วันศุกร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

Review: All of Us Are Dead (2022)

 All of Us Are Dead (2022) มัธยมซอมบี้

  • Screenwriter: Chun Sung Il
  • Director: Lee Jae Gyoo

      ซีรีส์เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในโรงเรียนมัธยมฮโยซาน ซึ่ง อีบยองชาน (Kim Byung Chul) ครูสอนวิทยาศาสตร์เกิดอุตริทำการทดลองสุดสยองขึ้นมา เพราะอยากจะให้ลูกชายของตัวเองที่มักโดนรังแกตอบโต้กลับไปบ้าง แต่ผลลัพธ์ของการทดลองกลับกลายเป็นการสร้างไวรัส ที่เปลี่ยนให้คนติดเชื้อกลายเป็นซอมบี้ เพียงเวลาไม่กี่ชั่วโมงทั้งโรงเรียนแปรสภาพกลายเป็นนรกบนดิน เมื่อทั้งครูและนักเรียนกลายเป็นฝูงซอมบี้กระหายเลือด นักเรียนที่เหลือรอดชีวิตจึงต้องพยายามทำทุกทางเพื่อเอาตัวรอด เพียงแต่การเป็นแค่เด็กมัธยม แล้วต้องมาเอาชีวิตรอดท่ามกลางฝูงห่าซอมบี้ มันก็กดดันบีบคั้น จนทำให้การตัดสินใจเรื่องง่าย ๆ ผลลัพธ์มันก็ออกมาอิหยังวะได้เหมือนกัน

วันพุธที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

Review: #Alive (2020)

 #Alive (2020) คนเป็นฝ่านรกซอมบี้

Screenwriter & Director: Jo Il Hyung

      ตั้งแต่ทั่วโลกได้รู้จักกับ Train to Busan ก็ต้องบอกว่า ไม่มีอะไรมาหยุดยั้งความร้อนแรงของ K-Zombies ได้เลย เมื่อหนังซอมบี้สัญชาติเกาหลีใต้ที่สร้างออกมานั้น สามารถการันตีได้ในขั้นแรกเลยว่าจะทำออกมาสนุกตื่นเต้นแน่นอน เพราะหนัง K-Zombies นั้นนำเอาจุดเด่นของซอมบี้ยุคใหม่มาใช่เป็นแกนหลัก ที่มีความโหด ความรวดเร็ว โจมตีกันเป็นฝูง แถมยังไวต่อเสียงเรียกได้ว่าหากเหล่ามนุษย์ในหนังซอมบี้เกาหลีอยากจะมีชีวิตรอดล่ะก็ ต้องสับตีนแตกหรือไม่ก็เก็บตัวนิ่ง ให้เงียบที่สุดเท่านั้น

เช้าธรรมดาวันหนึ่งของ จุนอู (ยูอาอิน) เด็กหนุ่มที่ตัดสินใจโดดเรียนนั่งเล่นเกมอยู่ในอพาร์ทเมนท์ ต้องกลายเป็นวันที่เขาจะจดจำไปชั่วชีวิต เมื่อทั้งเมืองที่เขาอาศัยอยู่นั้น เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสลึกลับที่เปลี่ยนคนให้กลายเป็นซอมบี้ ด้านหนึ่งมันก็กลายเป็นความโชคดีในการโดดเรียนของ จุนอู ในคราวนี้ ที่ทำให้เขาไม่ต้องออกไปเผชิญหน้าเหล่าซอมบี้ แต่อีกด้านมันก็ทำให้เขาติดอยู่ในอพาร์ทเมนท์เพียงลำพัง ท่ามกลางเหล่าเพื่อนบ้านที่กลายเป็นซอมบี้กันไปหมดแล้ว

จุนอู ใช้ชีวิตผ่านไปแต่ละวันเพียงเพราะหวังว่าความช่วยเหลือจะมาถึง แต่ยิ่งเวลาผ่านไป จุนอู ก็เริ่มนึกถึงคำบ่นของแม่ ที่มักจะบอกให้เขาออกไปซื้อของมาตุนในตู้เย็น เมื่อในตอนนี้อาหารมันร่อยหลอลงไปทุกที ความหวังในการรอความช่วยเหลือก็ยิ่งลดลงไปทุกขณะ เมื่อดูเหมือนว่าในตอนนี้ ภายนอกก็กำลังเจอกับปัญหาเดียวกันหมด แล้วแบบนี้ จุนอู จะตัดสินใจอย่างไร จะไปตายเอาดาบหน้าหรือจะนอนรอจนกว่าความตายมันจะมาถึงคิวของตัวเอง

หนังซอมบี้จากเกาหลีอีกเรื่องหนึ่งที่ค่อนข้างมีกระแสความสนใจในไทย ซึ่งตัวหนังเรื่องนี้ผมก็ไม่รู้จะใช้คำอธิบายว่าอะไรดี คือหนังได้ไอเดียและ Matt Naylor มือเขียนบทมาจากหนังซอมบี้ฝรั่งเรื่อง Alone (2020) มันก็เลยมีอะไรคล้ายกันบ้าง ซึ่งตัวผมยังไม่เคยดูหนังเรื่อง Alone เต็ม ๆ มาก่อนเคยดูแต่ตัวอย่างหนังเท่านั้น เลยไม่ทราบว่ามันมีความแตกต่างหรือคล้ายกันจุดไหนบ้าง รีวิวนี้เลยจะขอกล่าวถึงเฉพาะหนังเรื่องนี้อย่างเดียวก็แล้วกันครับ

แน่นอนว่าจากที่เห็นในตัวอย่างทีแรก หลายคนคงพอดูออกว่าหนังไม่ได้คิดการใหญ่ ฉะนั้นใครที่ติดภาพฝูงห่าซอมบี้พุ่งเข้าโจมตีคนแบบใน Train to Busan และภาคต่อ Peninsula ก็ขอให้ลดความคาดหวังสเกลความใหญ่ความตื่นตาตื่นใจแบบนั้นได้เลยครับ เพราะหนังเรื่องนี้เน้นขายความลุ้นระทึก ตื่นเต้น จากข้อจำกัดของมนุษย์ในการเอาชีวิตรอด ไม่ว่าจะสถานที่ อาหาร การสื่อสารและระยะทาง ที่ตัวละครต้องฝ่าด่านซอมบี้ให้ได้เพื่อเอาชนะอุปสรรคที่ว่า 

ซึ่งหลังจากที่ผมดูจบบอกได้ว่าแม้ความสนุกตื่นเต้นมันจะไม่ได้พุ่งถึงขีดสุดอะไร แต่ถามว่าหนังทำได้ตามมาตรฐานหนังซอมบี้ที่สนุกซักเรื่องหนึ่งรึเปล่า ผมตอบได้เลยว่าหนังสนุกมีหลายฉากทำให้ลุ้นจนนั่งไม่ติด ในส่วนของซอมบี้ก็ดีไซน์ออกมาในแนวทางเดียวกัน กับใน Train to Busan ดูสยองขวัญ บิดเบี้ยว น่าขนลุกใช้ได้เลยครับ แล้วก็ แม้สเกลหนังจะเล็กแต่ในเรื่องเมคอัพเอฟเฟคของซอมบี้ ก็ออกมาดีไม่ไก่กา การออกแบบฉากจู่โจมของซอมบี้ ก็ทำได้ตื่นเต้นชวนให้คนดูเอาใจช่วยตัวละครได้ดีครับ 

ส่วนในเรื่องของนักแสดงในทีแรกที่เห็นแคส ยูอาอิน กับ พัคชินฮเย ผมก็คิดว่าหนังอาจจะเน้นขายความดราม่า เพราะเลือกนักแสดงสายนี้มารับบทนำ แต่เอาเข้าจริงแม้จะบอกได้ว่านักแสดงอย่าง ยูอาอิน จะทำออกมาได้ดีในส่วนของการแสดง แต่ด้วยข้อจำกัดเรื่องเวลาในหนัง มันก็น้อยเกินกว่าที่จะปูดราม่าให้ผู้ชมอินได้มากพอ ในส่วนดราม่าของหนังเลยบอกได้ว่ามันไปไม่สุด ด้วยข้อจำกัดเรื่องเวลาที่เป็นกำดักที่หนังสร้างขึ้นมาเอง แต่ส่วนที่ผมถูกใจ จะว่าถูกใจก็ไม่ใช่เสียทีเดียว เรียกว่าน่าสนใจคงจะใช่กว่าครับ กับเรื่องของคาแรคเตอร์ตัวละคร จุนอู ที่ ยูอาอิน รับบท และ ยูบิน ที่พัคชิยฮเย รับบทบาทนั้นครับ 

เมื่อหนังเลือกให้ จุนอู เป็นเด็กวัยรุ่นในแบบที่เรียกได้ว่า พร้อมจะสร้างวิกฤติซ้ำซ้อนให้กับตัวเองได้ตลอดเวลา เขาใช้ชีวิตอย่างไร้ความหมายผ่านไปวัน ๆ ไม่สนโลกไม่มีการวางแผนอะไร กระทั่งเกิดเหตุการณ์ซอมบี้ระบาดขึ้นมาก็แทบจะเรียกได้ว่า ไม่เหลือแรงบันดาลใจอะไรในการใช้ชีวิตเลย เมื่อต้องอยู่ตัวคนเดียว แต่พอได้เจอกับ ยูบิน ความหวังในการจะมีชีวิตอยู่ มันก็เลยกลับมาอีกครั้ง ตรงนี้ผมไม่แน่ใจนะว่าหนังจงใจสะท้อนชีวิตวัยรุ่นเกาหลีหรือเปล่า แต่ก็ดูมีแนวโน้ม เพราะว่าหนังเองก็เลือกหยิบเอากิมมิกของการสื่อสารในยุคปัจจุบันมาใช้ด้วย พร้อมทั้งแอบใส่ความตลกร้ายของเทคโนโลยีเข้ามาอีก อย่างตอนที่ จุนอู ไม่สามารถรับข่าวสารจากทีวีได้แล้ว เขาจำเป็นต้องฟังจากวิทยุแทน แต่เจ้ากรรมหูฟังสมัยนี้ดันเป็นแบบไร้สาย เลยไม่มีแจ็คเสียบกับช่องหูฟัง หรือการที่เครือข่ายโทรศัพท์ล่ม ก็จำเป็นต้องหันมาใช้วิทยุสื่อสารทดแทน การที่นางเอก ยูบิน มีสกิลการเอาชีวิตรอดได้ดีในช่วงเวลาคับขัน โดยที่ไม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยี อะไรต่าง ๆ เหล่านี้ หากจะมองว่าหนังหยิบเอามาสะท้อน การใช้ชีวิตของคนในปัจจุบันมันก็คงพอมองได้ครับ

ยิ่งกับการที่หนังออกมาในช่วงโรคระบาด โควิด – 19 ด้วยแล้ว ความห่างระหว่าง จุนอู กับ ยูบิน มันยิ่งสะท้อนได้อย่างชัดเจนเลยว่า มนุษย์เรานั้นยังไงก็เป็นสัตว์สังคมที่ต้องอยู่ร่วมกัน ในขณะที่ยังมีคนล้อมรอบอยู่ จุนอู ก็ไม่ได้เห็นคุณค่าอะไรใช้ชีวิตมาลำพังคนเดียว แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องอยู่ตัวคนเดียวจริง ๆ แล้ว มันคนละเรื่องกันเลย เหมือนกับฉากที่มีแสงเลเซอร์จาก ยูบิน ยิงมาที่ตัวเขา นาทีนั้นความอยากตายมันก็หายไปจากหัวสมองเลย

สรุปแล้ว #Alive (2020) เป็นหนังซอมบี้ที่ผมบอกได้ว่าสนุก แต่อย่าคาดหวังเยอะเพราะหนังสเกลเล็กและเน้นขายข้อจำกัดของตัวละคร ในพาทดราม่าก็ทำออกมาได้ไม่สุด แต่ในภาพรวมถือว่าผ่านมาตรฐานหนังซอมบี้ที่ดูเพื่อความบันเทิง บวกด้วยประเด็นต่าง ๆ ในหนังที่ผมกล่าวไป แม้จะไม่ได้ขับเน้นออกมาชัดเจนจับต้องได้มากนัก แต่ก็ถือว่าเป็นส่วนที่แต่งแต้มสีสันความแปลกใหม่ให้กับหนังได้พอสมควรครับ


วันจันทร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2567

Review: Criminal Minds (2017)

Criminal Minds (2017) อ่านเกมฆาตกร

#Action #Mystery #Drama
Director: Yang Yun-Ho, Lee Jung-Hyo
Writer: Hong Seung-Hyun
      NCI หน่วยวิเคราะห์พฤติกรรมอาชญากรของเกาหลี ที่หัวหน้าทีมอย่างคังกีฮยอง (Son Hyun-Joo) ตัดสินใจหันหลังให้กับองค์กร หลังจากไม่สามารถหยุดยั้งมือวางระเบิดได้จนเกิดความสูญเสียมากมายตามมา ปัจจุบันเขากลายมาเป็นเจ้าหน้าที่บรรยายพิเศษตามสถานศึกษา ซึ่งในเวลาเดียวกันนั้นได้เกิดคดีลักพาตัวหญิงสาวต่อเนื่องขึ้นมา แต่ตำรวจที่รับผิดชอบคดีกลับมองไม่เห็นถึงความเชื่อมโยง มีเพียงแค่นักสืบคิมฮยอนจุน (Lee Joon-Gi) เท่านั้นที่กำลังตามไล่ล่าคนร้าย

วันศุกร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2567

Review: Dreaming Back to the Qing Dynasty (2019)

Dreaming Back to the Qing Dynasty (2019) ฝันคืนสู่ต้าชิง

#Drama #Romance
Director: Lee Kwok Lap, Wai Hong Chui, Chen Shu Liang
Screenwriter: Wong Lei Chi
      หมิงเวย (หลี่หลานตี๋) สถาปนิกมือใหม่ที่มีความสนใจงานสถาปัตยกรรมจีนยุคเก่า โดยเฉพาะพระราชวังกู้กงหรือพระราชวังต้องห้าม เธอไม่ได้รับโอกาสจากหัวหน้าซึ่งเธอเองก็ไม่รู้สาเหตุว่าเกิดจากอะไร งานที่ได้ทำมักกลายเป็นงานเอกสารที่ไม่เกี่ยวกับการออกแบบ เหมือนครั้งนี้ที่เธอต้องไปค้นหาเอกสารที่พระราชวังกู้กง จนทำให้เธอได้พบกับผู้อาวุโสคนหนึ่งซึ่งมอบโคมไฟโบราณมาให้ โคมไฟโบราณอันนั้นได้สร้างปาฏิหาริย์ให้เธอได้พบกับองค์ชายสิบสาม (หวังอันอวี่) แห่งราชวงศ์ชิง เขามีส่วนช่วยในการสร้างแรงบันดาลใจให้กับโปรเจคใหม่ของบริษัทที่เธอได้รับโอกาสให้มีส่วนร่วมออกแบบ ความสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งสองภพพัฒนากลายเป็นความรัก ซึ่งคราวนี้กลับไม่ใช่องค์ชายสิบสามที่ต้องข้ามเวลามาพบเธอ เมื่อ หมิงเวย ได้ข้ามภพสวมรอยเป็นลูกสาวขุนนางใหญ่ ที่ตกอยู่ท่ามกลางการแข่งชิงบัลลังก์ของเหล่าองค์ชาย

วันพุธที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2567

Review: My Favorite Girl (2020)

 My Favorite Girl (2020) เธอคนโปรด

#Comedy #Romance Screenwriter & Director: Tamada Shinya
      คาโตะ ยูสุเกะ (Watanabe Daichi) หนุ่มนักเขียนบทละครโทรทัศน์ ที่มีเพื่อนซี้เป็นสาวช่างภาพสุดติสต์อย่าง ซาเอกิ มิโฮะ (Nao) เขาและเธอมักใช้เวลาร่วมกันเสมอไม่ว่าจะกินข้าวเดินเล่นหรือนั่งดื่มด้วยกัน แม้ต่างฝ่ายต่างมีสถานะเป็นเพื่อนที่รู้ใจ แต่นอกจากการใช้เวลาเที่ยวเล่นสนุกไปด้วยกัน ทั้งสองคนก็แทบไม่มีอะไรร่วมกันเลย เพื่อนสนิทของทั้งสองคนต่างไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ของพวกเขา ความรู้สึกของ มิโฮะ คนภายนอกอาจมองได้ไม่ชัดเจน แต่ความรู้สึกของ ยูสุเกะ ไม่ว่าใครก็มองออกว่าเขาชอบเพื่อนสนิทคนนี้ แต่การกลัวจะสูญเสียมิตรภาพไปเลยทำให้ ยูสุเกะ ตัดสินใจขังตัวเองอยู่ในเฟรนด์โซน

หนังญี่ปุ่นที่พูดถึงความชอบที่มีต่อใครสักคน แต่กลับไม่มีความกล้าจะพูดออกไป อีกฝ่ายเลยกลายเป็นแค่คนโปรด ไม่ใช่คนรัก หนังไม่เชิงพูดถึงการพลาดจังหวะโอกาสในการสารภาพความรู้สึก แม้ตลอดทั้งเรื่องเราจะเห็นว่าทั้งสองคนสนิทสนมหยอกล้อกัน สายตาที่มีให้กันเหมือนจะแอบเกินเพื่อนสนิท แต่ฝั่ง มิโฮะ ก็ไม่ชัดเจนมากเท่ากับ ยูสุเกะ เลยเหมือนเป็นการเล่าเรื่องผ่านมุมมองของ ยูสุเกะ ฝ่ายเดียว

หากเราชอบใครสักคนแต่ติดอยู่ในสถานะไม่ชัดเจน คงสะดุดกับบางสถานการณ์ในเรื่องนี้ ไม่ว่าจะตอนไปเที่ยวด้วยกันสองคนแล้วบังเอิญเจอเข้ากับคนรู้จัก ในสถานการณ์ที่เราต้องแนะนำอีกฝ่ายที่มาด้วยว่าเป็นใคร คือถ้าบอกว่าเป็นเพื่อนก็เหมือนโดดเข้าไปในเฟรนด์โซนทันที แต่จะแนะนำว่ามีความสัมพันธ์มากกว่านั้น แล้วอีกฝ่ายไม่คิด สถานการณ์ก็จะอึดอัดอีกแบบหนึ่ง

การที่เราอยากจะให้ของขวัญธรรมดาสักชิ้นยังต้องคิดแล้วคิดอีก เพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะตีความหมายของขวัญที่ว่าแบบไหน เหมือน ยูสุเกะ ที่ซื้อเค้กไปแสดงความยินดีในงานแสดงภาพถ่ายของ มิโฮะ แต่กลับไม่ให้เธอตั้งแต่เริ่มจนจบงานกลับบ้าน ต้องเดินถือถุงเค้กติดตัวตลอดเพราะไม่มีความกล้ามากพอ หรือฉากที่ต้องเดินกันสามคนแล้ว ยูสุเกะ ที่อยู่ในสถานะเพื่อน จะค่อย ๆ เดินช้าลงจนถอยห่างออกมาเรื่อย ๆ ที่สุดแล้วอีกอย่างหนึ่งคือมักจะกล้าพูดถึงความรู้สึกที่มีกับคนอื่น แต่ไม่กล้าพูดออกมาต่อหน้าที่คนชอบ

ผมชอบประเด็นของหนังนะ ส่วนหนึ่งเพราะบางสถานการณ์ในหนังมันทำให้นึกย้อนถึงเรื่องที่ลืมไปแล้ว ว่าเออครั้งหนึ่งเราก็เคยมีเพื่อนผู้หญิงคนโปรดอยู่เหมือนกันนะ คือนานมาก แล้วก็แค่ช่วงสั้น ๆ แค่นั้น ไม่ได้ติดต่อไม่ได้เจอกันนานมาก ตอนนี้ไม่ใช่แค่ไม่ใช่คนโปรดแต่คงจะเป็นคนแปลกหน้า เดินสวนก็คงจำกันไม่ได้กันไปแล้วล่ะ ฮ่าฮ่า

การเล่าเรื่องของหนังก็ตามสไตล์หนังนอกกระแส ไม่ค่อยมีเนื้อเรื่อง ใช้วิธีเล่าผ่านสถานการณ์ที่ตัวละครเจอ เพื่อสื่อสารของใจความของหนัง ถามว่าสนุกไหมบอกได้ว่าไม่สนุก แต่ก็มีเสน่ห์ตามสไตล์หนังนอกกระแส ในการดูรีแอคของตัวละครที่มันสื่อความหมายในฉากนั้น ตอนจบของหนังอาจจะชวนเหวอสักนิด เอาจริงก็พอตีความได้ไม่เกินสามทาง แต่ส่วนตัวคิดว่าด้วยอาชีพของ ยูสุเกะ ความเป็นไปได้จริง ๆ น่าจะเหลือแค่บทสรุปเดียว

#MovieReview #รีวิวหนัง

วันจันทร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2567

Review: First Love (2022)

 First Love (2022) วุ่นนักโจทย์รักแรก

#Romance #Comedy Director: Shen Qin Yuan
      หลูหวานหว่าน (เถียนซีเวย) นักศึกษาภาควิชาเวชศาสตร์คลีนิค ม.ชิงเหยา เธอมักจะมีปัญหาเรื่องเรียนจนเกิดผลกระทบต่อการสอบ แต่เพราะความตั้งใจตามเพื่อนซี้ผู้ชายที่แอบรักข้างเดียวมาเรียน ทำให้อย่างน้อยก็ประคับประคองมาได้ถึงสองปี หลังจากแอบรักมาเนิ่นนาน หลูหวานหว่าน ตัดสินใจจะลาขาดจากรักข้างเดียวด้วยการประกาศจีบ เริ่นชู (หวังซิงเยว่) หนุ่มเนิร์ดเดือนมหาลัยสุดฮอต

วันศุกร์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2567

Review: Dali & the Cocky Prince (2021)

 Dali & the Cocky Prince (2021)

  • Director: Lee Jung-Sub
  • Writer: Son Eun-Hye, Park Se-Eun

      จินมูฮัก (Kim Min-Jae) ทายาทเจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ Dondon F&B. ธุรกิจร้านอาหารที่เติบโตอย่างรวดเร็วจนก้าวสู่ระดับนานาชาติ ด้วยการต่อสู้ชีวิตทำงานมาตั้งแต่อายุน้อยเขาจึงยึดถือเงินเป็นเรื่องสำคัญ แล้วถ้าเป็นเรื่องอาหารหรือการดำเนินธุรกิจเขาก็ไม่เป็นสองรองใคร แต่เพราะต้องทำงานตั้งแต่อายุน้อย จินมูฮัก ก็เลยไม่ค่อยประสีประสา ในเรื่องหนังสือหนังหาหรือความรู้รอบตัวสักเท่าไหร่ เมื่อต้องไปติดต่อธุรกิจที่ต่างประเทศ เลยเกิดเรื่องโอละพ่อเข้าใจผิดกันขึ้น แต่เรื่องบังเอิญชวนหัวนั้นก็ทำให้ จินมูฮัก ได้พบกับ คิมดาลี ผู้ดูแลศูนย์แสดงศิลปะ จนเกิดอาการปิ๊งปั๊งกันขึ้นมา 

Review: All of Us Are Dead (2022)

 All of Us Are Dead (2022) มัธยมซอมบี้ Screenwriter:  Chun Sung Il Director:  Lee Jae Gyoo       ซีรีส์เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในโรงเรียนมัธ...