Review: Doctor John (SBS/2019)

 Doctor John (SBS/2019)

#ปีนรั้วรีวิว #Drama Directed : Jo Soo-won

      หากพูดถึงซีรีส์แนวการแพทย์แล้วเนื้อหาของหลายเรื่องที่ผ่านมา มักจะเล่าถึงอุดมการณ์ของหมอตามอุดมคติ ที่ทุ่มเททำทุกอย่างเพื่อรักษาคนไข้ แต่จะมีสักกี่เรื่องกันกล้าหยิบยกเอาดราม่า ที่ไม่ใช่แค่ท้าทายอุดมการณ์ทางการแพทย์ แต่ยังท้าทายเรื่องพื้นฐานความเป็นมนุษย์อย่างการ เกิด แก่ เจ็บและความตาย ที่กลายเป็นความต้องการของคนที่อยากหลุดพ้น จากความเจ็บปวดทรมานของโรคที่ไม่สามารถรักษาได้

คังชียอง (Se-yeong Lee) วิสัญญีแพทย์ปี 2 ที่เกิดเรื่องไม่คาดฝัน จนทำให้เธอตัดสินใจหันหลังให้กับการเป็นหมอ และเตรียมตัวออกเดินทางไกลหนีความรู้สึกผิด ชียอง ได้รับโทรศัพท์จาก โอจองนัม (Jung In-Gi) ลุงของเธอ ที่ยื่นข้อเสนอให้มาทำงานชั่วคราวในเรือนจำ ซึ่งไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้เธอที่กำลังจะออกเดินทางไกลตัดสินใจตกลงเข้าทำงาน แต่ ชียอง ก็ไม่สามารถรับมือกับสารพัดความเจ็บป่วยของนักโทษได้เลย กลับเป็นนักโทษหมายเลข 6238 ชาโยฮัน (Seong Ji) บุคคลปริศนา ที่สามารถวินิจฉัยและจัดการปัญหาอาการเจ็บป่วยได้สารพัด และที่เรือนจำแห่งนี้นักโทษหมายเลข 6238 ได้พยายามผลักดันให้ คังชียอง กลับมามีแรงบันดาลใจในการเป็นหมออีกครั้ง แต่ตัวเขาเองก็มีอดีตที่กำลังจะกลับมาไล่ล่าเขา หลังจากพ้นโทษออกจากเรือนจำแห่งนี้ และจะไม่ยอมปล่อยให้เขากลับไปใช้ชีวิตสงบสุขได้ง่าย ๆ

      ซีรีส์การแพทย์ที่ได้ยินกระแสมาบ้างว่า สนุก ดีงาม แต่ก็มองข้ามไปในตอนแรก สารภาพเลยว่าไม่ได้เป็นแฟนนักแสดงนำในเรื่องนี้เลยสักคน แต่พอมีโอกาสได้ดูแล้วยอมรับเลยว่าดีจริงสมคำชื่นชม แม้จะไม่ได้นำเสนอความตื่นเต้นในแบบเดียวกับซีรีส์การแพทย์เรื่องอื่น ที่เน้นความฉุกเฉิน ฉากผ่าตัด ที่แสดงถึงความเก่งกาจของตัวละครเอก เพราะเรื่องนี้ตัวละครเอกไม่ใช่แพทย์ผ่าตัด แต่พวกเขาคือ วิสัญญีแพทย์ ที่คอยทำหน้าที่ระงับความเจ็บปวดแก่ผู้ป่วย (หากใครเคยดูซีรี่ส์การแพทย์เรื่องอื่นมาก่อน ก็คือ หมอที่เป็นคนทำให้คนไข้สลบขณะผ่าตัด หรือให้ยาชากับคนไข้ระหว่างผ่าตัด) โดยในเรื่องนี้จะเล่าถึงกลุ่มวิสัญญีแพทย์ที่อยู่ในศูนย์การจัดการความเจ็บปวด แห่งศูนย์การแพทย์ฮันเซ โซล

ในทีแรกผู้ชมจะยังไม่ทราบถึงปมดราม่าของตัวละครเอกหมอ คิมโยฮัน ว่าทำไมเขาจึงกลายเป็นนักโทษในเรือนจำ ซีรีส์เลือกเปิดตัวด้วยปมดราม่านางเอกของเรื่อง คังชียอง ที่แม้ผู้ชมจะยังไม่รู้เบื้องหลังทั้งหมด แต่เราก็จะได้รู้ว่าเธอทำอะไรบางอย่างลงไปจนทำให้ตัวเองรู้สึกผิด เลือกที่จะหันหลังให้กับการเป็นหมอ หลังจากผ่านช่วงแรกของซีรีส์มาแล้ว ผู้ชมก็ได้รู้สาเหตุเสียทีว่าทำไมหมอที่มีฝีมือแบบ คิมโยฮัน ถึงได้รับโทษ เพราะเมื่อ 3 ปีที่แล้วเขาตัดสินใจจบชีวิตคนไข้เพื่อให้พ้นความทรมาน ซึ่งนั่นเท่ากับเป็นการฆาตกรรมเมื่อในเกาหลีใต้ยังไม่มีกฎหมายมารองรับ

ส่วนตัวผมเองชอบปมดราม่าหลักนี้ของซีรีส์เอามาก ๆ มันท้าทายดีแล้วก็ชวนให้คิดว่าจะสามารถนำเสนอออกมาได้อย่างไร ไม่ให้เกิดปัญหาโต้แย้งกันเมื่อมันเป็นประเด็นที่เปราะบาง พอได้ดูตั้งแต่ต้นจนจบขอชมคนเขียนบทเลยนะว่า นำเสนอออกมาได้แบบโลกสวยอุดมคติแต่ก็อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ชอบในเหตุผลที่ว่าทำไมการการุณยฆาตมันยังพอรับได้ในบางกรณี แต่โดยรวมมันไม่ควรถูกใช้เป็นทางออกในการแก้ไขปัญหาง่าย ๆ เพราะไม่เช่นนั้นคนก็จะหันมาพึ่งพาความง่ายของมันไปเสียทุกครั้ง โดยไม่พยายามที่จะใช้วิธีการรักษาเพื่อมีชีวิตอยู่ต่อไป

อีกส่วนหนึ่งที่ชอบก็คือคาแรคเตอร์ตัวละครที่มีเสน่ห์ ไม่เฉพาะตัวละครเอกเท่านั้น แต่ตัวละครสมทบอื่น ๆ ก็ลงตัวทำได้ดีทุกคน อย่างทีมแพทย์วิสัญญีที่เป็นลูกศิษย์ของ ชาโยฮัน ก็มีส่วนทำให้ดราม่าของซีรีส์ที่ค่อนข้างเครียดผ่อนคลายลงได้ เมื่อเล่นมุกอย่างเข้าขารู้ใจกันจนกลายเป็นส่วนสร้างรอยยิ้มให้กับผู้ชม กระนั้นถึงผมจะบอกว่าตัวละครสมทบเหล่านี้เป็นส่วนที่สร้างสีสัน แต่เมื่อถึงเวลาที่พวกเขาเอาจริงกับหน้าที่การงานแล้ว ซีรีส์ก็สร้างความน่าเชื่อถือให้กับความเป็นแพทย์ได้ดีเช่นกัน

มาว่ากันในส่วนของตัวละครฝ่ายตรงข้ามหมอชาโยฮันกันบ้าง นั่นก็คือ อัยการซนซอกกีและแชอึนจอง คนสองคนที่เรียกว่าจองกฐินหมอชาโยฮันแบบข้ามปี สำหรับสองคนนี้แม้จะร่วมมือกันเล่นงานหมอชาโยฮันก็จริง แต่ความแตกต่างกันก็คือ อัยการซนนั้นทำด้วยความยึดมั่นถือมั่นในอุดมการณ์ ว่าไม่มีใครมีสิทธิ์มาตัดสินชีวิตของคนอื่นได้หากกฎหมายไม่อนุญาต ส่วนแชอึนจองคงจะบอกได้ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ด้านหนึ่งก็น่าเห็นใจ แต่เธอก็ไร้เหตุผลเกินกว่าที่ใครจะเข้าใจการกระทำของเธอ

การดำเนินเรื่องของซีรีส์มีปมปัญหาทางการแพทย์มาให้คนดูได้ลุ้นอยู่ตลอด มีอาการเจ็บป่วยแปลก ๆ ที่หากไม่ได้ดูซีรีส์เรื่องนี้ก็คงไม่รู้ว่ามีอาการป่วยนี้อยู่จริง ๆ บนโลก อย่างเช่น โรคไม่รับรู้ความเจ็บปวด โรคลมชักในช่องท้อง หรือเชื้อโรคที่กว่าจะแสดงอาการสามารถอยู่ในร่างกายเราได้นานหลาย 10 ปี ซึ่งความสนุกของการดำเนินเรื่องอยู่ที่การวินิจฉัย สืบสาวหาต้นต่อของอาการป่วยเพื่อการรักษาที่แม่นยำ

อย่างที่บอกไปตอนต้นว่าส่วนตัวผมเองไม่ได้ติดตามผลงานของนักแสดงนำของเรื่องเลย ในทีแรกนึกกังวลอยู่เหมือนกันว่าจะมีความรู้สึกร่วมกับตัวละครไหม แต่พอได้ดูจริง ๆ แล้วเคมีนักแสดงนำอย่าง จีซองกับอีเซยอง คู่พระนางของเรื่องถือว่าเข้ากันได้ดีเลยนะ แม้จะมีฉากโรแมนติกชวนจิ้นมาเซอร์วิสผู้ชมน้อยไปหน่อยก็ตาม แต่ในความสัมพันธ์ของการอยากอยู่เคียงข้างคนที่รัก เมื่อต้องเผชิญความเจ็บป่วยทุกข์ทรมาน มันก็อาจจะหวานซึ้งกินใจผู้ชมมากกว่าฉากโรแมนติกชวนจิ้นเสียอีก

สรุปแล้ว Doctor John (SBS/2019) เป็นซีรีส์การแพทย์ที่สนุกและแนะนำให้ชมอีกเรื่องหนึ่งเลยนะ ดำเนินเรื่องได้ตื่นเต้น น่าติดตาม ตัวละครมีเสน่ห์ทุกคน ในมุมการแพทย์ก็ทำได้น่าเชื่อถือไม่มีตัวละครไหนกลายเป็นตัวตลก ความโรแมนติกของซีรีส์ไม่ได้อยู่ที่ฉากเซอร์วิสผู้ชม แต่อยู่ที่การแสดงออกถึงความรักของคนสองคนที่พร้อมเคียงข้างกันในยามเจ็บป่วย

 

ขอบคุณภาพประกอบจากซีรีส์: Doctor John (SBS/2019)

สามารถรับชมได้ทาง : https://www.viu.com/ott/th/th/vod/183251/Doctor-John

#SeriesReview #รีวิวซีรีส์ #ReViu