Review: The Foreigner (2017)

 The Foreigner (2017) 2 โคตรพยัคฆ์ผู้ยิ่งใหญ่

#ปีนรั้วรีวิว #Action #Thriller Director: Martin Campbell

      ควอน (Jackie Chan) ชายสูงวัยเชื้อสายจีนที่ตั้งรกราก ใช้ชีวิตที่ประเทศอังกฤษมานานหลายปี จนกลายเป็นพลเมืองของที่นั่นไปแล้ว เขาเปิดร้านอาหารเล็ก ๆ และใช้ชีวิตอยู่กับ ฟาน (Katie Leung) ลูกสาวของเขา แต่วันหนึ่งขณะที่ ควอน เดินทางไปทำธุระกับลูกสาว กลับมีกลุ่มก่อการร้ายวางระเบิดในร้านที่ ฟาน เดินเข้าไป ทำให้มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นั้นหลายรายและหนึ่งในนั้นก็คือฟานด้วย

ควอน โศกเศร้ากับการจากไปของลูกสาวอย่างที่สุด นั่นก็เพราะในตอนนี้ชายแก่อย่างเขาไม่เหลือใครอีกต่อไปแล้ว เมื่อในตอนที่เขาอพยพพาลูกเมียข้ามน้ำข้ามทะเลมานั้น ลูกสาวคนโตทั้งสองคนถูกโจรสลัดจับตัวไป จึงกลายเป็นว่าเหลือแค่ ควอนกับภรรยาที่รอดชีวิตมาได้ และดำเนินชีวิตต่อไปจนทั้งสองคนมี ฟาน อีกคน แต่มันก็แลกมาด้วยการเสียชีวิตของคนเป็นแม่ไป

ชายแก่อย่างเขาพยายามทำทุกทาง ไม่ว่าจะยอมจ่ายเงินใต้โต๊ะให้กับเจ้าหน้าที่รัฐบาลเพื่อชื่อของคนร้าย หรือกระทั้งบากหน้าเข้าไปขอความช่วยเหลือ จากคนที่พยายามหลบหน้าเขาตลอดอย่าง เลียม เฮนเนสซี่ (Pierce Brosnan) เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากไอร์แลนด์ ที่อดีตเคยคลุกคลีอยู่กับกลุ่มใต้ดินมาก่อน แต่ไม่ว่า ควอน จะตามตื้อแค่ไหน เลียม ก็ยังยืนยันเพียงคำเดียวว่าเขาไม่รู้เรื่อง กระทั้งชายแก่อย่าง ควอน ตัดสินใจปลุกตัวตนในอดีตของตัวเองขึ้นมา พร้อมทำทุกทางเพื่อเปิดปาก เลียม ให้บอกชื่อกับเขาให้ได้ว่า ใครกันที่เป็นคนทำให้ลูกสาวเขาต้องตาย

      ขอเรียกว่าเป็นแอคชั่นพันธ์เก๋าก็แล้วกัน สำหรับหนังของเฉินหลง เรื่องนี้ เมื่อหนังใช้โจทย์เป็นวัยที่ล่วงเลยมาแล้วของตัวละคร ก่อนดูก็แอบคิดนะว่าหนังจะทำให้ลงตัวได้ยังไง เมื่อตัวเอกที่แก่งอมขนาดนั้นต้องมาปะทะกับโขยงตัวร้ายหนุ่ม ๆ แต่พอได้ดูแล้วหนังก็เนิร์ฟและบัฟบางอย่างในตัวละครทั้งสองฝั่งมันก็เลยดูสูสีขึ้น เพราะเมื่อตัวเอกอย่าง ควอน นั้นถึงจะเก่งแค่ไหน แต่ด้วยวัยแล้วคงแข็งแรงสู้หนุ่ม ๆ ไม่ได้ หนังก็เลยเพิ่มสกิลวางแผนให้ และลดความฉลาดของตัวละครร้ายลงมา จนหลายตัวละครเหมือนเป็นเด็กในร่างผู้ใหญ่เสียมากกว่า คือมักจะเดินโง่ ๆ ไปจนเสียท่าให้เองตลอด

ด้วยความที่หนังเป็นพล็อตล้างแค้น ส่วนหนึ่งมันเลยทำให้ถึงแม้ตัวละคร ควอน จะดูแอบเก่งจนดูโกงอยู่นิด ๆ แต่แน่นอนว่าคนดูอย่างเราก็ย่อมต้องเอาใจช่วยตัวเอก ในการตามล่าหาความจริงและล้างแค้นให้ลูกสาวอยู่แล้ว หนังมันเลยยังดูสนุก ต่อให้ ควอน จะดูเก่งเกินจริงในบางครั้ง และที่ส่วนตัวคิดว่าหนังตัดสินใจไม่พลาดก็คือ ไม่หยิบเอามุกตลกจากฉากแอคชั่น ลายเซ็นประจำตัวของเฉินหลงมาใส่ด้วย

คือฉากต่อสู้มันก็ยังมีความเป็นตัวตนของเฉินหลงอยู่ ในท่าทางหรือการหยิบจับเอาสิ่งของใกล้ตัวมาเป็นอาวุธ แต่ความเป็นคอมเมดี้ของซีนเหล่านี้ที่หายไป ผมว่ามันทำให้หนังจริงจังน่าเชื่อถือมากขึ้น หลังจากเนิร์ฟความเก่งฝั่งตัวร้ายลงไปแล้ว ถ้าเอาลายเซ็นความเป็นแอคชั่นตลกมาใส่ในหนัง นอกจากจะหลุดความเป็นธีมหนังล้างแค้นแล้ว ฉากแอคชั่นมันจะลดความสนุกสมจริงลงไปด้วย

ขณะที่กำลังดูหนังเรื่องนี้ ไม่รู้ว่ามันเป็นตลกร้ายที่เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ หรือว่าผู้กำกับ มาร์ติน แคมป์เบล จงใจใส่เข้ามานะ กับกิมมิกที่ให้ตัวละคร ควอน ออกมาคล้ายกับตัวละคร ขาม ในหนังต้มยำกุ้ง คือ ควอน ในเรื่องก็ตามตื้อกัดไม่ปล่อย กับประโยค “ผมขอรายชื่อมือระเบิด” ไม่ต่างจาก ขาม ที่วิ่งวุ่นไปทั่วออสเตรเลีย แล้วถามว่า “ช้างกูอยู่ไหน” ฮ่าฮ่า

หนังเหมือนจะแอบพยายามซับซ้อนหักมุมในตอนท้ายเล็กน้อย ก็ถือว่าทำให้หนังดูมีอะไรเพิ่มขึ้นมา แต่ก็ไม่ถึงขนาดเกินคาดเดาของคนดูได้หรอก ส่วนสองนักแสดงนำอย่างเฉินหลงกับเพียร์ซ บรอสแนน ก็ตามมาตรฐานของวัยที่ขายความเก๋าของงานแสดง มากกว่าความหวือหวาแบบช่วงวัยหนุ่ม แต่ที่ดูจะใช้ไม่คุ้มก็คือ การเชือดเฉือนบทบาทที่ดูจะน้อยไปหน่อย อุตส่าห์จัดรุ่นใหญ่มาชนกันแล้วเชียว

      สรุปแล้ว The Foreigner (2017) 2 โคตรพยัคฆ์ผู้ยิ่งใหญ่ เป็นหนังแอคชั่น ทริลเลอร์ ที่ยังดูสนุกนะ แม้เราจะไม่ได้เห็นเฉินหลงบู๊ในแบบที่คุ้นเคย แต่หนังแก้ไขโจทย์ด้วยการให้ตัวละครต่อสู้ด้วยยุทธวิธีแทน ก็ถือว่าเป็นอะไรแปลกใหม่ที่ไม่ค่อยได้เห็นเฉินหลงทำมาก่อน

 

ขอบคุณภาพประกอบจากภาพยนตร์: The Foreigner (2017)

 

ฝากช่องยูทูปรีวิวหนังช่องเล็ก ๆ ด้วยครับผม:  https://www.youtube.com/channel/UCo1Txn08XONf92m_kngztWQ

#MovieReview #รีวิวหนัง