วันพฤหัสบดีที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2567

Review: God's Gift - 14 Days (2014)

God's Gift - 14 Days (2014) 14 วันสวรรค์กำหนด

#Drama #Thriller Director: Lee Dong-Hoon/ Writer: Choi Ran
      เนื้อหาของซีรีส์เล่าเรื่องราวของ คิมซูฮยอน (Lee Bo-Young) นักเขียนบทรายการโทศทัศน์แนวสืบสวนชื่อดัง ภรรยาของอัยการ ฮันจีฮุน (Kim Tae-Woo) และแม่ของ ฮันแซตบยอล ลูกสาววัย 8 ขวบที่คลั่งไคล์นักร้องชื่อดังอย่าง แทโอ (No Min-Woo) อัยการ ฮันจีฮุน ได้รับเชิญให้ไปร่วมรายการที่ คิมซูฮยอน เป็นคนเขียนบท แต่ด้วยความเป็นอัยการที่ยึดอุดมการณ์ตามตัวบทกฎหมาย เมื่อถูกถามถึงการนำโทษประหารชีวิตกลับมาใช้ ซึ่งกำลังเป็นหัวข้อวิพากษ์ของสังคม คำตอบของอัยการฮันจีฮุนเลยสร้างความไม่พอใจให้กับครอบครัวของเหยื่อ ที่รอคอยให้คนร้ายได้รับโทษสมกับที่ก่อเอาไว้

ไม่กี่วันต่อมา กีดงชัน (Cho Seung-Woo) อดีตตำรวจฝ่ายสืบสวนพยานในเหตุการณ์คดีฆาตกรรมที่พี่ชายของตัวเองเป็นคนร้าย ซึ่งผันตัวเองมาเป็นนักสืบเอกชน คอยตามสืบเรื่องราวผัว ๆ เมีย ๆ และตามทวงหนี้ให้กับลูกค้า ซึ่งบ้านที่ กีดงชัน บุกเข้าไปตามหาลูกหนี้ดันเป็นบ้านของ คิมซูฮยอน เลยทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างทั้งสองคน ว่า กีดงชัน อาจะเป็นคนร้ายลักพาตัวเด็ก เขาจึงได้เข้าไปนอนในห้องขังข้ามคืนกว่าจะแก้ตัวจนพ้นข้อกล่าวหา

เพียงแต่ว่าสิ่งที่ คิมซูฮยอน กลัวว่าจะเกิดขึ้น ในครั้งนี้เธอก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงมันได้ เมื่อมีผู้ร่วมรายการผ่านโทรศัพท์คนหนึ่งบอกว่า ตัวเองเป็นฆาตกรต่อเนื่องหญิงสามรายที่กำลังเป็นข่าวดัง แล้วเหยื่อรายล่าสุดของเขาในครั้งนี้ก็คือลูกสาวของ คิมซูฮยอน หลังจากเกิดการลักพาตัว ฮันแซตบยอล เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายและ คิมซูฮยอน พยายามออกตามหาทุกหนทาง แต่หลังจากผ่านไป 7 วันความหวังก็พังทลายลง เมื่อมีคนพบศพ ฮันแซตบยอล ในทะเลสาป แม้ความสูญเสียจะผ่านมานานหลายสิบวัน คิมซูฮยอน ก็ยังไม่สามารถตั้งสติกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ เธอจึงตัดสินใจจบชีวิตตัวเองตามลูกสาวไป ซึ่งเหตุการณ์ในขณะเดียวกันนั้น กีดงชัน ก็กำลังถูกกลุ่มมาเฟียจับถ่วงน้ำลงไปในทะเลสาบ แม้จะทุลักทุเลแต่ กีดงชัน ก็สามารถคิ้นรนเอาชีวิตรอดพร้อมกับช่วยชีวิต คิมซูฮยอน ขึ้นมาจนได้ เพียงแต่ทั้งสองคนคงไม่คาดคิดว่าตัวเองจะได้รับโอกาสที่สองในการแก้ไขเรื่องในอดีตที่ผ่านมา เมื่อทั้งสองคนได้ย้อนกลับมา 14 วันก่อนหน้าที่จะเกิดคดีลักพาตัวเด็กไป

จากข้อมูลที่ผมได้อ่านมาจากเว็บต่าง ๆ เห็นว่าซีรีส์ได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริง ของนักข่าวคนหนึ่งซึ่งลูกชายถูกลักพาตัวไปในปี 1991 ก่อนจะถูกพบว่าเสียชีวิตในอีก 44 วันต่อมา ซึ่งคดีที่ว่านี้เคยเป็นแรงบันดาลใจให้กับหนังมาแล้วถึงสองเรื่องครับ เรื่องแรก Voice of a Murderer (2007) เสียงจากฆาตกร ที่เล่าถึงเหตุการลักพาตัวและการคลี่คลายคดี ส่วนเรื่องที่สอง Blood and Ties (2013) สายสัมพันธ์แห่งนรก จะเป็นการหยิบเอาเหตุการณ์จริงมาเป็นแรงบันดาลใจต่อยอด สมมุติถึงเหตุการณ์ในอีกหลายปีต่อมา ว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งที่ได้ดูหนังเรื่อง Voice of a Murderer (2007) แล้วเสียงของคนร้ายตัวจริงเมื่อปี 1991 ที่หนังนำมาใช้ ดันเสียงคล้ายกับพ่อของตัวเอง

ซีรีส์แนวสืบสวนย้อนเวลาซึ่งไม่ได้กล่าวถึงที่มาที่ไปหรือวิธีการย้อนเวลา อาจจะมีการปูพื้นเล็กน้อยผ่านนิทานที่ คิมซูฮยอน เล่าให้ลูกสาวฟัง ในเชิงว่ามันเป็นปาฏิหาริย์ ที่แม่คนหนึ่งยอมเสียสละตัวเองเพื่อช่วยชีวิตลูกของเธอเอาไว้

ซึ่งเรื่องราวหลังจากที่ คิมซูฮยอน ได้ย้อนเวลากลับมาพร้อม กีดงชัน แม้ในทีแรกเธอจะพยายามวิ่งหนีโชคชะตาแต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่เป็นผล คิมซูฮยอน ก็เลยต้องตัดสินใจเผชิญหน้ากับเรื่องที่เกิดขึ้นและพยายามสืบหาตัวคนร้าย ส่วนสาเหตุที่ กีดงชัน ซึ่งดูเหมือนว่าจะไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรโดยตรง กลับมีอะไรบางอย่างที่ทำให้เขาต้องยอมให้ความช่วยเหลือแม่เด็ก เพราะจากคดีเด็กถูกลักพาตัวที่เกิดขึ้น มันทำให้ฝ่ายการเมืองตัดสินใจนำโทษประหารกลับมาใช้อีกครั้ง ซึ่ง กีดงโฮ พี่ชายของเขาก็เป็นหนึ่งในรายชื่อนักโทษที่ถูกประหาร ทางเดียวที่อย่างน้อยเขาจะช่วยให้พี่ชายยังมีชีวิตอยู่ก็คือช่วยชีวิตเด็กให้ได้ จากจุดนี้มันจึงกลายเป็นจุดร่วมให้ทั้งสองคนร่วมมือกันตามล่าคนร้าย

ในพาทสืบสวนการวางปมปริศนาต่าง ๆ ซีรีส์ทำได้ดีทีเดียว มันไม่เชิงว่ามีคดีแยกย่อยหรือคดีหลัก เมื่ออันที่จริงในแต่ละคดีมันมีจุดเชื่อมโยงหากันทั้งหมด โดยที่ซีรีส์ทำเหมือนว่ามันเป็นคดีฆาตกรรมต่อเนื่องธรรมดาทั่วไปในช่วงแรก เพราะคนร้ายในคดีฆาตกรรมต่อเนื่องหญิงสามราย ซีรีส์ก็ใส่ปมดราม่าแรงจูงใจเข้ามาจนเหมือนว่ามันอาจเป็นธีมดราม่าหลักของซีรีส์ ก่อนจะค่อย ๆ บอกใบ้กับคนดูว่าเรื่องราวเบื้องหลังมันอาจจะมีอะไรมากกว่านั้น ซีรีส์หย่อนความน่าสงสัยใส่หลายตัวละครหลัก ไม่ว่าจะเป็น ฮยอนอูจิน ตำรวจอดีตคนรู้ใจของ คิมซูฮยอนและอดีตคู่หูของ กีดงชัน จูมินอา ผู้ช่วยของ คิมซูฮยอน ที่แอบมีความลับบางเรื่องกับเธอ รวมถึง ฮันจีฮุน พ่อของเด็กเองที่ก็ทำตัวให้คนดูสงสัยอยู่ไม่น้อย ส่วนใครจะเป็นคนร้ายผมบอกได้เลยว่า ซีรีส์ไปเฉลยเอาในช่วงท้ายที่ผูกโยงไปถึงเรื่องราวในอดีต ที่โยงใยชะตาชีวิตของใครหลายคนเข้าไว้ด้วยกัน

