วันอังคารที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2565

Review: Alice in Borderland (2020) SS1

 Alice in Borderland (2020) 

      ซีรีส์เริ่มเล่าเรื่องราวจากกลุ่มเพื่อนซี้สามคนอย่าง เรียวเฮย์ อาริสุ (Kento Yamazaki) หนุ่ม NEET ที่ไร้เป้าหมายในชีวิต โชตะ (Yuki Morinaga) หนุ่มพนักงานออฟฟิศที่มีแม่เคร่งศาสนา และ คารุเบะ (Keita Machida) หนุ่มหัวทองที่ถนัดในเรื่องใช้กำลัง ทั้งสามคนกลายมาเป็นเพื่อนซี้กันเพราะต่างก็คิดว่า ตัวเองนั้นแปลกแยกจากคนอื่น แต่กลับกันในความคิดของ คารุเบะ นั้นกลับมองว่า คนอย่าง อาริสุ ดีเกินกว่าจะมาเสียเวลาอยู่กับเขา

จากความคิดเล่น ๆ ของทั้งสามหนุ่ม ที่อยากจะไปอยู่ในโลกที่ใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ ทำอะไรตามใจก็ได้ ใครมันจะไปคิดว่าพวกเขาจะหลุดเข้าไปอยู่ในโลกแบบนั้นจริง ๆ เมื่อคนทั้งเมืองหายไปอย่างไร้ร่อยลอย สิ่งที่เหลืออยู่คือตึกรามบ้านช่องที่มีแต่ความว่างเปล่า นอกจากพวกเขาแล้ว ที่แห่งนั้นยังเหลือคนเพียงแค่คนไม่กี่คน แล้วก็ยังไม่ทันที่ทั้งสามคนจะทันได้ตั้งตัวได้ พวกเขาก็ถูกเชิญเข้าไปอยู่ในเกมอันตราย ที่ผลลัพธ์ของความพ่ายแพ้ก็คือความตาย โดยไม่สามารถรีตาร์ทเริ่มเกมใหม่ได้ เหมือนทุกเกมที่พวกเขาเคยเล่นมา

      ก่อนจะเข้าเนื้อหารีวิว พอผมดูจบแล้วก็แอบคิดเล่น ๆ เหมือนกันนะครับ ว่าคนญี่ปุ่นเขาชอบเล่นเกมแนว คิงส์เกม เดธเกม อะไรกันทำนองนี้จริง ๆ หรือเปล่า เพราะหนังหรือซีรีส์ที่มีเนื้อหาทำนองนี้ถูกสร้างออกมาเยอะมาก เอาที่ใกล้เคียงกับเรื่องนี้หน่อยก็อย่าง  As The God Will เกมเทวดาฆ่าไม่เลี้ยง ซึ่งก็เป็นหนังแนวเดธเกมที่สนุกอีกเรื่องหนึ่งเหมือนกันครับ

ในช่วง 4 ตอนแรกของซีรีส์เรียกว่า ไม่พูดพร่ำทำเพลงกันให้มากความครับ ซีรีส์ประเคนเกมต่าง ๆ มาให้ตัวละครได้ฝ่าด้าน แทบไม่ได้หยุดพักหายใจ โดยที่ช่วงแรกจะขับเน้นที่ตัวละคร อาริสุ ที่รับบทโดย เคนโตะ ยามาซากิ กับความสามารถของเขา ที่ใช้ประสบการณ์จากการเล่นวิดีโอเกม มาวิเคราะห์แก้ไขปัญหาจากภารกิจที่ได้รับในแต่ละด่าน โดยซีรีส์จะผสมเรื่องราวดราม่ามิตรภาพ ระหว่างเพื่อนทั้งสามคนลงไปในแต่ละเกม เพื่อพิสูจน์ว่ามิตรภาพระหว่างทั้งสามคนมันเป็นมายาหรือว่าของจริงกันแน่

หลังจากผ่านช่วงแรกมาแล้ว ซีรีส์ก็เปิดเผยอีกหนึ่งตัวละครหลักอย่าง ยูสุฮะ อูซางิ ที่รับบทโดย สึจิยะ ทะโอะ (Tao Tsuchiya) สาวสปอร์ตเกิร์ลนักปีนเขา ที่ฝ่าด่านในแต่ละเกมตามลำพัง เพียงแต่เธอก็เริ่มมีมุมมองที่เปลี่ยนไป เมื่อได้เห็น อาริสุ กับเพื่อน ๆ ร่วมมือช่วยกันฝ่าด่านในแต่ละเกม  ในช่วง 4 ตอนแรกของซีรีส์ หากให้ผมเปรียบเทียบผมคงจะบอกว่า อาริสุ ก็เหมือนกับลูกนกที่ถูกผลักออกมาจากรังนกแหละครับ แต่ด้วยปีกที่ไม่แข็งแรงเขาจึงร่วงลงมาได้รับบาดเจ็บ ซึ่งหลังจากนั้นตัวละคร อูซางิ จึงเข้ามามีบทบาทต่อเรื่องราวและตัว อาริสุ 

ก่อนที่ 4 ตอนหลังซีรีส์จะใส่ตัวละครใหม่ ๆ เข้ามามากขึ้น พร้อมกับขยายเนื้อหาออกไป ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การเล่นเกม ให้รอดตายไปวัน ๆ แต่ถึงยังไงใจความหลักของดราม่าส่วนใหญ่ในพาทนี้ ก็ยังวนเวียนอยู่กับปมดราม่าส่วนบุคคลอยู่ดีครับ ซึ่งผมแอบเสียดายตรงจุดนี้ ที่อุตสาห์ขยายสเกลเนื้อหาออกจากเกมมาบ้างแล้ว แต่ปมดราม่าก็ยังเล่นแต่ประเด็นปัญหาชีวิต ปูมหลังของแต่ละตัวละครอยู่ดี ถ้าซีรีส์จับประเด็นที่เป็นภาพกว้าง อย่าง ความเห็นแก่ตัว ด้านมืดของผู้คน อะไรทำนองนี้ มันน่าจะเพิ่มความ Epic ให้ซีรีส์ได้อีกเยอะทีเดียวครับ

ข้อดีอย่างหนึ่งของวิธีการเล่าเรื่องของซีรีส์เรื่องนี้ ในวงเล็บที่ว่า สำหรับคนที่ไม่เคยอ่านมังงะมาก่อนนะครับ ก็คือการที่ซีรีส์ไม่ได้ปูพื้นแบล็กกราวน์ชีวิตของตัวละครมาก่อน แต่ใช้วิธีการให้พวกเขาเป็นคนแปลกหน้าต่อกัน ซึ่งมันเท่ากับว่าทั้งตัวละครและคนดู ต่างก็ไม่รู้ว่าใครจะมาดีหรือร้าย คนที่ทำดีก็มีเหตุผล ส่วนคนที่ร้ายก็อาจจะเคยเป็นฝ่ายถูกกระทำมาก่อน  เราเลยไม่รู้ว่าแต่ละตัวละครจะตัดสินใจแบบไหน ในแต่ละสถานการณ์ จนกว่าที่ซีรีส์จะเล่าปูมหลังของตัวละคร ว่าเคยเจออะไรมาบ้าง แล้วทำไมเขาจึงเลือกตัดสินใจในแบบนั้น

ในส่วนของเกมที่ซีรีส์ใส่เข้ามา แต่ละเกมจะถูกแทนด้วยไพ่หนึ่งใบ ซึ่งสัญลักษณ์อย่าง โพธิ์ดำ โพธิ์แดง ดอกจิก หรือข้าวหลามตัด บนไพ่ จะเป็นตัวบ่งบอกชนิด และระดับความยากง่ายของเกม มีทั้งเกมที่เน้นใช้กำลัง เกมแก้ไขปริศนา แล้วก็เกมการหักหลัง ซึ่งใบไหนแทนเกมอะไรก็ไปหาคำตอบในซีรีส์เอาก็แล้วกันครับ

ภาพรวมของซีรีส์จากฝีมือการกำกับของ ชินสุเกะ ซาโตะ ผู้กำกับขาประจำแนวไลฟ์แอคชั่น ที่เคยมีผลงานอย่าง คิงส์ดอม อินุยาชิกิ บรีช เดธโน็ต ไอแอม ฮีโร่ แล้วก็ กันซึ ผมว่าทำออกมาได้ดีเลยนะครับ ทั้งในแง่ของการกำกับนักแสดง แล้วก็เทคนิคพิเศษต่าง ๆ เอาจริงผลงานดัดแปลงมังงะที่ผ่านมา ของผู้กำกับคนนี้ ที่ผมเอ่ยถึง แต่ละเรื่องก็ถือว่าอยู่ในมาตรฐานที่ดีด้วยกันทั้งนั้นครับ รับประกันได้ในระดับหนึ่งเลยว่าทำออกมาบันเทิงสนุกแน่นอน

แล้วหากใครเป็นแฟนบันเทิงญี่ปุ่น ผมเชื่อว่าอีกสิ่งหนึ่งที่คงจะถูกใจกับเรื่องนี้เป็นพิเศษ ก็เห็นจะเป็นการโคจรกลับมาพบกันอีกครั้งของ ยามะเคน กับ ทะโอะ คู่พระนางที่ร่วมงานกันอยู่บ่อยครั้ง  แล้วแฟน ๆ ก็เชียร์อยากให้กลับมาแสดงคู่กันอีก แล้วนักแสดงอีกคนหนึ่งที่กำลังฮอตในช่วงนี้ แต่แอบเปลี่ยนลุคไป จนหลายคนอาจจะจำไม่ได้อย่าง เคย์ตะ มาชิดะ เจ้าของบท ยูอิชิ คุโรซาว่า ใน เชอรี่ เมจิก ซีรีส์วายสุดฮอตในตอนนี้ 

ในช่วงอีพีท้าย ๆ ยังมีอีกสองสามตัวละครที่มีบทบาทโดดเด่นขึ้นมา เชื่อว่าถ้ามีภาคสองออกมาเมื่อไหร่ บทบาทของตัวละครเหล่านี้ก็จะมากขึ้นไปอีก แล้วก็คงสร้างสีสันให้ซีรีส์สนุกขึ้นแน่นอนครับ เมื่อยังมีความลับอะไรต่าง ๆ ยังไม่ถูกเฉลยอีกมาก ตัวละครที่ยังเหลือรอดชีวิต ก็ยังคงต้องต่อสู้ แล้วก็หาคำตอบกันต่อไปครับ

หากจะให้ผมสรุปถึง Alice in Borderland ในซีซั่นแรกว่ายังไง ผมคงจะบอกว่าหากใครชอบแนวแก้ไขปริศนา แข่งกับเวลา มีเรื่องราวชวนลุ้นคาดเดาได้ยาก ตัวละครสีเทา ๆ บอกไม่ได้ว่าใครจะมาร้ายหรือดี ซีรีส์ญี่ปุ่นจากเน็ตฟลิกซ์เรื่องนี้น่าจะถูกใจแน่นอนครับ งานภาพเทคนิคพิเศษอะไรต่าง ๆ ก็ทำออกมาสวยหายห่วงเลยล่ะครับ

 ขอบคุณภาพประกอบจากซีรีส์: Alice in Borderland (2020) SS1 




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: All of Us Are Dead (2022)

 All of Us Are Dead (2022) มัธยมซอมบี้ Screenwriter:  Chun Sung Il Director:  Lee Jae Gyoo       ซีรีส์เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในโรงเรียนมัธ...