Ending Cut (2022)
ซาโกตะ ยุย (มานะ อาชิดะ) นักเรียนมัธยมปลายที่ครอบครัวใช้ชีวิตในชุมชนชายทะเล พ่อและแม่ของ ยุย เปิดกิจการร้านตัดผม ส่วน ยุย มีความใฝ่ฝันอยากเรียนต่อด้านศิลปะหลังจบมัธยมปลาย แม้ภาพวาดของ ยุย จะออกมาสวย ถึงอย่างนั้นครูก็ยังบอกว่า ภาพวาดของเธอไม่สะท้อนความรู้สึกและอยากให้ ยุย ได้ออกไปเห็นสิ่งที่เธอวาดว่ามันเหมือนกับในภาพหรือไม่
ในระยะหลัง ยุย มักจะตั้งคำถามเอากับ คาซึโทชิ (ซาโตะ เรียวตะ) คนเป็นพ่อว่า ทำไมเขาถึงต้องออกไปทำงานนอกร้านแล้วปล่อยให้แม่ทำงานอยู่คนเดียว กระทั่งวันหนึ่ง ยุย ได้เห็นพ่อเดินเข้าไปในสถานฌาปนกิจ จึงได้รู้ว่าพ่อมารับงานที่เรียกว่า Ending Cut เป็นคนตัดผม อาบน้ำ และแต่งหน้าให้กับผู้เสียชีวิต แต่ที่ทำให้ ยุย ตั้งคำถามกับพ่อมากขึ้นไปอีก ก็เมื่อเธอได้รู้ว่าแม่อย่าง นานามิ (เรียวโกะ ฮิโรสุเอะ) ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย เธอเอาแต่คิดวนไปมาหาคำตอบไม่ได้ว่า ทำไมพ่อถึงมัวแต่เอาเวลาไปดูแลคนที่ตายไปแล้ว แต่กลับไม่เอาใจใส่แม่ที่กำลังป่วยหนัก
หนังญี่ปุ่นฉายทางทีวีความยาว 1.13 ชั่วโมง ทางช่อง NHK ที่หยิบเอาเรื่องของความตายและการรับมือความสูญเสียมาพูดถึงอีกครั้ง แล้วอีกหนึ่ง อีกครั้ง เห็นจะเป็น เรียวโกะ ฮิโรสุเอะ ที่กลับมารับบทแม่ที่ป่วยเป็นมะเร็ง ถัดจาก Hana's Miso Soup หนังโรงปี 2015 และที่ผมนึกขึ้นได้อีกอย่างหนึ่ง มานะ อาชิดะ ที่แสดงเป็นลูกสาวในเรื่องนี้เอง ก็เคยแสดงใน Hana's Miso Soup เวอร์ชั่นหนังฉายทีวีปี 2014 คือทั้งสองคนเคยแสดงหนังเรื่องเดียวกันในบทแม่ลูกแต่คนละเวอร์ชั่น จนในที่สุดก็ได้โคจรมาเป็นแม่ลูกในหนังเรื่องเดียวกันจนได้
หนังทำออกมาในสไตล์หนังญี่ปุ่นแนวเดียวกันที่หลายคนคงคุ้นเคย ที่จับเอาอาชีพหรือความใฝ่ฝันมาสื่อสาร เชื่อมผ่านประเด็นที่ต้องการนำเสนอ ในส่วนของลูกสาวอย่าง ยุย ก็ใช้การวาดภาพมาตัวส่วนสะท้อน เพราะแม้ ยุย จะเป็นเด็กที่มีความใฝ่ฝัน แล้วภาพที่วาดก็สวยจริง ๆ แต่ภาพนั้นมันก็ไม่ได้สื่อสารหรือสื่อความรู้สึกอะไร ซึ่งเอาจริงมันก็ไม่แปลกเลย เพราะด้วยความที่อายุยังน้อย อารมณ์หรือความรู้สึกที่อยากสื่อสารผ่านภาพวาดเลยอาจยังมีไม่มากนัก
ส่วน คาซึโทชิ พ่อที่ลูกสาวข้องใจในการกระทำบางอย่าง เลือกใช้อาชีพที่ทำอยู่ในการปรับความรู้สึกและรีบมือกับสิ่งที่กำลังจะมาถึง ความเหมือนกันของสองพ่อลูก ในทีแรกพวกเขาต่างไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องมาทำอะไรแบบนี้ให้กับคนตาย คนตายก็ตายไปแล้ว ไม่ได้รับรู้อะไร จนเมื่อ คาซึโทชิ ได้ลองลงมือทำ Ending Cut จริง ๆ และ ยุย ได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อพ่อได้ทำ สองพ่อลูกก็เลยได้เข้าใจความหมายของมัน ก็เหมือนกับที่ครูบอกให้ ยุย ออกไปเห็นว่าของจริงเหมือนกับภาพวาดของเธอไหม หรือที่ คาซึโทชิ ถูกขอร้องให้เป็นคนทำ Ending Cut ในครั้งแรก
ความตายของคนใกล้ตัวมันเป็นประสบการณ์ที่ไม่อาจเลี่ยงได้ ในเมื่อเลี่ยงไม่ได้ คนเราก็เลยต้องหาหนทางก้าวผ่านมันไปให้ได้ จะว่ายังไงดีล่ะครับ ความตายมันไม่ใช่เรื่องสวยงามก็จริง แต่หนังก็บอกว่ามันมีหนทางอยู่นะ ที่คนจากไปก็จะจากไปได้อย่างสงบ ส่วนคนที่ยังอยู่ก็ปลดล็อกความรู้สึกและสามารถใช้ชีวิตต่อไปได้ ภาพวาดทะเลของ ยุย ก็จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป มันจะไม่ใช่แค่มีคลื่นและน้ำทะเลเป็นสีฟ้าเพียงอย่างเดียว แต่มันจะสื่อให้เห็นคุณค่าหรือความหมายในขณะที่เธอมองเห็นมันอีกด้วย
เป็นหนังที่วิธีการเล่าเรื่องเรื่อย ๆ มาเรียง ๆ แบบหนังดราม่าญี่ปุ่นอย่างที่คุ้นเคยกัน ด้วยความที่ความยาวไม่มากก็ถือว่าพอได้อยู่นะครับ ถ้ายาวกว่านี้ก็อาจไม่ไหวเหมือนกัน ด้วยความที่เนื้อหาไม่มีอะไรมาก ประเด็นในหนังก็ไม่ได้ใหม่ จุดเชื่อมดราม่าสอดแทรกแง่คิดต่าง ๆ ยังทำได้ดีเหมือนเดิม หลัก ๆ แล้วน่าจะเหมาะกับแฟน ๆ เรียวโกะ ฮิโรสุเอะ หรือใครที่อยากติดตามผลงานน้อง มานะ อาชิดะ ล่ะครับ
ขอบคุณภาพประกอบจากภาพยนตร์: Ending Cut (2022)
#รีวิวหนัง #MovieReview
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น