Forget Me Not (2015)

Forget Me Not (2015) สมองสั่งให้ลืมหัวใจให้จำ
#ปีนรั้วรีวิว #Drama #Romance Director: Kei Horie

      หลังจากดูหนังเรื่องนี้จบ...เลยได้ความคิดที่ว่า สิ่งที่ตรงข้ามกับคนรักคงไม่ใช่คนที่ไม่ถูกรัก…แต่คงจะเป็น “คนรักที่ถูกลืม” เพราะว่าการไม่ถูกรักจริงอยู่มันอาจจะเจ็บปวด  แต่อย่างน้อยเราก็ไม่รู้สึกว่าสูญเสียอะไรไป แต่การเป็นคนรักที่ถูกลืมมันคงทรมานกับการยังรู้สึกรักอยู่ฝ่ายเดียว กับภาพความทรงจำที่ยังหลงเหลือโดยที่อีกฝ่ายลืมภาพความทรงจำไปหมดแล้ว

       ทาคาชิ (Nijirô Murakami) เด็กนักเรียนมัธยมที่ปั่นจักรยานออกมากลางดึก  แล้วบังเอิญไปชนกับสาวน้อยน่ารักเข้าอย่างจัง แต่ทันทีที่รับคำขอโทษจาก ทาคาชิ เรียบร้อย เธอก็ออกวิ่งไปต่ออย่างรวดเร็ว ปล่อยให้ ทาคาชิ ยืนงงว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเธอ 

      ในวันถัดมาตอนที่ ทาคาชิ เลิกเรียนก็ได้เห็นสาวน้อยคนนั้น ปรากฏว่าเธออยู่โรงเรียนเดียวกันนี่เอง  หลังจากนั้นทั้งสองคนได้เจอกันอีกครั้ง ในวันที่ คานาเอะ เพื่อนของ ทาคาชิ พยายามจะบอกอะไรบางอย่าง แต่สาวปริศนาคนนั้นดันมาขัดจังหวะและพา ทาคาชิ ออกมาเสียก่อน แต่การเจอกันครั้งนี้สาวน้อยปริศนาก็ยังไม่ยอมบอกชื่อของตัวเองซักที ไม่ว่า ทาคาชิ จะพยายามหาทางติดต่อยังไง  เธอก็ยังยืนยันคำเดิมว่าปล่อยให้เป็นไปตามบุพเพสันนิวาสก็แล้วกัน ทาคาชิ เลยต้องยอมให้เป็นไปตามนั้น  เพียงแต่ก่อนที่สาวเจ้าจะเดินลับตาไป ทาคาชิ ก็ตะโกนบอกไปว่า วันมะรื่นจะมาปิ๊กนิคกันที่แคมป์ของ ทาคิซาวะ 10 โมงเช้า

      แล้วเมื่อถึงวันนัดเธอก็ไปเจอกับ ทาคาชิ และเพื่อนๆที่นั่น เพียงแต่เมื่อเธอแนะนำตัวว่าชื่อ โอริเบะ อาซึสะ (Akari Hayami) และเรียนห้องเดียวกันกับคนอื่นๆ แต่กลายเป็นว่าเพื่อนทั้งหมดกลับไม่มีใครรู้จักเธอสักคน และยังยืนยันด้วยว่าในห้องเรียนไม่มีใครชื่อ อาซึสะ แน่นอน ด้วยความที่ไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไง อาซึสะ จึงวิ่งหนีออกจากกลุ่มมา โดยที่ ทาคาชิ พยายามวิ่งตามมาเพื่อถามหาเหตุผล  และสิ่งที่เขาได้ยินคงไม่มีทางที่ใครจะเชื่อได้แน่ เมื่อ อาซึสะ บอกว่าในตอนนี้คนรอบตัวเธอต่างค่อยๆลืมความทรงจำเกี่ยวกับเธอไปทีละน้อย ไม่ว่าจะเพื่อนเธอหรือกระทั่งครอบครัวของเธอเอง แต่ ทาคาชิ กลับบอกไปว่าเรื่องแบบนี้ใครจะไปเชื่อกันได้เล่า

      อย่างที่เกริ่นไปด้านบนว่า “การเป็นคนรักที่ถูกลืมมันเจ็บปวด” เมื่อ ทาคาชิ หลงรักผู้หญิงที่เขาจะลืมในวันใดวันนึง ความทรงจำที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับ อาซึสะ จะค่อยๆจางหายไปทั้งหมด ส่วน อาซึสะ นั้นรักกับผู้ชายที่เธอจะกลายเป็นคนแปลกหน้า เมื่อความทรงจำของเขาเริ่มจางหายไป ทว่าด้วยความพยายามของ ทาคาชิ เขาจึงทำทุกทางเพื่อไม่ให้ลืมเธอ ไม่ว่าจะทั้งจดบันทึก ถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอ ทำทุกอย่างเพื่อบันทึกความทรงจำเหล่านั้นเอาไว้

      ถึงหนังเรื่องนี้จะดูไม่มีที่มาที่ไปเหตุผลต่างๆกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับ อาซึสะ ก็จริง แต่ความรู้สึกที่เกิดขึ้น กับตัวผมเองขณะดูหนังเรื่องนี้ นอกจากเรื่องราวความรักของทั้งคู่แล้ว อีกความรู้สึกที่เกิดขึ้นก็คือ “ความกลัว” ผมว่ามันน่ากลัวนะเราจะมีชีวิตอยู่ยังไง หากในโลกนี้ไม่มีใครที่จดจำเราได้สักคน ไม่ว่าจะเพื่อนหรือครอบครัว เราจะกลายเป็นคนแปลกหน้าในชั่วข้ามคืน ไม่ต้องคิดถึงเรื่องจะมีคนรักเลย แค่การมีชีวิตอยู่ก็โคตรจะลำบากแล้ว ซึ่งในหนังเรื่องนี้ไม่ได้ลงรายละเอียดในการใช้ชีวิตของ อาซึสะ นะ เพียงแต่เรื่องที่เกิดขึ้นกับเธอมันสามารถทำให้เราคิดต่อในแบบนั้นได้

      ความรู้สึกของตอนจบหนังเรื่องนี้กับหนังอีกหนึ่งเรื่อง ที่มีธีมตัวละครเอกจำอะไรเกี่ยวกับคนรักไม่ได้อย่าง หนังเกาหลีเรื่อง Remember You (2016) เมื่อนึกถึงการตัดสินใจของตัวละครในตอนจบของทั้งสองเรื่อง มันก็เกิดคำถามเหมือนกันนะว่า…ทางไหนมันดีกว่ากันระหว่างยังอยู่ข้างๆกัน  แต่ต้องใช้ชีวิตอยู่กับความเจ็บปวดเดิมๆวนซ้ำไปทุกครั้ง เพราะเมื่อเขาลืม…เราเองที่จะเป็นฝ่ายเจ็บปวด แต่หากเขาจำได้เมื่อไหร่…เขาเองก็จะเป็นฝ่ายเจ็บปวดเพราะรู้สึกผิดที่ไม่อาจจำเราได้  มันก็ตัดตัดใจเลือกยากนะ…ระหว่างยังอยู่ด้วยกันแล้วเจ็บซ้ำไปเรื่อยๆ หรือเจ็บหนักครั้งเดียวแล้วเลือกเดินออกจากชีวิตอีกฝ่ายไป…แบบไหนที่จะดีสำหรับทั้งสองคนมากกว่ากัน

      สรุปแล้ว Forget Me Not (2015) เป็นหนังที่อารมณ์หนังทั้งความโรแมนซ์หรือความสนุกมันออกมากลางๆนะไม่เด่นชัด มันไหลไปเรื่อยๆให้คนดูค่อยๆซึมซับตามสไตล์หนังญี่ปุ่นนั่นแหละ แต่อย่างที่บอกไปว่า ความรู้สึกนึงที่แทรกเข้ามาระหว่างดูก็คือความกลัวที่จะอยู่อย่างโดดเดี่ยว  มันทำให้ความรู้สึกของตัวละคร อาซึสะ มันสัมผัสกับความรู้สึกเราได้ ทำให้อยากจะรู้ถึงบทสรุปของ อาซึสะ ว่าชีวิตของเธอจะเลือกเดินไปในทางไหน

#MovieReview #รีวิวหนัง