วันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2567

Review: Fry Me to the Moon (2024)

Fry Me to the Moon (2024) ฝันของเธอในวันนี้

#Drama
Screenwriter: Qin Wen
Director: Du Xiao Yu
      ซีรีส์เล่าเรื่องราวของผู้หญิงสามคนอย่าง ลู่เจินเจิน (Song Yi) หัวหน้าฝ่ายต้อนรับภัตตาคารอาหารจิงสู่เก๋อ ที่คบอยู่กับ หลิวซือหยวน (Wang Ren Jun) ผู้จัดการใหญ่ ทั้งสองคนตั้งใจจะแต่งงานกันในไม่นานนี้ แต่ความตั้งใจกลับต้องล้มเลิก เพราะการมาของ เหลียงชิงหราน (Charmaine Sheh) นักลงทุนที่เข้ามาซื้อต่อจิงสู่เก๋อแล้วทำให้พนักงานทุกคนตกงาน

มีเพียง หลิวซือหยวน ที่ เหลียงชิงหราน มองเห็นประโยชน์จึงดึงเข้ามาทำงานในบริษัท เพียงแต่ต้องย้ายไปทำงานที่เมืองเฉิงตู ลู่เจินเจิน จึงตัดสินใจกลับบ้านเกิดเฉิงตูตามคนรักมาด้วย เพียงแต่เป้าหมายในการลงทุนครั้งใหม่ของ เหลียงชิงหราน ดันเป็นหอชวนไป๋ร้านอาหารเก่าแก่ของครอบครัว กู้ม่านถิง (Li Chun) เพื่อนสนิทของ ลู่เจินเจิน เธอเลยตกอยู่ตรงกลางระหว่างคนรักและมิตรภาพความทรงจำวัยเด็ก

ซีรีส์จีนแนวดราม่าชีวิตคนในเมือง หยิบเอาความสัมพันธ์ของผู้หญิงสามคนที่แนวคิดต่างกันมาเล่า ลู่เจินเจิน พยายามหนีห่างจากครอบครัวและบ้านเกิดไปทำงานที่เซี่ยงไฮ้ มีแฟนที่คบมานาน ตั้งใจทำงานเพื่อพัฒนาตัวเองแต่ชีวิตยังไปไม่ถึงไหน อนาคตและความฝันที่มีจึงมีร่วมกับคนรักมาโดยตลอด เมื่อถึงวันที่จุดยืนของตัวเองต่างจากคนรัก ลู่เจินเจิน เลยต้องกลับมาค้นหาเส้นทางของตัวเองใหม่อีกครั้ง

เหลียงชิงหราน ผู้หญิงแกร่งที่ทำงานแข่งขันแย่งชิงอำนาจกับผู้ชายในบริษัท ทำให้เปลือกภายนอกเป็นคนแข็งกระด้าง มีหนามคอยทิ่มแทงคนที่พยายามเข้าใกล้ การตัดสินใจเลือดเย็นไม่ปราณี แต่วันหนึ่งสิ่งที่เคยสอนเคยทำคนอื่นไว้ก็ย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง

กู้ม่านถิง ผู้หญิงที่แต่งงานกับคนรักที่คบกันมาตั้งแต่วัยเด็ก ด้วยความเป็นแก้วตาดวงใจของพ่อแม่จึงเติบโตมาแบบไม่ต้องทำอะไร พอออกเรือนแต่งงาน สวี่ฮ่าว คนรักก็ดูแลเป็นอย่างดีไม่ต่างจากตอนอยู่กับพ่อแม่ เพียงแต่นั่นเป็นกรอบที่คนอื่นตีเอาไว้ให้หรือเป็นความตั้งใจของตัวเอง เพราะจะมีใครที่อยากอยู่เฉยลอยไปวัน ๆ ไม่ทำอะไร

เป็นซีรีส์อีกเรื่องหนึ่งที่ดูแล้วเจริญอาหาร ด้วยความที่ตัวละครทำธุรกิจร้านอาหาร เลยไม่พ้นต้องมีฉากการทำอาหารน่าตาน่ากิน แต่หลัก ๆ จะอยู่ช่วงต้นเรื่องและตอนปลาย ช่วงกลางเรื่องจะเน้นที่ดราม่าตัวละครหลัก ความขัดแย้งระหว่าง ลู่เจินเจินกับหลิวซือหยวน ที่คนหนึ่งอยากก้าวหน้า ซึ่งการจะทำแบบนั้นได้ต้องขัดแย้งกับคนรักที่อยากปกป้องหอชวนไป๋ การดำเนินชีวิตของเหลียงชิงหรานที่ไม่กล้าลงเอยผูกมันตัวเองกับใคร กู้ม่านถิง ที่อยากจะตัดสินใจทำอะไรไม่สามารถพึ่งพาความสามารถตัวเองได้ ถ้าไม่พึ่งพาพ่อแม่ ก็พึ่งเพื่อนไม่ก็คนรัก ซึ่งบางครั้งก็ไม่สามารถพึ่งกำลังคนเหล่านั้นได้ตลอด

การดำเนินเรื่องเป็นไปอย่างช้า ๆ ไม่เร่งรีบ พูดถึงประสบการณ์ชีวิตที่ตัวละครได้เจอ จนกลายเป็นแรงขับให้เปลี่ยนมุมมอง ซีรีส์ไม่มีจุดพีคใช้ธรรมกระตุกจิตกระชากใจให้ตัวละครเปลี่ยนแปลงฉับพลัน แต่ค่อย ๆ สร้างสถานการณ์ทีละเล็กทีละน้อยให้ตัวละครค่อย ๆ ตั้งคำถามกับตัวเองจนตกตะกอนได้คำตอบออกมา

เลยเป็นซีรีส์ที่จะบอกว่าสนุกไหมก็พูดยาก มันก็มีเรื่องราวมีเนื้อหาประเด็นจับต้องได้ แค่การดำเนินเรื่องไม่ได้หวือหวาชวนลุ้น มันจะมีความสนุกจากการแข่งขันกัน ที่ฝ่ายหนึ่งก็พยายามแย่งร้านอาหารมาให้ได้ ส่วนอีกฝ่ายก็พยายามปกป้องร้านด้วยกำลังน้อยนิด นักแสดงเหมาะแล้วก็แสดงได้ดีทุกคน ส่วนตัวตัดสินใจดูเรื่องนี้ก็เพราะตามผลงาน ซ่งอี้ ถ้าจะมีสะดุดตาอีกสักคนก็ เฉินตง (Zhang Chao) พระเอกของเรื่องที่ส่วนตัวมองว่าหน้าและคาแรคเตอร์คล้ายกับพระเอกเกาหลี จองอูซอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: The King of Pigs (2022)

The King of Pigs (2022) #Thiller   #Drama Director: Kim Dae-Jin Writer: Tak Jae-Young       ฮวังคยองมิน (Kim Dong-Wook) ประธานบริษัทขนส่งผู้...