วันศุกร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2565

Review: Masquerade Hotel (2019)

 Masquerade Hotel (2019) พิกัดต่อไปใครเป็นศพ

#ปีนรั้วรีวิว #Crime #Mystery Director: Masayuki Suzuki
      เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งสืบคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่เกิดขึ้นในเมือง ซึ่งมีเหยื่อในคดี 3 รายถูกพบเป็นศพ แต่ความแปลกของคดีนี้ก็คือ เหยื่อทั้ง 3 ราย ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน หรือมีอะไรที่พอจะเชื่อมโยงทั้งสามคดีเข้าหากันได้ ไม่ว่าจะข้อมูลส่วนตัวของเหยื่อ หรือแม้แต่วิธีการลงมือของฆาตกร ในแต่ละครั้งก็มีรูปแบบไม่เหมือนกันอีกด้วย

สิ่งเดียวที่ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสรุปว่า เหยื่อทั้ง 3 รายเป็นคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง ก็เพราะบนร่างของเหยื่อที่พบนั้น คนร้ายจะทิ้งกระดาษที่ระบุชุดตัวเลขเอาไว้ ซึ่งตัวเลขที่ว่านั้นก็คือ พิกัดที่จะเกิดเหตุฆาตกรรมครั้งต่อไป หลังจากเหยื่อรายที่สามที่เป็นเหยื่อรายล่าสุด ตำรวจหนุ่มอย่าง โคสุเกะ นิตตะ (Takuya Kimura) ผู้ที่เป็นคนไขปริศนาชุดตัวเลขของคนร้ายได้ ระบุว่าสถานที่ฆาตกรรมเหยื่อรายต่อไปก็คือ โรงแรมหรู HOTEL CORTESIA TOKYO โรงแรมที่มีแขกมากหน้าหลายตาเข้ามาพัก

การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะตามจับคนร้ายรายนี้ได้ พวกเขาจึงจำเป็นต้องส่งคนแฝงตัวเข้ามา เป็นทั้งพนักงานโรงแรมและแขกที่เข้าพัก สำหรับเจ้าหน้าที่คนอื่นแล้วอาจจะไม่ใช่ปัญหา แต่ไม่ใช่กับ นิตตะ ตำรวจหนุ่มขาลุยขี้วีน เขาได้รับมอบหมายให้เป็นพนักงานต้อนรับ ที่ต้องคอยจับคู่ร่วมงานกับ นาโอมิ ยามากิชิ (Masami Nagasawa) พนักงานต้อนรับเจ้าระเบียบ เป๊ะไปเสียทุกเรื่อง มองคุณลูกค้าเปรียบเสมือนพระเจ้า นิตตะ ก็เลยต้องรับศึกหลายด้าน ทั้ง ผู้คุมกฎอย่าง ยามากิชิ ร่วมถึงสารพัดปัญหาจากลูกค้า ซึ่งอาจจะเป็นใครก็ได้ที่เป็นคนร้ายตัวจริง
      หนังสืบสวนจากนิยาย "Masquerade Hotel" ของ Keigo Higashino ผมไม่เคยอ่านนิยายมาก่อน เลยขอข้ามไม่กล่าวถึงส่วนนั้นก็แล้วว่า ว่ามีความเหมือนความแตกต่างกันอย่างไร

แต่กับฉบับหนังนี้ในตอนแรกจากที่ได้อ่านเรื่องย่อและดูตัวอย่าง ตัวผมเองคาดหวังไว้พอสมควรเลยนะ ด้วยนักแสดงก็ระดับแม่เหล็กแถวหน้าทั้ง ทาคุยะ คิมุระ กับ มาซามิ นากาซาวะ แต่หลังจากที่ดูจบแล้วบอกตามตรงเลยว่าไม่สมหวัง หนังไม่สนุกอย่างที่คาดหวังไว้ จะว่ายังไงดี มันแทบไม่มีอารมณ์แบบหนังสืบสวนเลย ดำเนินเรื่องไปแบบเรื่อย ๆ มาเรียง ๆ โอเคเข้าใจว่าธรรมชาติของหนังญี่ปุ่น เขาไม่เร่งเร้าขายความระทึกขวัญบันเทิงอยู่แล้ว

แต่ในแง่มุมของการสืบสวน ปริศนาฆาตกร หนังใส่เข้ามาเพียงเล็กน้อยแทบไม่มีผลอะไรต่อเนื้อเรื่องเลย แต่ละเหตุการณ์ที่ผ่านไป มันเป็นเรื่องของการคลี่คลายปมในใจของตัวละครมากกว่า อย่างในช่วงแรกหนังเล่าการเปลี่ยนแปลงของตัวละคร นิตตะ ที่เป็นคนกระด้าง ขี้วีน แต่การที่เขาต้องมาเป็นพนักงานต้อนรับ พร้อมกับต้องสืบคดีไปด้วย มันทำให้เขาจัดลำดับความสำคัญไม่ได้ เขามักจะมองหาแต่คนร้าย สงสัยแขกแทบทุกคน จนลืมไปว่าตัวเองก็สวมอีกบทบาทหนึ่งเป็นพนักงานโรงแรมอยู่

นอกจากนั้นยังมีเนื้อหาในอดีต แก้ไขเรื่องราวในใจตัวละครที่เป็นแขกของโรงแรม ที่ตัวละคร นิตตะและยามากิชิ ต้องร่วมมือกันคลี่คลายปมเหล่านั้นอีกด้วย เกินครึ่งเรื่องของหนังจึงมีเนื้อหาในทำนองเดียว กับหนังดราม่าฟีลกู๊ดที่พระนางช่วยกันรักษาปมในใจ ของแขกที่เข้ามาพัก มากกว่าการไขปริศนาคดีฆาตกรรม ที่ระหว่างทางอาจจะมีแทรกเนื้อหาในมุมของคดีเข้ามาบ้างเพียงเล็กน้อย

เลยทำให้ในแง่ของความเป็นหนังสืบสวน ลึกลับ ตัวหนังเองทำได้ไม่ค่อยดี แม้การเฉลยตัวฆาตกรจะดูมีชั้นเชิง และเชื่อมโยงกับเนื้อหาส่วนแรกที่ดูฟีลกู๊ดได้ดี แต่รายละเอียดแรงจูงใจ ความซับซ้อนของแผนการ เอาจริงก็ดูเหมือนมีของนะ แต่พอเล่าไม่สนุก ดึงความสนใจคนดูไว้ไม่ได้ เพราะไม่ได้ปูเนื้อหาเอาไว้บ้างเลย มาเล่ารวบยอดเอาทีเดียวตอนไคล์แม็กซ์ แทนที่จะออกมาบันเทิงน่าติดตาม มันกลายเป็นเหมือนคนละเรื่องเดียวกัน ไม่มีความปะติดปะต่อเรื่องราว นึกจะเฉลยก็เปิดเผยความลับกันง่าย ๆ

เนื้อหาหนังส่วนที่ได้น้ำได้เนื้อเลยเป็น ดราม่าของตัวละคร นิตตะ กับความสัมพันธ์ที่เป็นคู่กัดก่อนจะกลายเป็นคู่หู ระหว่างเขากับยามากิชิ ดูจะเป็นอะไรที่จับต้องได้มากที่สุด อีกส่วนที่หนังกล่าวถึงคงจะเป็นหัวใจหลักของการทำงานบริการ ที่ตัวละครคนนอกอย่าง นิตตะ ต้องมาเผชิญ แล้วตัวละคร ยามากิชิ ทำมาตลอด ซึ่งคนที่ทำงานบริการคงไม่มีใครคาดคิดหรอกว่า วันหนึ่งงานบริการซึ่งเป็นหน้าที่ของตัวเอง และก็ทำอย่างสุดความสามารถแล้ว สิ่งเหล่านั้นมันจะย้อนศรกลับมาทำร้ายพวกเขา

สรุปแล้ว Masquerade Hotel (2019) พิกัดต่อไปใครเป็นศพ ส่วนตัวผมไม่ฟินนะ หนังกลาง ๆ ค่อนมาทางไม่สนุก แต่ใครเป็นแฟน มาซามิกับทาคุยะ อยากจะดูก็น่าจะพอไหว หากพูดถึงการแสดงก็ยังทำได้ตามมาตรฐาน แอร์ไทม์ในหนังก็ค่อนข้างเยอะกว่าคนอื่น แต่พยายามอย่าคาดหวังความบันเทิงไว้เยอะก็แล้วกัน
 
ขอบคุณภาพประกอบจากภาพยนตร์: Masquerade Hotel (2019)

#MovieReview #รีวิวหนัง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: All of Us Are Dead (2022)

 All of Us Are Dead (2022) มัธยมซอมบี้ Screenwriter:  Chun Sung Il Director:  Lee Jae Gyoo       ซีรีส์เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในโรงเรียนมัธ...