May It Please The Court (2022)
#Drama Director: Kang Min-Kuรับชมได้ทาง Disney+
ซีรีส์กฎหมายที่ใช้ทนายความดำเนินเรื่อง แล้วก็ไม่ได้มีคู่ขัดแย้งเป็นอัยการ ผู้พิพากษาหรือนักการเมือง แต่กับเรื่องนี้เป็นทนายความด้วยกันเองนี่แหละ เพราะด้วยความเป็นทนายอาสาของรัฐที่ต้องว่าความให้กับประชาชนทั่วไป มันก็มักหนีไม่พ้นที่คู่ความมักจะเป็นประชาชนด้วยกันเอง หรือไม่ก็เอกชนที่อาจทำอะไรละเมิดต่อกัน อย่างคดีแรกของซีรีส์ก็เป็นการต่อสู้ของคนที่ได้รับผลข้างเคียงจากยาที่ใช้ มันก็เป็นการต่อสู้กันระหว่างคนธรรมดากับบริษัทยายักษ์ใหญ่
หลักใหญ่ใจความของซีรีส์พูดถึงผลไม้พิษของต้นกระบวนการสืบสวนหรือหาหลักฐานที่บิดเบี้ยว
ซึ่งผลลัพธ์มันได้สร้างบาดแผลให้กับผู้คนที่ได้รับผลกระทบ คนไม่ผิดได้รับโทษ คนเกี่ยวข้องได้รับผลกระทบ คนทำผิดลอยนวล ส่วนคนให้ความช่วยเหลือคนผิดเจริญก้าวหน้า มันเลยยิ่งสร้างความเจ็บปวดให้คนที่รู้ความจริง ซึ่งซีรีส์สร้างตัวละคร โนชักฮี ออกมาให้มีความขัดแย้งในตัวเอง เมื่อพื้นฐานไม่ใช่คนเลวร้ายแต่การต้องแก่งแย่งแข่งขันกับคนอื่น เพื่อถีบตัวเองให้สูงขึ้นไม่ให้มีใครมาดูถูกได้ เธอเลือกใช้ทุกวิถีทางเพื่อเอาชนะคู่แข่ง การดึง โนชักฮี ออกมาจากจุดที่อยู่เพื่อมาเป็นทนายอาสา เลยเป็นหนึ่งในเป้าหมายของคนที่อยู่เบื้องหลัง ในอีกแง่หนึ่งมันก็เป็นจุดตัดที่ชัดเจนของใจความซีรีส์ ที่พูดถึงการเลือกใช้วิธีในการเอาชนะคดีอีกด้วย
ในพาทคดีฆาตกรรมต่อเนื่องซีรีส์ค่อนข้างจงใจให้สงสัยตัวละคร จวาชีแบค ส่วนจะใช่หรือไม่ใช่ผมคงไม่สปอย เนื้อหาในพาทฆาตกรรมนำเสนอในมุมของการช่วยสนับสนุนเรื่องราวหลัก ความเกี่ยวข้องที่เชื่อมโยงกับบทสรุปเรื่องราว แต่การดำเนินเรื่องของซีรีส์ยังให้น้ำหนักกับการสืบสวน ตามหาความจริงสาเหตุของคดีฆาตกรรมที่มาที่ไปของมันมากกว่า พูดง่าย ๆ ว่าซีรีส์ไม่ได้เน้นพาทฆาตกรรมต่อเนื่องเท่าไหร่ ถูกใช้เป็นเพียงส่วนขยายดราม่าอธิบายความเจ็บปวดของตัวละครเสียมากกว่า
ได้ดูผลงานซีรีส์ของ จองรยอวอน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สองต่อจาก Witch at Court แสบใสอัยการแม่มด คงจะบอกว่าคาแรคเตอร์ของทั้งสองเรื่องแทบจะเหมือนกันเปีะเลยครับ ใน Witch at Court ก็ป็นอัยการแสบ ๆ ที่ทำทุกอย่างเพื่อเอาชะนะคดี ส่วนเรื่องนี้ก็เป็นทนายร้าย ๆ ที่เล่นนอกเกมเพื่อเอาชนะคดี แล้วก็เป็นคาแรคเตอร์ที่เหมาะกับเจ้าตัวเสียด้วยนะครับ แสบแต่ดูไม่น่ารำคาญหรือไม่ใช่ตัวละครที่เราจะไม่ชอบ การแสดงดึงเสน่ห์ของตัวละครออกมาได้แม้บทมันจะออกแนวทำตัวไม่น่ารักก็ตาม
ฝั่ง จวาชีแบค ที่รับบทโดย อีคยูฮยอง เรื่องนี้บทบาทจะมีสองมิติ ในมุมหนึ่งจะเป็นคู่ปรับกัดกันแบบสนุกสนานกับทนายโนชักฮี กับบทบาทอีกมุมหนึ่งที่มีความลึกลับ ดูน่าสงสัย แต่ก็แอบมีบทโศกดูน่าสงสารผสมอยู่ในนั้น ซึ่งเจ้าตัวก็นำเสนอออกมาได้ค่อนข้างดีเลยนะครับ จากที่เคยได้ดู Voice 4 อีกหนึ่งเรื่อง ผมว่า อีคยูฮยอง เป็นนักแสดงที่สวมบทบาท ที่ต้องเก็บซ่อนอีกตัวตนหนึ่งหรือปกปิดความรู้สึกบางอย่างได้ดี ระหว่างบทสนทนาของตัวละครที่ดูปรกติ มันจะมีความรู้สึกที่ล้นออกมาให้คนดูสัมผัสได้ว่ามีอะไรซ่อนอยู่ ผ่านสีหน้าแววตาของตัวตัวละครที่รับบท
เป็นซีรีส์ 12 ตอนที่ดูเหมือนจะไม่เยอะ แต่เอาจริงการดำเนินเรื่องของซีรีส์ก็ไม่ได้กระชับรวดเร็วอะไรมาก ด้วยความที่มีปมเดียว การดำเนินเรื่องจึงค่อย ๆ เปิดเผยออกมาทีละเล็กน้อยว่าแต่ละคนเกี่ยวข้องกันยังไง ที่มาที่ไปของเรื่องราวทั้งหมดแรงขับมันมาจากอะไร แต่ถึงผมจะบอกว่าซีรีส์ไม่ได้เร่งรีบหรือดำเนินเรื่องรวดเร็ว ตลอด 12 ตอนยังถือว่าซีรีส์ทำได้น่าติดตามนะครับ อย่างที่บอกว่าพอมันมีเหตุฆาตกรรมต่อเข้ามา แล้วพระเอกของเราก็ดูน่าสงสัยจริง ๆ มันเลยชวนติดตามได้ตลอดรอดฝั่งอยู่ครับ
ขอบคุณภาพประกอบจากซีรีส์: May It Please The Court (2022)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น