วันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

Review: My wife got married (2008)

아내가 결혼했다(My wife got married) (2008) เมียเขาหรือเราชู้
#ปีนรั้วรีวิว #Comedy #Romance

      เรื่องราวความรักหากมันเกิดขึ้นกับใคร เราก็คงอยากให้มันมีเพียงสองคนระหว่างเรากับคนรัก หากความรักมันเกิดไม่ลงตัว มีคนที่สามคนที่สี่เข้ามาเป็นใครก็คงเจ็บปวดนะ ถ้าคนรักไม่ซื่อสัตย์กับเรา แต่หากคนรักเขาไม่เลิกกับเรา และเขาก็อยากเก็บมือที่สามเอาไว้ด้วย ที่สำคัญเราเองก็ดันตัดใจจากเขาไม่ได้ เราจะตัดสินใจเลือกทางไหน ระหว่างหันหลังจากไปหรือยอมรับลำดับความสำคัญ ที่คนรักของเราของจะมอบให้เป็น No.1 ของเขา ต่อด้วย No.2 3 4 5 อีกมากมาย
      ดองฮุน (Ju-hyuk Kim) หนุ่มพนักงานบริษัทได้เจอกับ จูอินอา (Ye-jin Son) อดีตเพื่อนร่วมงานโดยบังเอิญบนรถไฟใต้ดิน ทั้งสองคนจึงชวนกันไปดื่มเพื่อรำลึกความหลังสมัยเคยร่วมงานกัน และพูดคุยกันตามประสาคอบอล ทีมคู่กัดอย่างบาซ่าและมาดริด แต่หลังจากที่ร้านปิดแล้ว ทั้งสองคนมาดื่มกันต่อที่ห้องพักของ อินอา ในคืนนั้นสองคนมีจุดเริ่มต้นจากรถไฟฟ้า ร้านเหล้า โซฟา และจบลงที่เตียงนอน หลังจากคืนนั้นทั้งสองคนจึงตัดสินใจสานความสัมพันธ์กันเรื่อยมา เพียงแต่ว่าสถานะเป็นแบบไหนยังไม่มีใครสรุปได้ เมื่อ อินอา บอกกับ ดองฮุน ว่า"ความรักของเธอนั้นไม่ได้มีไว้เพื่อใครเพียงแค่คนเดียว แต่ความรักของเธอ อาจจะเพิ่มขึ้นได้หากในวันข้างหน้าเธอได้เจอกับใครอีกคน  ที่เธอเองอยากจะรัก"
      หลังจากที่ ดองฮุน ได้ยินเรื่องราวแบบนั้น เขาเองก็ชักใจคอไม่ดีกลัวจะเสียคนที่รักไป จึงคิดพยายามหาทางปราบพยศด้วยการขอเธอแต่งงาน เผื่อว่าบางที่เมื่ออยู่กันเป็นครอบครัวแล้ว จนวันนึงที่มีลูก ความคิดของ อินอา อาจจะเปลี่ยนไปได้ ความพยายามของ ดองฮุน ดูจะไม่สำเร็จเมื่อ อินอา ไม่ยอมรับคำขอของเขาเลยสักครั้ง แต่ในที่สุดในวันที่ทีมชาติเกาหลีใต้เอาชนะสเปน  เข้ารอบรองฟุตบอลโลกได้ ดองฮุน จึงตัดสินใจใช้ห้วงเวลานั้นขอ อินอา แต่งงานและมันก็สำเร็จเสียที ทั้งสองคนจึงอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขเรื่อยมา…แต่…อ๊ะ ๆ นี่มันเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น
      หนังที่อยากจะบอกว่า มันถูกสร้างขึ้นมากลับหัวกลับหางระหว่างชายหญิง เมื่อโดยปรกติตามค่านิยมของสังคมแล้ว เราจะได้เห็นฝ่ายชายที่จะมีบ้านเล็กบ้านน้อยเสียมากกว่า แต่หนังเรื่องนี้พลิกกลับมาให้ฝ่ายหญิงอย่าง อินอา เป็นเหมือนเงาสะท้อนในกระจกของผู้ชายเจ้าชู้ที่ไม่รู้จักพอ แล้วฝ่ายชายในเรื่องอย่าง ดองฮุน เป็นเหมือนเงาสะท้อนของผู้หญิงที่สามีนอกใจไปมีใครอีกค

      เราจะได้เห็นภาพตัวละคร อินอา เป็นสาว Playgirl ออกเที่ยวโต้รุ่งทุกคืน แม้ตัวเองจะแต่งงานมีสามีแล้วก็ตาม ในขณะเดียวกันเราจะได้เห็นสามีอย่าง ดองฮุน ที่รู้สึกวุ่นวายใจนอนไม่หลับ เมื่อเมียของตัวเองปิดเครื่องไม่รับสาย และกลับมาจนเกือบสว่างในทุกวัน ซึ่งมันเป็นเรื่องที่เขาไม่พอใจเลยสักนิด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เมื่อมันเป็นข้อตกลงระหว่างทั้งคู่และเขาเลือกเอง 

      ความเป็นไปเหล่านี้มันจึงสะท้อนให้เราเห็นภาพของสังคม โดยทั่วไปที่ฝ่ายสามีมักจะกลับบ้านดึกดื่นเพราะออกไปสังสรรค์ ปล่อยให้เมียนอนไม่หลับเป็นกังวัลอยู่บ้าน หนังเรื่องนี้มันจึงเป็นเหมือนการเอาคืนคุณผู้ชายทั้งหลายว่า ให้ลองคิดกลับกัน หากครอบครัวไหนที่ภรรยาทำแบบ อินอา บ้าง ฝ่ายชายจะรู้สึกอย่างไร จะยังมีความสุขดีอยู่ไหม หากเมียของตัวเองทำอย่างเดียวกัน

      แต่หนังเรื่องนี้ไปไกลกว่าจะหยุดอยู่ที่ความโลกสวย แฮปปี้เอนดิ้งแบบคูล ๆ เมื่อถึงจุดหนึ่งที่ อินอา บอกกับ ดองฮุนว่า เธอจะขอแต่งงานกับผู้ชายที่เธอรักเขาเพิ่มขึ้นอีกคน และเธอก็ไม่อยากเลิกกับ ดองฮุน ด้วย มันจึงเป็นภาพสะท้อนของผู้ชาย ที่อ้อนวอนขออนุญาตเมียเพื่อมีเมียน้อยอีกคน แล้วก็เช่นเดิมอีกด้านมันก็สะท้อนภาพของ ดองฮุน ที่ต้องเจ็บปวดหัวใจกับคำขอของคนที่ตัวเองรัก แต่เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้ 

      เมื่อตัวเองก็ไม่สามารถตัดใจจากอีกฝ่ายได้เช่นเดิม ทุกอย่างมันจึงดำเนินไปอย่างเจ็บปวดและน่าอึดอัดใจทุกฝ่าย เมื่อต่างยังรักกันอยู่และแทบจะเรียกได้ว่า หากไม่นับเรื่องที่ อินอา มีคนอื่น เธอก็ทำหน้าที่ทุกอย่างได้แบบไม่ขาดตกบกพร่อง มันเลยยิ่งเป็นเรื่องยากเข้าไปอีก เอาจริงมันมีเรื่องราวน่าอึดอัดใจมากกว่านี้ แต่ว่าเปิดเผยเนื้อเรื่องไปเยอะเดี๋ยวจะดูไม่สนุกเอาซะแค่นี้ก็พอ ฮ่าฮ่า

      อีกจุดที่หนังตอกย้ำค่านิยมของสังคมต่อเรื่องสามีภรรยาก็คือ น้องสาวของ ดองฮุน ที่ต้องการจะเลิกกับสามีเพราะว่าเขาไปเที่ยวผู้หญิง แต่กลายเป็นว่าแม่ของตัวเองกลับต่อว่าลูกสาว ที่อยากจะหย่าเป็นครั้งที่สอง เพียงเพราะสามีแอบนอกใจ มันจึงเป็นเรื่องตลกร้ายขำไม่ออก ที่ค่านิยมของสังคมบอกว่าผู้ชายทำได้ แต่หากผู้หญิงเลือกที่จะเลิกรา แล้วมีคนใหม่อีกครั้งกลายเป็นเรื่องน่าอาย

      สรุปแล้ว My Wife Got Married (2008) เมียเขาหรือเราชู้ เป็นเหมือนเงาสะท้อนในกระจกของพฤติกรรมของผู้ชาย ที่ชอบมีบ้านเล็กบ้านน้อย ซึ่งสะท้อนผ่านตัวผู้หญิงคนนึงแทนที่ เพื่อเป็นการตั้งคำถามกลับว่า หากผู้หญิงทำอย่างเดียวกันแล้ว ผู้ชายอย่างเรา ๆ ก็คงรู้สึกเสียใจไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: #Alive (2020)

 #Alive (2020) คนเป็นฝ่านรกซอมบี้ Screenwriter & Director:   Jo Il Hyung       ตั้งแต่ทั่วโลกได้รู้จักกับ Train to Busan ก็ต้องบอกว่า ไม...