การสื่อสารของซีรีส์ในบางมิติผมว่ามีอะไรบางอย่างคล้ายซีรีส์ Mouse ผลงานล่าสุดของคนเขียนบท ชเวรัน เหมือนกันครับ อย่างใน Mouse จะมีการพูดถึงกฎหมาย การกำจัดเด็กที่มียีนส์ไซโคพาทตั้งแต่อยู่ในท้อง ส่วน God's Gift - 14 Days เรื่องนี้พูดถึงการพยายามนำกฎหมายประหารชีวิตกลับมาใช้ โดยที่ทั้งสองเรื่องต่างพูดถึงในมิติที่ว่ามันมี Agenda ของคนบางกลุ่มที่พยายามนำกฎหมายพวกนี้มาใช้ ด้วยวิธีการชี้นำสังคมที่ไม่เป็นไปตามกลไกปรกติ แต่มีการจงใจสร้างสถานการณ์ขึ้นมาเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ

ในแง่ของคาแรคเตอร์ตัวละครผมขอพูดถึงคู่แม่ลูก คิมซูฮยอนกับฮันแซตบยอล ก่อนก็แล้วกันครับ หากให้พูดตามตรงผมคงจะบอกว่าเป็นสองตัวละครที่น่ารำคาญมากเลยล่ะครับ เมื่อพล็อตเรื่องเป็นการช่วยชีวิตลูกสาวที่ถูกลักพาตัว แต่ตัวละคร คิมซูฮยอน ก็ฝากลูกสาวให้อยู่กับคนอื่นแล้วเด็กก็หายตัวไป ให้ตัวเองได้ตามหาแทบตลอดทั้งเรื่อง แต่ในความน่ารำคาญเอาจริงคนดูอย่างเราก็พอจะเข้าใจสถานการณ์ของตัวละครได้ ที่แม่อย่าง คิมซูฮยอน จะนั่งไม่ติดวิ่งวุ่นออกตามหาตัวฆาตกร เพราะอยากจะช่วยชีวิตลูกสาว แม้ส่วนใหญ่แล้วมันจะกลายเป็นการสร้างเรื่องวุ่นวายให้ตามมาอยู่เรื่อย พูดง่าย ๆ ว่าหากเป็นชีวิตจริงของคนเรา ก็คงมีน้อยคนที่จะไม่สติแตกถ้าลูกของตัวเองหายตัวไป ส่วนฝ่ายลูกสาวนั้นก็เรียกได้ว่าตามประสาเด็กล่ะครับ ถ้าไม่ได้อยู่ในสายตาของผู้ใหญ่ก็เตลิดไปเรื่อย มีเหตุมีปัจจัยให้หายตัวต้องให้แม่ออกตามหาอยู่ตลอด 16 ตอนของซีรีส์

ส่วนคาแรคเตอร์ตัวละครเอกอีกคนอย่าง กีดงชัน คงจะบอกได้ว่าเป็นตัวละครที่คงมีความสับสนในตัวเอง และตัดสินใจทำในแต่ละเรื่องอย่างยากลำบาก เอาแค่ขึ้นศาลในฐานะพยานผู้เห็นเหตุการณ์ปรักปรำพี่ชายตัวเองก็หนักหนาแล้ว พอความจริงต่าง ๆ เริ่มเปิดเผยออกมาก็ยิ่งพาให้สับสนมากขึ้นไปอีก เพราะเมื่อย้อนกลับมาในอดีตการตัดสินใจทำหรือไม่ทำอะไร มันจะมีผลต่อความจริงในอนาคตที่เปลี่ยนแปลงไป การเลือกความถูกต้อง ถูกใจ หรือการเลือกชดเชยความรู้สึกผิดในใจตัวเอง ทุกอย่างที่เขาตัวสินใจทำล้วนมีผลต่อชีวิตของตัวเองและคนอื่นทั้งนั้น

ซีรีส์ออกอากาศเมื่อปี 2014 หรือเมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งก็ต้องบอกว่าหากใครพึ่งมาดูในยุคนี้เหมือนผม ที่ผ่านตาซีรีส์แนวสืบสวนเกาหลียุคหลังมาหลายเรื่องแล้ว ถามว่าในแง่ของพล็อต การดำเนินเรื่อง ความซับซ้อนของบทหรือความระทึกขวัญบันเทิง ซีรีส์เรื่องนี้ทำได้ดีและตอบโจทย์ความบันเทิง แต่มันก็จะแอบมีความโบ๊ะบ๊ะ เหตุการณ์ลมเพลมพัด เรื่องบังเอิญ เยอะหน่อยตามสไตล์ซีรีส์ในสมัยนั้น ประเภททำของตกหล่นหาย ลืมของวางไว้ เรื่องบังเอิญต่าง ๆ ที่ถูกนำมาใช้บ่อยครั้ง ซึ่งผลงานแนวสืบสวนเกาหลีในยุคหลังมานี้พัฒนาบทขึ้นมาก คือมันยังมีความบังเอิญที่ลงล็อกจนโอเว่อร์อยู่เหมือนกัน แต่ก็มักจะปูพื้นหรือว่าสร้างสถานการณ์ให้เหตุผลรองรับเอาไว้ ไม่ได้เอ๊ะอะก็โชคชะตาฟ้าลิขิตเข้าว่าอย่างเดียว แล้วจากที่ผมได้ดูผลงานของคนเขียนบท ชเวรัน 3 จาก 4 เรื่อง ตอนนี้ขาดผลงานเรื่องแรกอย่าง อิลจีแม แค่เรื่องเดียว คงต้องบอกว่าฝีมือการเขียนบทของนักเขียน ชเวรัน พัฒนามากขึ้นทุกเรื่อง อย่าง Mouse เรื่องล่าสุดนี่คือ หาที่ติแทบไม่ได้เลย ทั้งสนุกแล้วก็เทคนิคการเล่าเรื่องดีมากเลยครับ

ในช่วงท้ายรีวิวผมขอสรุปถึงซีรีส์เรื่องนี้ว่า เป็นซีรีส์แนวสืบสวนย้อนเวลาที่สนุกอีกเรื่องหนึ่ง เนื้อเรื่องซับซ้อนพอสมควรเล่าในหลายมิติ ทั้งเรื่องราวของตัวละครแล้วก็แฝงด้วยการสะท้อนสังคม ในแง่มุมของการออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับประชาชน การดำเนินเรื่องมีเหตุการณ์อะไรมาให้คนดูได้ลุ้นแทบทุกตอน แต่ความคืบหน้าในช่วงกลางเรื่องอาจจะน้อยสักหน่อย ด้วยความที่ซีรีส์เล่าแบบเรียลไทม์ 14 วันก่อนเหตุการณ์จะเกิดขึ้น มันจึงมีช่วงที่ตัวละครคว้าน้ำเหลวบ้างจนเหมือนไม่มีอะไรคืบหน้า แต่พอถึงช่วงท้ายที่ขมวดปมให้บทสรุปเรื่องราว ก็เร็วซะจนต้องตามเนื้อหาที่เฉลยให้ทัน ไม่งั้นอาจจะตกขบวนไม่เข้าใจเรื่องราวบางส่วนได้ครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: Forever and Ever (2021)

Forever and Ever (2021) ทุกชาติภพ กระดูกงดงาม ภาคปัจจุบัน #Romance   #Drama  Director: Shen Yang, Ben Fang/ Screenwriter: Mo Bao Fei Bao    ...