วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2562

The Kissing Booth (2018)

The Kissing Booth (2018) 
#ปีนรั้วรีวิว #Romance Director: Vince Marcello

      เชลลี่ อีแวนส์ (Joey King) หรือที่ใครๆเรียกเธอว่า เอลลี่ สาวน้อยที่มีเพื่อนเลิฟสุดซี้อย่าง ลี ฟินน์ (Joel Courtney) ทั้งสองเกิดพร้อมกัน โตมาด้วยกัน เนื่องจากแม่ของทั้งสองคนเป็นเพื่อนกันมาก่อน เรียกว่าทั้ง เอลลี่และลี ซี้มันมาตั้งอยู่อยู่ในท้องแม่ เพียงแต่ เอลลี่ อาจจะโชคร้ายไปหน่อยที่แม่ของเธอป่วยและจากไปก่อนที่จะได้เห็นลูกโตเป็นสาว ลี มีพี่ชายคนโตอย่าง โนอาห์ (Jacob Elordi) หนุ่มสุดฮอตคนที่เขาไม่มีอะไรเทียบได้สักอย่าง 
      เมื่อ โนอาห์ ต้องคอยปกป้อง ลี จากการถูกแกล้งมาตั้งแต่เด็กๆ นั่นยิ่งทำให้ ลี รู้สึกไม่ชอบใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเลย กลับกัน เอลลี่ นั้นรู้สึกใจเต้นทุกครั้งเวลาเจอหนุ่มฮอตอย่าง โนอาห์ แต่ด้วยกฎข้อห้ามระหว่างเพื่อนของเธอกับลี ที่ห้ามไม่ให้เพื่อนซี้คบกับญาติของอีกฝ่าย เลยทำให้ เอลลี่ ได้แต่ยืนน้ำลายไหลอยู่ห่างๆอย่างห่วงๆ  เมื่อเห็นซิกแพคของ โนอาห์
      ในงานเทศกาลประจำปีของโรงเรียน แต่ละชมรมจะต้องออกไอเดียจัดกิจกรรมเพื่อเรี่ยไรเงิน ซึ่งคู่เพื่อนซี้ก็ปิ๊งไอเดียได้ว่าจะจัดบูทขายจูบเพื่อการกุศล ทว่าพอไปชวนใครมาร่วมกิจกรรมกลับไม่มีใครสนใจสักคน ทางเดียวที่จะทำให้แผนการของแอลลี่และลี สำเร็จลุล่วงไปได้ก็คือ เธอต้องเกลี้ยกล่อม โนอาห์ หนุ่มสุดฮอตของโรงเรียนมายืนขายจูบให้ได้ ไม่อย่างนั้นงานประจำปีส่งท้ายก่อนเรียนจบของเธอคงจะกร่อยแน่ๆ

      หนังรัก โรแมนติก คอมเมดี้ ก้าวพ้นวัยที่เหมือนเป็นการแสดงออก  สัญญาณความเป็นผู้ใหญ่ของตัวละคร เมื่อทั้ง เอลลี่และลี ต่างพยายามรักษาสัญญาที่ให้กันไว้ตั้งแต่เด็ก เพียงแต่ว่าเมื่อโตขึ้นมันกลายเป็นว่า หากจะรักษาสัญญาระหว่างเพื่อนเอาไว้ เราจะต้องยอมเสียสละความสุขส่วนตัวไป เพื่อให้สัญญาแบบเด็กๆยังคงอยู่ การจะก้าวผ่านจากวัยเด็กมาสู่วัยรุ่นที่โตขึ้น คือเราต้องยอมทลายกำแพงที่ปิดกั้นตัวเองเอาไว้ ไม่ใช่แค่ฝ่าย เอลลี่ เพียงคนเดียว แต่รวมถึง ลี ด้วยว่าเขาจะก้าวข้ามความผิดของเพื่อนและให้อภัยกันได้หรือเปล่า

      หนังมาในทรงเดียวกับเรื่อง The Duff ชะนีซ่าส์มั่นหน้าเกินร้อย หรือหนังโรแมนติก คอมเมดี้ ไฮสคูล เรื่องอื่นนั่นแหละ คือเน้นดูง่าย มาพร้อมกับนางเอกสาวลูกเป็นขี้เหร่ที่ชอบทำอะไรเปิ่นๆ พระเอกสุดฮอตประจำโรงเรียนที่มองผ่านทะลุรูปเงาะของนางเอกได้ กับแก็งค์สาวฮอตที่กลายมาเป็นตัวโจ๊กของเรื่องเสียเอง

      หนังเป็นผลงานของช่องสตรีม Netflix ผลที่ได้ก็กลางๆนะ ไม่ดีไม่แย่  หากอยากจะดูหนังในแนวเดียวกันนี้  เอาจริงยังมีเรื่องอื่นๆที่สนุกกว่าให้ดูนั่นแหละ  แต่สำหรับคนที่ชอบหนังแนวไฮสคูลเป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็คงไม่รู้สึกผิดหวังอะไรนักหรอก เพราะอย่างน้อยก็มีหนุ่มหล่ออย่าง โนอาห์ ฟินน์ มาเซอร์วิสสาวๆ กับแฟนตาซีสาวน้อยเปิ่นๆคนชายขอบของโรงเรียนที่บังเอิญ มีหนุ่มหล่อสุดฮอตมาตกหลุมรักให้คอหนังแนวนี้ได้ฟินอยู่เหมือนกัน

      สรุปแล้ว The Kissing Booth (2018) เป็นหนัง โรแมนติก คอมเมดี้ ไฮสคูล ที่ทำได้ตามมาตรฐานนะ ยังดูเพลินสนุก ตอบโจทย์ความบันเทิงได้ แม้จะยังไม่ถึงขั้นน่าประทับใจก็ตามที

#MovieReview #รีวิวหนัง



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: All of Us Are Dead (2022)

 All of Us Are Dead (2022) มัธยมซอมบี้ Screenwriter:  Chun Sung Il Director:  Lee Jae Gyoo       ซีรีส์เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในโรงเรียนมัธ...