วันพุธที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2567

Review: My Favorite Girl (2020)

 My Favorite Girl (2020) เธอคนโปรด

#Comedy #Romance Screenwriter & Director: Tamada Shinya
      คาโตะ ยูสุเกะ (Watanabe Daichi) หนุ่มนักเขียนบทละครโทรทัศน์ ที่มีเพื่อนซี้เป็นสาวช่างภาพสุดติสต์อย่าง ซาเอกิ มิโฮะ (Nao) เขาและเธอมักใช้เวลาร่วมกันเสมอไม่ว่าจะกินข้าวเดินเล่นหรือนั่งดื่มด้วยกัน แม้ต่างฝ่ายต่างมีสถานะเป็นเพื่อนที่รู้ใจ แต่นอกจากการใช้เวลาเที่ยวเล่นสนุกไปด้วยกัน ทั้งสองคนก็แทบไม่มีอะไรร่วมกันเลย เพื่อนสนิทของทั้งสองคนต่างไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ของพวกเขา ความรู้สึกของ มิโฮะ คนภายนอกอาจมองได้ไม่ชัดเจน แต่ความรู้สึกของ ยูสุเกะ ไม่ว่าใครก็มองออกว่าเขาชอบเพื่อนสนิทคนนี้ แต่การกลัวจะสูญเสียมิตรภาพไปเลยทำให้ ยูสุเกะ ตัดสินใจขังตัวเองอยู่ในเฟรนด์โซน

หนังญี่ปุ่นที่พูดถึงความชอบที่มีต่อใครสักคน แต่กลับไม่มีความกล้าจะพูดออกไป อีกฝ่ายเลยกลายเป็นแค่คนโปรด ไม่ใช่คนรัก หนังไม่เชิงพูดถึงการพลาดจังหวะโอกาสในการสารภาพความรู้สึก แม้ตลอดทั้งเรื่องเราจะเห็นว่าทั้งสองคนสนิทสนมหยอกล้อกัน สายตาที่มีให้กันเหมือนจะแอบเกินเพื่อนสนิท แต่ฝั่ง มิโฮะ ก็ไม่ชัดเจนมากเท่ากับ ยูสุเกะ เลยเหมือนเป็นการเล่าเรื่องผ่านมุมมองของ ยูสุเกะ ฝ่ายเดียว

หากเราชอบใครสักคนแต่ติดอยู่ในสถานะไม่ชัดเจน คงสะดุดกับบางสถานการณ์ในเรื่องนี้ ไม่ว่าจะตอนไปเที่ยวด้วยกันสองคนแล้วบังเอิญเจอเข้ากับคนรู้จัก ในสถานการณ์ที่เราต้องแนะนำอีกฝ่ายที่มาด้วยว่าเป็นใคร คือถ้าบอกว่าเป็นเพื่อนก็เหมือนโดดเข้าไปในเฟรนด์โซนทันที แต่จะแนะนำว่ามีความสัมพันธ์มากกว่านั้น แล้วอีกฝ่ายไม่คิด สถานการณ์ก็จะอึดอัดอีกแบบหนึ่ง

การที่เราอยากจะให้ของขวัญธรรมดาสักชิ้นยังต้องคิดแล้วคิดอีก เพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะตีความหมายของขวัญที่ว่าแบบไหน เหมือน ยูสุเกะ ที่ซื้อเค้กไปแสดงความยินดีในงานแสดงภาพถ่ายของ มิโฮะ แต่กลับไม่ให้เธอตั้งแต่เริ่มจนจบงานกลับบ้าน ต้องเดินถือถุงเค้กติดตัวตลอดเพราะไม่มีความกล้ามากพอ หรือฉากที่ต้องเดินกันสามคนแล้ว ยูสุเกะ ที่อยู่ในสถานะเพื่อน จะค่อย ๆ เดินช้าลงจนถอยห่างออกมาเรื่อย ๆ ที่สุดแล้วอีกอย่างหนึ่งคือมักจะกล้าพูดถึงความรู้สึกที่มีกับคนอื่น แต่ไม่กล้าพูดออกมาต่อหน้าที่คนชอบ

ผมชอบประเด็นของหนังนะ ส่วนหนึ่งเพราะบางสถานการณ์ในหนังมันทำให้นึกย้อนถึงเรื่องที่ลืมไปแล้ว ว่าเออครั้งหนึ่งเราก็เคยมีเพื่อนผู้หญิงคนโปรดอยู่เหมือนกันนะ คือนานมาก แล้วก็แค่ช่วงสั้น ๆ แค่นั้น ไม่ได้ติดต่อไม่ได้เจอกันนานมาก ตอนนี้ไม่ใช่แค่ไม่ใช่คนโปรดแต่คงจะเป็นคนแปลกหน้า เดินสวนก็คงจำกันไม่ได้กันไปแล้วล่ะ ฮ่าฮ่า

การเล่าเรื่องของหนังก็ตามสไตล์หนังนอกกระแส ไม่ค่อยมีเนื้อเรื่อง ใช้วิธีเล่าผ่านสถานการณ์ที่ตัวละครเจอ เพื่อสื่อสารของใจความของหนัง ถามว่าสนุกไหมบอกได้ว่าไม่สนุก แต่ก็มีเสน่ห์ตามสไตล์หนังนอกกระแส ในการดูรีแอคของตัวละครที่มันสื่อความหมายในฉากนั้น ตอนจบของหนังอาจจะชวนเหวอสักนิด เอาจริงก็พอตีความได้ไม่เกินสามทาง แต่ส่วนตัวคิดว่าด้วยอาชีพของ ยูสุเกะ ความเป็นไปได้จริง ๆ น่าจะเหลือแค่บทสรุปเดียว

#MovieReview #รีวิวหนัง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: All of Us Are Dead (2022)

 All of Us Are Dead (2022) มัธยมซอมบี้ Screenwriter:  Chun Sung Il Director:  Lee Jae Gyoo       ซีรีส์เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในโรงเรียนมัธ...