน เมื่อ เรียวสุเกะ ปิดร้านเขารีบตรงกลับบ้านมาหา ชิเอะ ในทันที ทว่าสิ่งที่เขาเจอกลับเป็นบ้านที่ว่างเปล่า ไม่มีใครอยู่ที่นั่นข้าวของทุกอย่างของ ชิเอะ ถูกเก็บไปทั้งหมด กลายเป็นว่า เรียวสุเกะ ถูกทิ้งไปอย่างไม่ทันตั้งตัวและยังไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น ทั้งยังไม่รู้ว่า ชิเอะ หนีจากเขาไปอยู่ที่ไหน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในขณะนี้ไม่ใช่เรื่องของตนเอง เมื่อพ่อของเขากำลังป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย เรียวสุเกะ จึงต้องหันไปให้ความสำคัญกับอาการเจ็บป่วยของพ่อก่อนเป็นอันดับแรก

ในวันหนึ่งที่ เรียวสุเกะตั้งใจจะไปทานข้าวเป็นเพื่อนพ่อ เขาได้ไปเห็นสมุดบันทึกเล่มหนึ่งเข้าโดยบังเอิญ สมุดบันทึกที่เขียนชื่อเรื่องว่า Yurigokoro แต่เมื่อ เรียวสุเกะ ได้อ่านเนื้อหาในบันทึกเล่มนั้นเขาแทบช็อก เมื่อมันเป็นบันทึกของฆาตกรต่อเนื่องหญิงคนหนึ่ง ที่บันทึกเรื่องราวของตัวเองตั้งแต่เด็ก ว่าเธอเป็นคนเช่นไร ใครเป็นเหยื่อรายแรกของเธอและมันเกิดขึ้นได้อย่างไร

บันทึกถูกเขียนอย่างละเอียดจนน่าขนลุก เรียวสุเกะ ได้แต่ตั้งคำถามขึ้นมาในใจว่า พ่อของเขาไปเกี่ยวข้องกับเรื่องน่ากลัวเช่นนี้ได้อย่างไร แต่ยิ่ง เรียวสุเกะ ได้อ่านบันทึกมากเท่าไหร่ ตัวเขาเองก็ยิ่งถลำลึกและฝันร้ายราวกับว่า สิ่งชั่วร้ายมันกำลังแผ่ซ่านไปตัวร่างกายของเขา

หนังสร้างจากนิยาย Yurigokoro ในชื่อเดียวกับเวอร์ชั่นหนัง ฉบับนิยายแต่งโดย Mahokaru Numata และคว้ารางวัลชนะเลิศจากรายการ Oyabu Haruhiko Sho ครั้งที่ 14

***เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ*** #สปอยเนื้อหา

      ส่วนตัวผมไม่เคยอ่านฉบับนิยายคงเขียนได้เฉพาะจากเนื้อหาของหนังเท่านั้น ผลที่ได้ของฉบับหนังจะบอกว่ามันโอเคก็ได้ จะว่าไม่สนุกนักก็คงไม่ผิดขึ้นอยู่กับว่าจะมองจากมุมไหน เมื่อหนังเล่าเรื่องเป็นเส้นตรงไปเรื่อยๆ ไม่มีจุดพีค ไม่มีหักมุมคนพาคนดูเงิบ คือหนังแทบไม่มีอีโมชั่นอะไรที่สัมผัสได้กับคนดูเลย บางเรื่องที่เนื้อหาในทำนองเดียวกันกับเรื่องนี้ ถึงจะเล่าเรื่อยๆช้าๆแต่ก็สามารถสร้างความน่ากลัวแบบเย็นยะเยือกเสียวสันหลังได้

กับ Yurigokoro (2017) เรื่องนี้กลับไม่มีความรู้สึกแบบนั้น แม้เอาจริงหนังเนื้อเรื่องก็มืดมนประมาณหนึ่งด้วยซ้ำ
หากจะมองในมุมที่ว่าเป็นหนังดราม่าระทึกขวัญ จากมุมมองนี้ก็คงตอบได้ว่าหนังทำได้น่าผิดหวัง แต่หากมองว่า Yurigokoro (2017) เป็นหนัง ดราม่า ครอบครัว ฆาตกรต่อเนื่อง จากจุดนี้หากจะถือว่าหนังทำออกมาได้ดีก็คงไม่ผิดนัก

ในสมุดบันทึกเล่าถึง มิซาโกะ (Yuriko Yoshitaka) เด็กที่เกิดมาพร้อมกับความผิดปรกติบางอย่าง ทำให้เธอไม่มีเพื่อน ไม่มีสังคม สิ่งที่ทำให้เธอพอใจได้ก็คือ การเอาบางสิ่งบางอย่างใส่เข้าไปในรู (ส่วนรูอะไรอยากรู้ไปหาดูกันเอง) กระทั้งเธอได้พบกับความพอใจสิ่งใหม่ก็คือ การปลิดชีวิต เหยื่อรายแรกของเธอก็คือ เพื่อนในวัยเด็ก จนกระทั่งถึงวัยมัธยมเธอเรียนรู้ที่จะจัดการได้อย่างแนบเนียน แล้วก็รอดจากความผิดได้เสมอมา

หลังจากที่ เรียวสุเกะ อ่านมาได้ถึงจุดนี้คนดูอย่างเราก็คงเดาไปต่างๆนานานะว่า มิซาโกะ คนนี้คือใครผมเองก็เช่นกัน ซึ่งขณะนั้นก็ยังเดาไม่ถูก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับ เรียวสุเกะ ก็คือ เขาถลำลึกลงไปเรื่อยๆ เรียวสุเกะ เริ่มหงุดหงิด โมโหง่าย ควบคุมตัวเองไม่อยู่และเริ่มใช้ความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งได้รู้ว่า มิซาโกะ คนนี้คือใคร เขาจึงเข้าใจว่าทำไมตัวเองจึงเป็นเช่นนี้

***เปิดเผยเนื้อหาสำคัญจริงๆละ***

      ประเด็นที่หนังตั้งคำถามอย่างนึงก็คือ ความดีเลวความชั่วหรือความเป็นฆาตกร มันสามารถถ่ายทอดกันทางสายเลือดได้มั้ย เมื่อ เรียวสุเกะ ได้รู้ว่า แม่ของตัวเองคือฆาตกรต่อเนื่อง คำถามไม่ใช่แค่ว่าเขาอภัยให้กับความผิดของแม่ตัวเองได้หรือเปล่า แต่ยังรวมถึงเลือดของฆาตกรต่อเนื่องที่ไหลเวียนอยู่ในตัวเขา มันจะทำให้เขากลายเป็นสิ่งเดียวกับแม่หรือไม่ (ไปหาคำตอบในหนังเอาเอง) ยังรวมถึงประเด็นระหว่างคู่สามีภรรยาอย่าง ยูสุเกะกับมิซาโกะ ที่สามีจะสามารถให้อภัยกับภรรยาได้หรือไม่

เมื่อความผิดของเธอไม่ใช่แค่การเป็นฆาตกรเท่านั้น แต่มันยังเป็นการทำลายชีวิตของเขาและครอบครัวอีกด้วย เขาจะสามารถรัก ดูแล และยังมองหน้าเธออีกโดยไม่รู้สึกเจ็บปวดกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้หรือไม่ (อันนี้ก็เป็นคำถามที่ไปหากันในหนังเอาเองนะ) ส่วนเรื่องราวของ ชิเอะ ที่หาตัวไป เอาจริงก็มีความสำคัญกับเนื้อหาประมาณนึง แต่ไม่สปอยเนื้อหาในจุดนั้นก็แล้วกัน ว่าเธอหายไปไหนแล้วบทสรุปสุดท้ายลงเอยอย่างไร

จากเรื่องราวที่เล่ามาส่วนตัวผมมองว่าหนังมีวัตถุดิบที่ดีมากเลยนะ แต่หนังเลือกจะจะเล่าออกมาในมุมดราม่า และเป็นดราม่าที่เรื่อย ๆ มาเรียง ๆ ไม่มีจุดพีค ไม่ขยี้ปมต่าง ๆ การเล่าเรื่องก็ไม่ซับซ้อน ไม่มีการหลอกล่อคนดูเลย จริงแล้วหนังก็มีหักมุมเหมือนกัน เพียงแต่มันก็เดาไม่ยาก ถึงตอนเฉลยก็ไม่ได้มีอิมแพ็คยังขาดพลัง

มันเลยมีความรู้สึกเสียดายเล็กๆ เมื่อหนังน่าจะไปได้ไกลกว่านี้ จะว่าไปเรื่องนี้เล่าคล้าย ๆ กับ Last Winter, We Parted (2018) ลมหนาวพรากสองเรา คือเล่าไปเรื่อย ๆ ค่อย ๆ เปิดเผยเนื้อหาความลับตัวละคร แต่ Last Winter, We Parted (2018) ก็ยังมีจุดพีคมีการสับขาหลอกคนดู ถึงแม้หักมุมจะไม่ยากเกินคาดเดาเหมือนกันก็ตาม

      สรุปแล้ว Yurigokoro (2017) เลือดฆาตกร ส่วนตัวก่ำกึ่งนะ มันก็ชอบในส่วนที่หนังมันมีวัตถุดิบน่าสนใจ เพียงแต่การถ่ายทอดเนื้อหา การดำเนินเรื่องของหนังมันไม่ สนุก ไม่ตอบโจทย์ความบันเทิงเท่าที่ควร แต่อย่างที่บอกไปแต่ต้นว่า หากมองในแง่มุมว่าเป็นหนัง ดราม่า ครอบครัว ฆาตกรต่อเนื่อง ก็ถือว่าหนังเองก็มีความน่าสนใจในเนื้อหาพอสมควรและน่าจะตอบโจทย์คนดูได้
 
ฝากช่องยูทูปรีวิวหนังช่องเล็ก ๆ ด้วยครับผม:  https://www.youtube.com/channel/UCo1Txn08XONf92m_kngztWQ 

ขอบคุณภาพประกอบจากภาพยนตร์: Yurigokoro (2017) 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: #Alive (2020)

 #Alive (2020) คนเป็นฝ่านรกซอมบี้ Screenwriter & Director:   Jo Il Hyung       ตั้งแต่ทั่วโลกได้รู้จักกับ Train to Busan ก็ต้องบอกว่า ไม...