วันพฤหัสบดีที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2565

Review: Birthday (2018)

Birthday (2018) สุขสันต์วันลูกชายฉันเกิด

#ปีนรั้วรีวิว #Drama Director: Jong-un Lee
      ซุนนัม (Do-yeon Jeon) แม่ที่ใช้ชีวิตตามลำพังกับลูกสาวอย่าง เยโซล (Kim Bo-Min) เมื่อสามีอย่าง จองอิล (Kyung-gu Sol) ต้องไปทำงานต่างประเทศ ทว่าเรื่องความทุกข์ใจในชีวิตของ ซุนนัม ไม่ใช่การที่สามีไม่ได้อยู่กับครอบครัว หรือการที่เธอต้องดิ้นรนทำงานเลี้ยงตัวเพียงลำพัง แต่มันคือการสูญเสีย ซูโฮ (Yoon Chan-Young) ลูกชายคนโต ในเหตุการณ์เรือเซวอล อับปางเมื่อปี 2014 โดยที่เธอไม่มีใครอยู่เคียงข้าง กระทั่งสามีหรือพ่อของลูก ซุนนัม จึงทำได้เพียงอดกลั้นเก็บกดความโศกเศร้า เพื่อทำงานหาเงินมาเลี้ยงดูตัวเองกับลูกสาว ด้วยการทำงานเป็นพนักงานร้านมินิมาร์ท

เวลาผ่านไปหลายปีในที่สุด จองอิล ก็เดินทางกลับจากต่างประเทศ เขารู้สึกผิดที่ตัวเองไม่ได้อยู่เคียงข้างครอบครัวในวันที่สูญเสียลูกชาย จองอิล จึงพยายามกลับเข้ามาเพื่อชดเชยเวลาที่ผ่าน แต่ดูเหมือนว่า ซุนนัม จะไม่สามารถให้อภัยเขาได้ง่าย ๆ เธอยังเจ็บปวดทรมานทุกครั้ง เวลาเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนของลูกชาย เวลาเธอเห็นเด็กคนอื่นก็มักหลงคิดว่า ซูโฮ ยังมีชีวิตอยู่ เมื่อ ซุนนัม ยังไม่สามารถก้าวข้ามความเจ็บปวดภายในใจได้ สิ่งที่สามีอย่าง จองอิล จำเป็นต้องทำจึงไม่ใช่เพียงแค่ให้เธออภัยแก่เขา แต่ยังต้องคอยประคับประคองให้ ซุนนัม ก้าวข้ามความสูญเสียไปให้ได้อีกด้วย

หนังได้แรงบันดาลใจมาจากเหตุการณ์เรือเซวอลอับปาง ซึ่งหลายคนน่าจะยังจำเหตุการณ์นั้นได้ดี เนื่องด้วยมีความสูญเสียเป็นจำนวนมากและมีดราม่าตามมามากมาย ซึ่ง เซวอล เป็นเรือที่เดินทางมุ่งหน้าจากเมืองอินชอนไปที่เกาะเชจู แต่เกิดเหตุการณ์เรืออับปางเสียก่อน ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 304 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กนักเรียนของ โรงเรียนมัธยมดันวอน ในเมืองอันซาน (Ansan)

***เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ***
***


      หนังเรื่องนี้ไม่ได้นำเสนอเหตุการณ์ความสูญเสียที่ว่า แต่หนังหยิบเอาเรื่องราวผลกระทบจากความสูญเสีย ผ่านครอบครัวหนึ่ง ที่พ่อแม่มีระยะห่างกันด้วยความจำเป็น ความสูญเสียที่มันหนักหนาอยู่แล้วมันจึงหนักมากยิ่งขึ้น เมื่อผู้หญิงคนหนึ่งต้องรับมือกับมันตามลำพัง Birthday (2018) จึงเป็นหนังที่ไม่เพียงแค่สะท้อนผลกระทบจากความสูญเสีย แต่ยังสะท้อนภาวะอารมณ์ของคนที่สูญเสีย โดยปราศจากเบาะรองรับทางจิตใจ เมื่อคนที่เธอต้องการพึ่งพิงไม่ได้อยู่เคียงข้าง

