วันศุกร์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2567

Review: Bad Prosecutor (2022)

 Bad Prosecutor (2022)

#Action #Comedy Director: Kim Sung Ho
 
รับชมได้ทาง TrueID
     จินจอง (Do Kyung-Soo) อัยการหนุ่มที่ออกจะแปลกแตกต่างจากภาพลักษณ์อัยการทั่วไป เพราะเหมือนนักเลงหัวไม้เสียมากกว่า เมื่อเขาเป็นอัยการที่กัดไม่ปล่อย ไม่ค่อยทำงานตามหลักของกฎหมาย เรียกว่าทั้งใช้เล่ห์เหลี่ยม ทั้งใช้กำลัง รวมถึงสารพัดวิธีการเพื่อเอาคนผิดมาลงโทษ แต่เพราะการชอบเข้าไปยุ่งกับคดีที่ไม่เกี่ยวข้องจนสร้างความวุ่นวาย สุดท้าย จินจอง เลยมักจะถูกสั่งให้ทำแค่คดีเล็กน้อยไม่มีความสำคัญ แต่ไม่รู้เพราะใครกำหนดมา จินจอง ก็ได้คดีฆาตกรรมในย่านซอโชดงมาอยู่ในมือ แน่นอนว่าเขายังทำงานในสไตล์กัดไม่ปล่อยของตัวเอง แล้วยิ่งสืบลึกลงไปผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับอาจไม่ใช่คนร้ายตัวจริง แต่มันอาจเกี่ยวพันถึงคนระดับสูงในสำนักงานอัยการ

ซีรีส์แนวกฎหมายที่ไม่ค่อยได้พูดในแง่กฎหมายสักเท่าไหร่ แต่ซีรีส์พูดถึงทางเลือกวิธีการใช้กฎหมาย ระหว่างการใช้ตามตัวหนังสือเป๊ะ ๆ แต่เป็นการใช้เพื่อหาช่องโหว่ กับการใช้วิธีนอกเหนือกฎหมายแบบอัยการจินจอง แต่ใช้เพื่ออุดมการณ์ในการเอาคนผิดมารับโทษ แต่ถามว่าซีรีส์ให้บทสรุปในประเด็นนี้ไหมผมว่าก็ไม่ เหมือนซีรีส์แค่ชี้ให้เห็นแต่ไม่ได้สรุปอะไรด้วยตัวเองขนาดนั้น

การดำเนินเรื่องของซีรีส์ถือว่าสนุกน่าติดตามเลยล่ะครับ อัยการจินจองของเราเพลี่ยงพล้ำแทบตลอดเวลา ด้วยความที่เป็นอัยการผู้น้อยต้องสู้กับอัยการระดับสูง เดี๋ยวโดนย้ายบ้าง เดี๋ยวโดนจับบ้าง เดี๋ยวโดนให้ออกบ้าง บางทีก็ปางตาย โดยธรรมชาติของสถานการณ์ตัวละครที่เป็นแบบนี้ มันก็เลยทำให้เราเอาใจช่วยได้ไม่ยาก ถึงอย่างนั้นแม้ผมจะบอกว่าตัวเอกของเราจะโดนกระหน่ำสักเท่าไหร่ บทก็จะสร้างตัวช่วยหรือสถานการณ์พาให้เอาตัวรอดได้เสมอ เรียกว่าใช้สกิลพระเอกแบบคุ้ม ๆ ทั้งอัยการรุ่นพี่ ชินอารา (Lee Se-Hee) ที่แม้จะคอยขัดคอคอยห้ามปรามอยู่ตลอด แต่ถึงเวลาก็ยื่นมือช่วยทุกทีไป หัวหน้าพัคแจคยอง (Kim Sang-Ho) ที่เหมือนเป็นไพ่โจกเกอร์มีทีเด็ดเสมอ หรือสายซับอย่างนักสิบอีชอลกี (Lee Chul-Ki) และทีมผู้ร่วมอุดมการณ์ที่ถึงไหนถึงกัน

ฝั่งทีมพระเอกของเราอาจจะดูไม่ซับซ้อนตรงไปตรงมา แต่กับทีมผู้ร้ายต้องบอกว่าคาแรคเตอร์มีความซับซ้อนประมาณหนึ่งเลยครับ เพราะนอกจากจะมีหลายตัวแล้ว ในแง่ของแนวคิดก็บางคนก็เลวจริง บางก็มีอุดมการณ์คิดว่ามีอำนาจแล้วจะเปลี่ยนแปลงได้ แต่สุดท้ายโดยเปลี่ยนเสียเอง บางคนก็ซับซ้อนเหมือนจะเลวก็เหมือน เหมือนจะดีก็เหมือน ถ้าเป็นในแง่ของมิติคาแรคเตอร์ของตัวละคร ฝั่งตัวร้ายดูจะมีความหลากหลายมากกว่า

ด้วยความเป็นซีรีส์ที่เน้นสร้างสถานการณ์คับขันให้ตัวเอกแก้ไขปัญหา บทเลยมีความลมเพลมพัดเหตุบังเอิญเยอะอยู่ไม่น้อย แต่ด้วยความที่ซีรีส์แค่ 12 ตอนแถมดำเนินเรื่องไปข้างหน้าตลอด เราก็เลยหยวน ๆ พอมองข้ามได้บ้าง อีกอย่างธีมของซีรีส์ก็มีความคอมเมดี้เจืออยู่มันเลยพอเข้าใจได้

เป็นซีรีส์ที่มาในแนวคล้าย ๆ กับ Lawless Lawyer นั่นแหละครับ แค่การเล่าเรื่องอาจจะไม่จริงจังเท่า แต่ก็พูดถึงคนใช้กฎหมาย (อัยการกับทนาย) ที่ใช้วิธีนอกกฎหมายพยายามเอาผิดคนใช้กฎหมายด้วยกัน ซึ่งสุดท้ายก็หนีไม่พ้นต้องพึ่งกฎหมายอยู่ดี เหมือนเป็นการพูดถึงความไม่สมบูรณ์แบบของกฎหมาย แต่ที่สุดก็ยังต้องพึ่งพาระบบที่ไม่สมบูรณ์แบบนี้อยู่ดี ต่อให้ผู้ถือกฎหมายทำผิด สุดท้ายถ้าอยากเอาผิดก็ยังต้องพึ่งกฎหมาย เอาจริงซีรีส์ก็ไม่ได้ให้บทสรุปสวยงามลาเวนเดอร์ขนาดนั้น แค่มันเป็นบทสรุปที่ประนีประนอมที่สุดล่ะมั้ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: All of Us Are Dead (2022)

 All of Us Are Dead (2022) มัธยมซอมบี้ Screenwriter:  Chun Sung Il Director:  Lee Jae Gyoo       ซีรีส์เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในโรงเรียนมัธ...