วันศุกร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

Review: Zero: The Bravest Money Game (2018)

 Zero: The Bravest Money Game (2018)

#Action #Drama #Mystery Director: Syunpei Maruya, Satoru Nakajima
      ซีโร่ อุไค (ชิเกะอากิ คาโตะ) ครูสอนพิเศษวิชาคณิตศาสตร์ให้กับเด็กมัธยมต้น ซึ่งความสามารถของเขาเข้าขั้นอัจฉริยะ แล้วอีกหนึ่งตัวตนของ ซีโร่ อุไค คนนี้ก็คือจอมโจรไฮเทคที่ใช้ฉายาว่า ซีโร่ คนที่ออกปล้นแก๊งต้มตุ๋นแล้วนำเงินมาคืนให้กับผู้เดือดร้อน แต่ตัวตนของเขาก็ต้องถูกเปิดเผย เมื่อสมาชิกร่วมทีมอีกสามคนอย่าง ชิคาระ มานาเบะ (เรียว คาโตะ), ฮิโรชิ ซาจิมะ (อามาเนะ โอคายามะ) แล้วก็ สุนาโอะ ซาโอโตเมะ (โยสุเกะ สุกิโนะ) ถูกแก๊งมาเฟียจับตัวเอาไว้ได้ เพียงแต่ระหว่างที่ ซีโร่ เข้ามาช่วยเหลือเพื่อน ๆ กลับมีกลุ่มไซเซ็น กลุ่มทรงอิทธิพลที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ยื่นข้อเสนอซื้อตัวซีโร่และเพื่อน ๆ จากแก๊งมาเฟีย

ซึ่งจุดประสงค์ในการพาตัวซีโร่และเพื่อน ๆ ไปในครั้งนี้ของกลุ่มไซเซ็นเป็นเพราะว่า ประธานของพวกเขาสนใจในตัว ซีโร่ และอยากให้เขาเข้าแข่งขันเพื่อชิงเงินรางวัล รวมถึงหาตัวผู้สืบทอดตำแหน่งประธานกลุ่มไซเซ็นคนใหม่ เพียงแต่ซีโร่และเพื่อน ๆ ก็ไม่ใช่คนกลุ่มเดียวที่เข้าร่วมการแข่งขัน ยังมีคนอีกมากมายรอพวกเขาอยู่ในการแข่งขันครั้งนี้ แล้วแต่ละเกมที่ต้องแข่งขันกันก็ไม่ใช่งานง่าย แถมอาจจะต้องแลกด้วยชีวิตเลยด้วยซ้ำ
      ซีรีส์แนวจับคนมาเล่นเกมที่ต้องบอกว่าใครเก่งวิชาคำนวณ คงจะทำให้การดูซีรีส์เรื่องนี้สนุกขึ้นอีกเยอะ เพราะหลายเกมในเรื่องนี้ต้องคำนวณตัวเลข ใช้สูตรทางคณิตศาสตร์เป็นตัวช่วยเอาชีวิตรอด แต่เอาจริงถึงผมจะบอกว่าซีรีส์ใช้ความคิดค่อนข้างเยอะ โดยภาพรวมถึงจะคิดตามตัวเลขต่าง ๆ ในซีรีส์ไม่ทัน คนดูอย่างเราก็ยังสนุกตามไปด้วยได้อยู่แหละครับ เพียงแต่ถ้าใครเข้าใจวิธีเล่นเกมในแต่ละด่าน ความสนุกตื่นเต้นคงจะเพิ่มขึ้นอีก

เป็นซีรีส์ที่เกมค่อนข้างสนุก ชวนขบคิดดีเลยล่ะครับ มีความซับซ้อนประมาณหนึ่ง แต่ส่วนตัวผมก็ยังเห็นว่าความซับซ้อนของเกม ก็ยังไม่ใช่ส่วนที่ทำให้ความสนุกลดลง แต่ส่วนที่มีผลโดยตรงทำให้ซีรีส์ดึงสมาธิคนดูให้ติดตามไปตลอดรอดฝั่งไม่ได้ เห็นจะเป็นการให้เวลาในแต่ละเกมเนิ่นนานไปนี่แหละครับ คือซีรีส์มีทั้งหมด 10 ตอน ตอนละประมาณ 1 ชั่วโมง แต่เกมเกมหนึ่งซีรีส์ให้เวลาประมาณ 2 ตอนเลยล่ะครับ แอร์ไทม์ในหลายเกมของซีรีส์หลัก ๆ มันจึงเป็นเรื่องของบทสนทนา การพูดคุยกับตัวเองเพื่อใช้ความคิด ในบางเกมคนดูอย่างเราเลยมีสมาธิหลุดออกจากซีรีส์บ้างเหมือนกันครับ

ธีมดราม่าหลักของซีรีส์เป็นเรื่องของมิตรภาพและแน่นอนว่า เมื่อกลุ่มเซ็นไซพยายามควานหาตัวผู้สืบทอดคนใหม่ อีกประเด็นที่นำมาใช้ก็คือความเป็นผู้นำ ซึ่งซีรีส์สะท้อนความเป็นผู้นำในแต่ละแบบออกมา ผ่านแต่ละตัวละครที่เป็นคนนำกลุ่มของตัวเอง ไม่ว่าจะ ซีโร่ และสามเกลอเพื่อนร่วมทีม หรือ ชิรุเบะ เด็กอัจฉริยะมัธยมปลายที่ผ่านด่านในแต่ละเกมได้อย่างไม่ยากเย็น ทั้งสองคนต่างมีอุดมการณ์ที่ต่างกัน แต่พวกเขาก็สามารถสร้างผู้ติดตามของตัวเองได้ เพียงแต่ซีรีส์ก็นำเสนอแนวคิดด้วยการตั้งคำถามที่ว่า แล้วคนแบบไหนล่ะถึงจะสามารถนำผู้คนได้จริง ๆ

ซึ่งในแต่ละเกมที่ผ่านไปมันก็จะค่อย ๆ สะท้อนตัวตนของแต่ละคนออกมา ไม่ว่าจะภาวะผู้นำ การสร้างผู้ติดตาม หรือกระทั่งการเลือกว่าจะให้ใครติดตามก็มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน เพราะในบางเกมการเลือกผู้เข้าร่วมเล่นก็มีส่วนสำคัญ ที่อาจชี้เป็นชี้ตายคนเป็นผู้นำได้เหมือนกัน

ในแง่ของคาแรคเตอร์ตัวละคร ซีโร่ อุไค ซีรีส์ออกแบบมา ให้เป็นคนที่คอยให้ความช่วยเหลือคนอื่นที่กำลังลำบาก แล้วในหลายครั้งก็พยายามช่วยจนเหมือนไม่นึกถึงชีวิตตัวเอง ซึ่งในตอนแรกซีรีส์ไม่ได้บอกว่าทำไมเขาถึงมีความคิดเช่นนี้ กว่าเราจะรู้ว่าเขามีปมอะไรในใจ มีเหตุผลอะไร ก็ในช่วงตอนสุดท้ายโน่นเลยล่ะครับ ส่วนตัวละครอื่นต่างมีคาแรคเตอร์หลากหลายแตกต่างกันไป ถือว่าเป็นซีรีส์เรื่องหนึ่งที่คาแรคเตอร์ตัวละครหลักและสมทบไม่แบนราบ เพราะแต่ละคนต่างจะมีบทบาทในส่วนดราม่าของเกมการแข่งขัน ที่จะขับเน้นประเด็นใจความต่าง ๆ ที่ซีรีส์หยิบมาพูดถึง

มาถึงช่วงท้ายรีวิวกันแล้ว หากจะถามผมว่าซีรีส์เรื่องนี้เป็นยังไง ผมว่าโดยตัวซีรีส์เองความสนุกในแต่ละเกม ยังตอบโจทย์ความบันเทิงได้อยู่นะครับ เพียงแต่ก็ต้องบอกว่าอาจจะเฉพาะคอซีรีส์ญี่ปุ่นล่ะครับ ด้วยความที่ซีรีส์ดึงเวลาในแต่ละเกมค่อนข้างนาน ใส่รายละเอียดเยอะ ไม่ได้เล่าแบบกระชับรวดเร็วแบบพิมพ์นิยมในยุคปัจจุบัน หากคนชอบซีรีส์ที่เล่าแบบรวดเร็ว มีสถานการณ์คับขันชวนให้ตื่นเต้น ความบันเทิงจากเรื่องนี้ก็อาจจะไม่เต็มอิ่มมากนัก แต่เอาจริงด้วยจำนวน 10 ตอนของซีรีส์กับการใช้วันว่าง ๆ ดูสักวันสองวันจบ หากใครเป็นคอหนังแนวเล่นเกมลุ้นตาย ผมว่ามันก็ยังพอสร้างความสนุกในแบบตามแบบฉบับหนังแนวนี้ได้ดีอยู่ล่ะครับ
 
ขอบคุณภาพประกอบจากซีรีส์: Zero: The Bravest Money Game (2018)

#รีวิวซีรีส์ #SeriesReview

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: All of Us Are Dead (2022)

 All of Us Are Dead (2022) มัธยมซอมบี้ Screenwriter:  Chun Sung Il Director:  Lee Jae Gyoo       ซีรีส์เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในโรงเรียนมัธ...