I Wanna Hear Your Song (KBS2/2019)
#ปีนรั้วรีวิว #Drama #Comedy #Music Director: Lee Jung-Mi
ฮงอียอง (Se-Jeong Kim) สาวนักตีกลองทิมปานี ที่ความใฝ่ฝันของเธอคือการได้เข้าร่วมวงออเคสตร้า แต่ไม่ว่าจะเข้าร่วมการออดิชั่นกี่ครั้งเธอก็ไม่เคยผ่านการคัดตัวเลย ฮงอียอง ที่ยังไม่หยุดไล่ตามความฝันจึงตัดสินใจทำงานรับจ้างขับรถ เพื่อหาเงินให้พอเลี้ยงตัวเองและมีเวลามากพอฝึกซ้อม ฮงอียอง ได้พบกับ จางยุน (Woo-jin Yeon) ชายปริศนาที่เข้าหาเธอ ด้วยเหตุผลเกี่ยวกับเหตุการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อ 1 ปีที่แล้ว ซึ่งมันเป็นสาเหตุที่ทำให้ ฮงอียอง นอนไม่หลับในทุกคืน ซ้ำร้ายเธอยังไม่สามารถจดจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วง 3 เดือนนั้นของปีที่แล้วได้ จางยุน จึงเสนอตัวร้องเพลงกล่อมเป็นเพื่อนเธอทุกคืน เพื่อแลกกับเงินสัปดาห์ละหมื่นวอน แล้วใครจะไปคิดว่าเลียงร้องที่เพี้ยนได้โล่ของเขา มันจะสามารถกล่อมให้เธอนอนหลับฝันดีได้
ความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครเอกจะว่าฟินก็คงได้ จะว่าหน่วงก็คงไม่ผิดนักสำหรับ I Wanna Hear Your Song เรื่องนี้ เมื่อความสัมพันธ์ของพวกเขาพัฒนาบนความจริงที่ค่อย ๆ ถูกเปิดเผยมากขึ้นมา แม้จะมีความรู้สึกที่ดีต่อกัน แต่ความรักที่ก่อตัวขึ้นบนความลับที่ยังไม่ถูกเปิดเผย มันก็สร้างความคลางแคลงใจให้กับทั้งสองคนอยู่ดี เมื่อภาพความทรงจำที่ไม่ปะติดปะต่อของ ฮงอียอง ก็ทำให้เธอรู้สึกผิดกับฝ่ายชาย ส่วน จางยุน ก็มันมั่นใจว่าตัวเองจะสามารถรักและให้อภัย คนที่อาจมีส่วนทำให้เขาสูญเสียได้หรือเปล่า
ตัวละครหลักนอกจากคู่พระนาง ฮงอียองกับจางยุนแล้ว ยังมี นัมจูวาน (Jae-rim Song) วาทยกรหนุ่มมาดนิ่ง ที่ไม่สามารถมองออกได้เลยว่า เขาเป็นคนดีหรือร้ายกันแน่ กับ ฮาอึนจู (Park Ji-Yeon) นักไวโอลินสาวสวย ที่แม้ภายนอกของเธอจะดูเย่อหยิ่ง แต่ส่วนลึกเธอแตกร้าวอยู่ภายในจากคำนินทาต่อว่าลับหลังของผู้คน ว่าเธอใช้เรือนร่างของตัวเองในการไต้เต้าจนมาถึงจุดนี้ ตัวละคร ฮาอึนจู อาจจะไม่ได้มีบทบาทต่อเนื่องเรื่องมากเท่าไหร่นัก แต่กับวาทยากร นัมจูวาน เรียกว่ามีผลกับเนื้อเรื่องโดยตรง เมื่อเขาเองก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในอดีตโดยตรง เพียงแต่จะเกี่ยวข้องในแง่มุมไหนไม่เปิดเผยก็แล้วกันครับ เพราะ นัมจูวาน คนนี้ก็เป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยหลักเช่นกัน
ซีรีส์ดำเนินเรื่องราวโดยใช้ตัวละคร ฮงอียอง เป็นจุดศูนย์กลาง ไม่ว่าจะฝ่ายที่อยากค้นหาความจริง หรือฝ่ายที่ต้องการปกปิดเรื่องราวต่างอยู่แวดล้อมตัวเธอ ส่วนตัวผมชอบการดำเนินเรื่องตั้งแต่ตอนแรกจนถึงก่อนจะคลี่คลายปมทั้งหมด ซีรี่ส์ทำได้น่าติดตามกับการซ่อนปมปริศนาของตัวเอง คนดูได้แต่เหวี่ยงแหไปมาว่าตกลงแล้วใครน่าจะเป็นคนร้าย แต่หลังเฉลยเรื่องราวอารมณ์มันจะคนละแบบกับช่วงแรก เพราะรู้สึกตั้งคำถามว่าพวกเขาพาตัวเองมาถึงจุดนั้นได้อย่างไร
โยงมาถึงแง่คิดและสิ่งที่ซีรีส์น่าจะพยายามสื่อสารกับคนดู ที่ “ความผิดพลาดในชีวิตของคนเรา มักจะเริ่มจากการปกปิดความผิดเล็กน้อย” ด้วยการทำความผิดซ้ำซากและผูกปมปัญหาใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จนกว่าจะรู้ตัวอีกทีมันก็ไม่มีหนทางให้เดินย้อนกลับหลังอีกแล้ว และเหมือนซีรีส์ทำออกมาเพื่อเสียดสีพวกผู้ร้ายปากแข็ง ขนาดว่าทำผิดกันโจ่งแจ้งเห็นคาตา แต่ยังไม่ยอมรับกลับมาถามหาหลักฐาน
เรียกว่าหากไม่มีคลิปมีภาพมายืนยันความผิด พวกเขาก็จะไม่มีทางยอมรับข้อกล่าวหาแน่ ๆ แง่คิดอีกส่วนหนึ่งคงเป็นเรื่องของการตามความใฝ่ฝันของ ฮงอียอง ที่เธอไม่ลดละความพยายามแม้จะล้มเหลว หรือต่อให้ต้องเริ่มต้นใหม่อีกกี่ครั้งเธอก็ไม่เคยยอมถอดใจ เพียงแต่ซีรีส์ใส่เข้ามาเพื่อเพิ่มมิติให้ตัวละครเท่านั้น ไม่ถึงกับขับเน้นออกมาเด่นชัดมากนัก ด้วยความที่เนื้อหาหลักเป็นดราม่าปมฆาตกรรมมากกว่า
สรุปแล้ว I Wanna Hear Your Song (KBS2/2019) เป็นซีรี่ส์โรแมนติก ดราม่า ที่มีปมฆาตกรรมเป็นส่วนดำเนินเรื่อง ทำออกมาได้น่าติดตามเลยนะ ซีรีส์เก็บซ่อนความลับได้ดีในแบบที่คนดูอย่างเรา ๆ ทำได้แค่สงสับตัวละครนั้นตัวละครนี้ไปเรื่อย แต่ไม่สามารถฟันธงได้ว่าใครกันที่น่าจะเป็นคนร้ายตัวจริง สัดส่วนความโรแมนติกชวนจิ้นอาจไม่เยอะมาก แต่ก็ไม่ถึงกับน้อยนางเอกอย่าง คิมเซจอง ที่รับบทเป็น ฮงอียอง ก็น่ารักมีเสน่ห์เอามาก ๆ เช่นกัน
ขอบคุณภาพประกอบจากซีรีส์: I Wanna Hear Your Song (KBS2/2019)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น