Review: My Friend 'A' (2018)

 My Friend 'A' (2018)

#ปีนรั้วรีวิว #Drama Director: Takahisa Zeze

      จุนอิชิ มาสุดะ (Tôma Ikuta) ชายหนุ่มที่หวังว่าวันหนึ่งเขาจะได้เป็นนักข่าว แต่หลังจากเรียนจบเจ้าตัวทำได้เพียง แค่ตระเวนทำงานเป็นพนักงานพาร์ทไทม์ตามโรงงาน ในตอนนี้เขาเป็นพนักงานชั่วคราว พร้อมกับ ฮิเดโตะ ซูซุกิ (Eita) หนุ่มเซอร์มาดขรึม ที่ไม่ยอมสุงสิงกับใคร มาสุดะ พยายามเป็นฝ่ายเข้าไปทักทายพูดคุยก่อน แต่ดูจะไม่เป็นผลเมื่อ ซูซุกิ เหมือนพยายามเก็บซ่อนบางอย่าง ไม่สนใจผู้คนรอบข้างเลยแม้แต่น้อย

วันหนึ่ง มาสุดะ ได้รับการติดต่อจาก คิโยมิ สุกิโมโตะ (Mizuki Yamamoto) เพื่อนสมัยเรียนที่ตอนนี้ทำงานสำนักพิมพ์ เธอติดต่อขอให้เขาช่วยเขียนสกู๊ปข่าว การฆาตกรรมเด็กคนหนึ่งซึ่งมีคนพบศพอยู่ในอุโมงค์ แล้วอุโมงค์ที่ว่ามันเป็นอุโมงค์แห่งเดียวกับคดีฆาตกรรม ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อ 17 ปีที่แล้ว มาสุดะ เริ่มค้นหาข้อมูลคดีฆาตกรรมในอดีต จนเขาได้พบกับรูปภาพของเหยื่อและผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรม ที่เป็นเพียงเด็กชายวัย 14 ปีในตอนนั้น

มันจะไม่มีอะไรน่าประหลาดใจเลย หากเด็กชายวัย 14 ปีในรูปนั้น หน้าไม่เหมือนกับ ซูซุกิ เพื่อนใหม่ในที่ทำงานของเขา มาสุดะ จึงเริ่มสังเกตพฤติกรรมของเพื่อนใหม่คนนี้ แต่เรื่องกลับกลายเป็นว่า ยิ่งรู้จัก ซูซุกิ มากขึ้นเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งไม่อยากจะเชื่อว่าชายคนนี้ จะเป็นคนร้ายฆ่าเด็กเมื่อ 17 ปีที่แล้วได้

***เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ***
***

      หนังที่กล่าวถึงบาดแผลในใจ ของทั้งผู้สูญเสียและผู้กระทำผิด คงเป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้วว่า พ่อแม่หรือคนรักของเหยื่อที่เป็นฝ่ายสูญเสีย ยิ่งกับการสูญเสียลูกตั้งแต่อายุน้อย พวกเขาคงเจ็บปวดไม่สามารถทำใจลืมเรื่องราวได้ง่าย ๆ แต่หนังเรื่องนี้ยังเล่าเรื่องราวอีกมุมมองหนึ่ง คือ คนกระทำผิดเอง หากไม่ได้ทำไปโดยเจตนาหรือเป็นคนชั่วร้ายโดยสันดาน พวกเขาก็คงเจ็บปวดกับผลลัพธ์ของการกระทำด้วยเหมือนกัน เพราะมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายในการจะเอาชีวิตใครสักคน

ในหนังเรื่องนี้ไม่เพียงแค่ ซูซุกิ เท่านั้นที่เคยทำเรื่องผิดพลาดมาในอดีต มาสุดะ เองก็เคยก่อเรื่อง จนเกิดความสูญเสียกับเพื่อนในสมัยเรียนด้วยเช่นกัน นี่จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เขาเข้าใจจิตใจของ ซูซุกิ ว่าจะเจ็บปวดมากแค่ไหน ที่ต้องอยู่กับความรู้สึกผิดกับตัวเองไปตลอดชีวิต มีฉากหนึ่งของ ซูซุกิ ที่อธิบายความอัดอั้นตันใจของเขาได้ดี เมื่อเขาเห็นคนรักถูกทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจ จนไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป สิ่งที่เขาทำคือ ไม่ยอมต่อสู้หรือทำร้ายฝ่ายตรงข้าม แต่กลับหยิบเอาหินมาทุบหัวตัวเอง แล้วเรียกให้อีกฝ่ายมาฆ่าเขาซะแล้วยุติเรื่องทั้งหมด

ส่วนความรู้สึกผิดในใจของ มาสุดะ เขาทำได้เพียง แค่กลับไปเยี่ยมแม่ของเพื่อนที่กำลังป่วยหนักใกล้ตาย ต่อหน้าเขาแสร้งทำว่าตัวเองนั้นเป็นเพื่อนสนิทที่ดีที่สุด แต่ในใจลึก ๆ แล้วเขาอยากจะสารภาพว่ามันไม่ใช่แบบนั้นเลย เมื่อเขาเองก็ไม่ได้ดีไปกว่าคนอื่นที่ทำร้ายลูกชายของพวกเขา แต่ มาสุดะ ก็ไม่สามารถทำร้ายหัวใจของพ่อ และคนเป็นแม่ที่กำลังป่วยใกล้ตายได้

หนังไม่ได้มีเพียงแค่ปมเรื่องราวของสองเพื่อนซี้คู่ใหม่ แต่ยังมีเรื่องราวของ ชูจิ ยามาอุชิ (Koichi Sato) ชายสูงวัยที่มีอาชีพขับรถแท็กซี่ เขาต้องเป็นฝ่ายรู้สึกผิดและคอยรับหน้าแทนลูกชาย ที่เคยทำเรื่องเลวร้ายต่อเด็กผู้หญิงคนหนึ่งในอดีต เมื่อพ่อแม่ของเหยื่อไม่ยอมให้อภัย ชูจิ เองก็รู้สึกรับผิดชอบกับเรื่องที่ลูกชายทำ แต่กลับกลายเป็นลูกชายของเขา ที่ไม่สนใจเรื่องในอดีตและอยากเริ่มต้นชีวิตใหม่ คนเป็นพ่อจึงทนไม่ได้ที่เห็นลูกชายไม่สำนึกผิดกับเรื่องที่เคยเกิดขึ้น

จริง ๆ ยังมีเรื่องราวของตัวละครสมทบอีกสองสามตัวละคร แต่ไม่เอ่ยถึงก็แล้วกันเพราะเป็นประเด็นเดียวกัน ที่เกี่ยวกับการทำผิดแล้วรู้สึกผิดกับสิ่งที่ตัวเองเคยทำลงไป

เป็นหนังที่ตัวอย่างแอบสับขาหลอกว่าจะเป็นหนังลึกลับหักมุม แต่พอได้ดูจริง ๆ แล้วมันเป็นหนังดราม่า ที่ไม่ได้มีเรื่องราวซับซ้อนอะไรเลย หนังบอกเล่าเรื่องราวความเจ็บปวดของแต่ละตัวละคร ที่ทุกคนต่างอยากจะก้าวข้ามความสูญเสีย และอดีตอันเลวร้ายของตัวเองไปให้ได้ แต่สุดท้ายแล้วอดีตก็ตามมาหลอกหลอน ไม่สามารถสลัดมันออกไปได้ จนตัวละครก็คิดว่าบางครั้งความตายมันอาจจะเป็นทางออกได้ แต่ในใจลึก ๆ แม้ชีวิตมันจะเจ็บปวดแค่ไหน พวกเขาก็ยังอยากที่จะมีชีวิตต่อไปอยู่ดี

สรุปแล้ว My Friend 'A' (2018) เป็นหนังดราม่าที่แอบหน่วงอยู่เล็ก ๆ เพราะตัวละครต่างก็เคยทำเรื่องผิดกันมาจริง ๆ แม้พวกเขาเองจะอยากมีชีวิตอยู่ ก็เลยต้องอยู่อย่างเจ็บปวดไปตลอด หนังเล่าเรื่องเรื่อย ๆ ไม่มีอะไรเซอร์ไพส์ แต่ก็พอดึงความสนใจคนดูเอาไว้ได้ เมื่ออยากจะรู้ว่า มาสุดะ จะเขียนเรื่องราวของ ซูซุกิ ออกมายังไง เมื่อเขาเองน่าจะเป็นคนที่เข้าใจหัวอกมากที่สุด แล้วตัว มาสุดะ จะสามารถก้าวข้ามปมในใจตัวเองได้หรือไม่

 

ขอบคุณภาพประกอบจากภาพยนตร์:  My Friend 'A' (2018)

#MovieReview #รีวิวหนัง