Analog (2023)
#Drama #Romance Director: Hideta TakahataWriter: Takeshi Kitano (novel), Takehiko Minato ซาโตรุ มิซุชิมะ (Kazunari Ninomiya) นักออกแบบภายในที่เครดิตผลงานของตัวเองมักจะตกเป็นของเจ้านายบ่อยครั้ง เขามักจะนัดเพื่อนสนิทไปนั่งดื่มและพูดคุยที่เปียโน คาเฟ่ร้านประจำซึ่งเขาเป็นคนออกแบบด้วยตัวเอง ในวันที่นัดเพื่อนไปเจอกันเหมือนเช่นเคย ซาโตรุ ได้พบกับ มิยูกิ มิฮารุ (Haru) สาวสวยที่ชื่นชมงานออกแบบของ ซาโตรุ โดยเฉพาะห้องน้ำที่ออกแบบได้มีเอกลักษณ์ ส่วน ซาโตรุ เองก็สายตาเฉียบคมชื่นชมกระเป๋าที่ มิยูกิ ถืออยู่ซึ่งเป็นกระเป๋าแฮนด์เมดฝีมือของแม่เธอ
จากเหตุการณ์ใจฟูในวันนั้นกลายเป็นความประทับใจทำให้ ซาโตรุ มักจะมานั่งเฝ้ารอเพื่อจะได้พบกับ มิยูกิ อีกครั้ง ในที่สุดความพยายามของ ซาโตรุ ก็สำเร็จ เขาตัดสินใจรวบรวมความกล้าชวนเธอออกไปกินอาหารมื้อเย็น แล้วเอ่ยปากขอเบอร์โทรศัพท์เพื่อติดต่อ แต่กลายเป็นว่าสาวเจ้าดันไม่มีมือถือใช้ ซึ่งในตอนแรก ซาโตุรุ คิดว่าตัวเองโดนปฏิเสธเข้าให้จริง ๆ จนฝ่ายหญิงเสนอขึ้นมาว่า เธอจะไปที่ร้านเปียโนทุกวันพฤหัสบดี ถ้าหากเขาสะดวกล่ะก็สามารถไปเจอเธอได้ในวันนั้น
หนังญี่ปุ่นผลงานของ คาซึนาริ นิโนมิยะ กับ ฮารุ ที่หยิบเอาความสัมพันธ์แบบโลว์เทคโนโลยีมาเป็นกิมมิค พระนางของเรื่องสื่อสารกันได้เพียงแค่การนัดเจอกันที่ร้านเปียโนในวันพฤหัสบดี ก่อนที่หลังจากนั้นอาจนัดกันปากเปล่าไปสถานที่อื่นกันต่อ จะไม่มีการโทรศัพท์ อีเมล ส่งข้อความถึงกัน ว่าง่าย ๆ เลยก็ตามชื่อหนัง Analog นั่นล่ะครับ การเล่ากิมมิคส่วนนี้หนังเล่าแบบบาง ๆ กลืนไปกับเนื้อหา ถ้าหนังไม่ได้ใช้ชื่อว่า Analog คนดูอาจจะไม่นึกถึงกิมมิคนี้ด้วยซ้ำ
แต่ส่วนที่กิมมิคนี้เสริมให้ชัดขึ้นเห็นจะเป็นเรื่องของอารมณ์ตัวละคร เมื่อเป็นคนในยุคปัจจุบันแต่ดันมีความสัมพันธ์ระบบ Analog มันจะมีความรู้สึกเคว้ง ในการที่คนคนหนึ่งรู้สึกดีกับอีกคนมาก ๆ แต่พอทำความรู้จักกันบนระบบ Analog ตัวตนที่รู้จักกันมันเลยเคลื่อนตามไม่ทันความรู้สึก เพราะถ้าไม่เจอกันในวันพฤหัสตัวละคร ซาโตรุ ก็แทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับ มิยูกิ หรือติดต่อเธอได้เลย
ส่วนตัวชอบที่หนังเอากิมมิคความสัมพันธ์แบบ Analog มาใช้ มันน่าสนใจมีอะไรให้เล่า ยิ่งปัจจุบันเราที่ใช้ชีวิตในสังคมยุคดิจิตอลมีโซเชียลมีเดียสารพัด ถ้าวันนึงไปชอบใครสักคนแล้วต้องมีความสัมพันธ์แบบโลว์เทคโนโลยี จะยังสามารถพัฒนาความสัมพันธ์ได้ไหม
หนังเล่าเรื่อย ๆ พาคนดูไปเป็นผู้สังเกตการณ์ตัวละคร ซาโตรุ จะทำยังไงกับความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงที่เขายังไม่รู้จักดีพอ ซึ่งมันไปไกลย้อนกลับหลังไม่ได้ แล้ว มิยูกิ มีเหตุผลหรือความลับอะไรที่บอกใครไม่ได้ ถึงต้องทำตัวโลว์เทคโนโลยีแบบนี้
จนมาถึงช่วงท้ายของหนังนี่แหละที่เปิดเผยอะไรต่าง ๆ ออกมาทั้งหมด เอาจริงจะใช้คำว่าอะไรดี คือมันเหนือความคาดหมายที่ไม่เหนือความคาดหมาย เป็นท่าที่หนังญี่ปุ่นใช้กันจนเฝือแล้วผมเลยไม่คิดว่าหนังจะเอามาใช้อีก มันเลยเหนือความคาดหมายตรงที่ไม่คิดว่าจะมาทางนี้ ฮ่าฮ่า มันทำให้กิมมิคคำว่า Analog จางไปเลยเพราะไม่ได้ขมวดตอนท้าย
แต่ก็เข้าใจได้แหละ อย่างที่ผมบอกว่ากิมมิคนี้มันถูกใส่เข้ามาแบบจาง ๆ หนังไปเน้นที่ความรู้สึกของตัวละคร ซาโตรุ มากกว่าเมื่อมีความสัมพันธ์แบบ Analog ตอนท้ายมันเลยเป็นการขับเน้นทางเลือกการตัดสินใจของตัวละครนี้ ว่าจะเอายังไงกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ความสัมพันธ์ช่วงสั้น ๆ แค่พบกันไม่กี่ครั้งนั้นมันเพียงพอไหม ส่วนคำตอบที่ว่าคืออะไรไปหารับชมกันเอาเองละกันครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น