เราจะได้เห็นฉากที่ ซูนนัม เปิดประตูเข้าไปในห้องลูกชาย แล้วร้องไห้เหมือนคนเสียสติ เธอพยายามหลีกเลี่ยงที่จะเห็นข้าวของของลูกชาย แต่ยิ่งเธอหลีกหนีมันมากเท่าไหร่...เมื่อใดที่ได้เห็น มันจึงเหมือนเขื่อนแห่งความเสียใจที่ถูกพังทลาย ซุนนัม ปลดปล่อยออกมาทุกอย่าง ในแบบที่หากทิ้งเธอไว้แบบนั้นต่อไป น้ำตาคงออกมาเป็นสายเลือด เราจะได้เห็น ซุนนัม ทำร้ายความรู้สึกคนรอบข้าง เหมือนที่เธอไม่ต้องการให้สามีกลับมา เธอต่อว่า เยโซล ลูกสาว เพียงเพราะไม่กินของที่ซื้อมาให้ (เพราะอาหารนั้นลูกชายซูโฮชอบกิน)

ส่วนตัวละคร จองอิล พ่อและสามี ที่ไม่ได้อยู่เคียงข้างครอบครัวในช่วงเวลานั้น แม้จะดูเหมือนสามารถรับมือกับความสูญเสียได้ แต่ลึก ๆ แล้ว จองอิล ก็รู้สึกเจ็บปวดเป็นทุกข์ ที่ตัวเองไม่สามารถอยู่เคียงข้างในวันที่ครอบครัวต้องการเขามากที่สุด จองอิล จึงพยายามกลับมาทำหน้าที่หัวหน้าครอบครัวอีกครั้ง เผชิญหน้า รับมือกับความสูญเสีย เพื่อก้ามข้ามมันไปให้ได้เสียก่อน แล้วจึงยื่นมือเข้ามาฉุดรั้ง ซุนนัม ให้ก้าวข้ามมันไปด้วยกัน

เห็นผมเขียนรีวิวมาแบบนี้ เดี๋ยวหลายคนอาจจะคิดว่าหนังจะดราม่าน้ำตานอง เอาจริงในช่วงแรกจนถึงเกือบ ๆ ท้ายเรื่อง แม้หนังจะมีฉากซาบซึ้ง สะเทือนใจอยู่เยอะก็จริง แต่ดูเหมือนหนังจะค่อนข้างนึกถึงหัวอกครอบครัวผู้สูญเสีย ไม่ค่อยบิ้วอารมณ์สะเทือนใจไปจนสุดทาง แม้เรื่องราวจะเศร้า แต่มันก็เหมือนกับว่า เราเพียงกำลังมองดูเรื่องราวที่เกิดขึ้น หนังไม่ได้ดึงคนดูให้มีอารมณ์ร่วมกับความรู้สึกของตัวละครมากเท่าไหร่

แต่ยังไงซะหนังแนวนี้ก็ไม่พ้นจะมีฉากสะเทือนใจอยู่ดี เมื่อถึงช่วง 20 นาทีสุดท้ายของหนัง ในงานวันเกิดของ ซูโฮ ที่ให้ทุกตัวละครมาร่วมกันเพื่อกล่าวระลึกถึง มันจึงเป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่หนังจะทำให้คนดูอย่างเราเสียน้ำตา ถึงอย่างนั้น...อีกด้านหนึ่ง หนังก็ออกแบบฉากนี้ให้เป็น น้ำตา รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ บนความรู้สึกตื้นตัน เมื่อผู้คนหัวอกเดียวกัน ที่ต่างสูญเสียคนรัก ช่วยกันประคับประคอง เพื่อก้าวผ่านช่วงเวลาแห่งความทุกข์ เพราะที่สุดแล้ว ก็คงจะมีแต่ผู้สูญเสียด้วยกันที่จะเข้าใจกันได้ดีที่สุดครับ

สรุปแล้ว Birthday (2018) สุขสันต์วันลูกชายฉันเกิด เป็นหนังดราม่าที่หากใครเป็นสายชอบความหน่วง น้ำตานอง น่าจะชอบได้ไม่ยาก ด้วยความน่าสนใจที่หนังได้แรงบันดาลใจจากเหตุการณ์จริง ความอินมันเลยยิ่งเพิ่มขึ้นมาอีก ส่วนตัวผมเรื่องนี้อาจจะไม่ถึงขั้นดราม่าท็อปพีค แต่ก็อยู่ในระดับที่คิดว่า หนังทำได้สัมผัสความรู้สึกดีเลยล่ะ
 
ขอบคุณภาพประกอบจากภาพยนตร์: Review: Birthday (2018)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: All of Us Are Dead (2022)

 All of Us Are Dead (2022) มัธยมซอมบี้ Screenwriter:  Chun Sung Il Director:  Lee Jae Gyoo       ซีรีส์เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในโรงเรียนมัธ...