วันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2565

Review: Tonight, At Romance Theater (2018)

 Tonight, At Romance Theater (2018) รักเรา จะพบกัน

“ชีวิตคือการผลัดใบ” เคนจิ (Kentarô Sakaguchi) หนุ่มผู้ช่วยผู้กำกับหนัง ที่รักการทำหนังและการดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ คาแรคเตอร์ตัวละครจากหนังที่เขารักมากที่สุดก็คือ องค์หญิงมิยูกิ (Haruka Ayase) จากเรื่ององค์หญิงจอมแก่นกับสามอัศวินหน้าขน หนังเก่าที่แทบไม่มีใครคิดจะดูแล้ว เคนจิ รักหนังเรื่องนี้มากถึงขนาดที่ว่า แม้ต้องเหมาเก้าอี้ทุกตัวโรงหนัง เพื่อนั่งดูหนังเก่าเรื่องนี้เขาก็ยอมจ่าย
เพียงแต่ว่าอีกไม่นาน เคนจิ ก็จะอดได้พบกับองค์หญิงมิยูกิ นางเอกจากหนังเรื่องนี้แล้ว เมื่อเจ้าของโรงฉายตัดสินใจขายฟิล์มม้วนนั้นให้กับนักสะสม เขาจึงขอร้องกับเจ้าของโรงหนังแห่งนั้นว่า อยากจะขอดูหนังเรื่องนี้อีกเป็นครั้งสุดท้าย และแล้ว เคนจิ ก็ได้พบกับ องค์หญิงมิยูกิ สมใจอยากอีกครั้ง เพียงแต่คราวนี้มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นกับเขา เมื่อองค์หญิงมิยูกิ ดันทะลุจอออกมาตัวขาวโพลน (เพราะเป็นหนังขาวดำ) แถมยังเกาะติด เคนจิ เป็นกาวตราช้าง พ่อหนุ่ม เคนจิ ก็เลยต้องจำยอมรับหน้าที่ เป็นคนรับใช้ของเธอไปโดยปริยาย
หนังโรแมนติก คอมเมดี้ ที่จะบอกว่าดีงามได้ไหมก็คงพอได้ แต่เอาตรง ๆ ส่วนตัวผมคิดว่ายังเล่าความสัมพันธ์ตัวละครเอกแบบหลวม ๆ ไม่พาให้อินเมื่อถึงช่วงดราม่าที่ควรจะขยี้เรียกน้ำตาคนดูได้ ที่ได้ผลดีของหนังกลับเป็นเรื่องการตีความเรื่องของยุคสมัยของการผลัดใบ การขึ้นมาทดแทนกันของสิ่งใหม่ ๆ และคำถามที่ว่า หากรักกันแต่ไม่สามารถสัมผัสกันได้จะยังสามารถอยู่ร่วมกันได้ไหม
เริ่มกันที่เรื่องความสัมพันธ์ของตัวละคร ถึงหนังจะพยายามบอกว่าตัวละคร เคนจิ นั้นมีความผูกพันกับหนังและรักตัวละคร องค์หญิงมิยูกิ อยู่ก่อนแล้ว หรือบอกว่าองค์หญิงมิยูกิ ก็เฝ้ามอง เคนจิ ผ่านจอภาพยนตร์อยู่ตลอดก็จริง แต่เมื่อทั้งสองคนออกมาพบกันที่โลกภายนอกแล้ว การเล่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่มันดูรวบรัด ไปแบบเร็วจนคนดูไม่ทันได้รู้สึกว่าไปรักกันตอนไหน
หรือมีเหตุอะไรที่ทำให้ทั้งสองคนรักกัน (ทั้งที่จะบอกว่าทั้งสองคนมีความผูกพันต่อกัน ตั้งแต่ก่อนจะได้พบกันแล้ว…ก็คงไม่ผิดนัก) แต่ที่คนดูได้เห็นความสัมพันธ์ของทั้งคู่จริง ๆ ก็ตอนที่ได้พบกันด้านนอก ซึ่งส่วนตัวผมเองมองว่าหนังให้เวลากับส่วนนี้น้อยไป ทำให้ช่วงท้ายเรื่องดราม่ามันเลยไปไม่สุดอย่างที่ควรเป็น
ถ้าบอกว่าการเล่าความสัมพันธ์ของคู่พระนางไม่ทำให้คนดูอินตาม ประเด็นเสริมที่ถูกใส่เข้ามาแล้วพอจะเป็นเหตุผลแก้ต่างความห่างเหินของสองตัวละคร หรือแก้ไขเรื่องที่ไม่อินกับความสัมพันธ์ได้ คงจะเป็นการที่คนรักกันแต่ไม่สามารถสัมผัสกัน มันจะมีผลอะไรหรือไม่ พวกเขาจะยังสามารถอยู่ด้วยกันได้หรือเปล่า กับคนอื่นไม่รู้ยังไงนะ
แต่สำหรับผมเองมันคงยากนะ ถ้าหากเรารักใครสักคนแล้วไม่สามารถถูกตัวกันได้ ถึงต่อให้ตัดเรื่องอย่างว่าออกไปก่อนก็เถอะ เอาแค่การที่ไม่สามารถจูงมือกันได้ ประคับประคองยามหกล้ม หรือช่วยพยุงกันเมื่อแก่เฒ่า แล้วจะสามารถมีชีวิตอยู่ร่วมกันได้อย่างไร ถึงจะบอกว่าคนรักกันขอแค่ให้ได้อยู่ใกล้กันก็พอ แต่ว่ามีใคร…ที่ทำได้บ้างล่ะ หรือจะมีสักกี่คนที่ทำได้
ประเด็นที่โดดเด่นเห็นชัดเจนขึ้นมาคงหนีไม่พ้นเรื่อง การผลัดใบของยุคสมัยที่เปลี่ยนสิ่งใหม่มาทดแทนสิ่งเก่า สำหรับคนที่อายุอาจจะยังไม่เยอะมากอยู่ในช่วงวัยรุ่น อาจจะไม่อินกับประเด็นนี้เท่าไหร่ แต่สำหรับคนที่ยี่สิบปลาย ๆ ขึ้นไป ที่เคยผ่านประสบการณ์ชีวิตการเปลี่ยนผ่านของยุคสมัยมาบ้าง คงจะอินกับประเด็นนี้ได้ไม่ยาก
หนังเรื่องนี้เล่าตั้งแต่ยุคที่โรงภาพยนตร์รุ่งเรืองถึงขีดสุด ไล่มาจนถึงยุคที่เริ่มมีการออกอากาศทางทีวี จนทำให้ความนิยมการชมภาพยนตร์ในโรงหนังมีความนิยมลดลง มีหนังเก่ามากมายที่เคยให้ความบันเทิงกับผู้คน แต่เมื่อถึงวันหนึ่งมันก็ถูกกลืนหายไปพร้อมกับคลื่นแห่งกาลเวลา แน่นอนว่ากับคนยุค 90s อย่างผม ผ่านยุครุ่งเรืองของเพลงป๊อบ เพลงอัลเทอเนทีฟ ในยุค 90s ต่อต้น 2000 มีคลื่นวิทยุฮิตมากมาย ยุคสมัยของเทปคาสเซ็ท ซาวด์อะเบาท์ เกมบอย ซึ่งตอนนี้มันถูกคลื่นของกาลเวลาซัดไปหมดแล้ว
หากถามความเห็นส่วนตัวผมสิ่งที่ดีงามที่สุดของหนังเรื่องนี้ ผมขอยกให้ ฮารุกะ อายาเซะ ก็แล้วกัน คือสวยทุกซีน ขนาดเป็นภาพขาวดำก็ยังสวยเลย ฮ่าฮ่า แล้วจากที่เห็นในบางฉากของหนังเรื่องนี้ ขอบอกว่าเธอเป็นผู้หญิงที่วิ่งบนรองเท้าส้นสูงได้สง่างามสวยมาก ๆ
สรุปแล้ว Tonight, At Romance Theater (2018) รักเรา จะพบกัน เป็นหนังโรแมนติก คอมเมดี้ ที่ดูง่าย ย่อยง่าย มีประเด็นหลากหลาย ทั้งในแง่ความรัก ความสัมพันธ์ของคนสองคน รวมทั้งแง่มุมการผลัดใบของสิ่งต่าง ๆ ที่มันจะจางหายไปตามกาลเวลา
ขอบคุณถาพประกอบจากภาพยนตร์: Tonight, At Romance Theater (2018)


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: All of Us Are Dead (2022)

 All of Us Are Dead (2022) มัธยมซอมบี้ Screenwriter:  Chun Sung Il Director:  Lee Jae Gyoo       ซีรีส์เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในโรงเรียนมัธ...