Believer (2018)

Believer (2018) แผนกระชากหน้ากาก”ท่านอี”
#ปีนรั้วรีวิว #Action #Crime Director: Hae-yeong Lee

      เกิดเหตุการณ์ระเบิดขึ้นในโกดังแห่งหนึ่งย่านชานเมือง โอยอนอ๊ค (Sung-ryung Kim) ผู้บริหาร ยอนอ๊คเพนท์ รอดตายจากเหตุการณ์นั้นมาได้อย่างหวุดหวิด เธอจึงรีบวิ่งมาหาตำรวจให้คุ้มครองความปลอดภัย นั่นก็เพราะว่าเธอเป็นหนึ่งในผู้บริหารระดับสูง ขององค์กรค้ายาข้ามชาติ แต่ในตอนนี้ที่เธอและพรรคพวกต้องกลายมาเป็นเป้านั้น อาจจะเป็นความต้องการของ “ท่านอี” ผู้อยู่เบื้องหลังองค์กร ที่ไม่เคยมีใครรู้ตัวตนที่แท้จริงของเขามาก่อน แต่ยังไม่ทันที่ที่จะได้เอ่ยถึงรายละเอียดเกี่ยวกับ ท่านอี ผู้ลึกลับออกมา ยอนอ๊ค ก็มีอันต้องจบชีวิตลง

ในตอนนี้ วอนโฮ (Jin-Woong Cho) คงเหลือพยานเพียงคนเดียวก็คือ ซอยองรัก (Jun-yeol Ryu) เด็กหนุ่มที่รอดตายมาได้ อย่างน่าเหลือเชื่อจากเหตุระเบิด ร่วมถึงสนุขอย่างเจ้า จินโด ที่แม้จะบาดเจ็บหนักแต่ก็ยังทรหดกัดฟันสู้จนมีชีวิตรอดออกมาได้ ทีมสืบสวนจึงต้องพยายามทำทุกทาง ไม่เว้นกระทั่งแทรกซึมเข้าไปในขบวนการค้ายาเสียเอง เพื่อหาทางจับกุม “ท่านอี” คนนี้ให้ได้ก่อนที่ยาเสพติดของเขาจะทำร้ายคนอื่นไปมากกว่านี้

      หนังทำได้สำเร็จในแง่การลุ้นให้ตัวละครเอาตัวรอด จากสถานการณ์คับขันได้นะ เพราะโจทย์ที่ตัวละครต้องทำคือ การปลอมตัวแทรกซึมเข้าไปแทนที่ เพื่อให้กระบวนการค้ายายังขับเคลื่อนไปได้ โดยที่ไม่มีใครสงสัยในความผิดปรกติ แต่ส่วนตัวแล้วสิ่งที่หนังพยายามซ่อน หรือปิดบังแต่ทำไม่สำเร็จเลยก็คือ ตัวตนของ “ท่านอี” นี่แหละ คือเดาได้ตั้งแต่แรกเลยว่าตัวละครนี้แน่นอน แล้วมันก็เป็นไปตามนั้นจริงๆ หนังดูจะให้ความสำคัญในการดำเนินเรื่องด้วยตัวละครนี้เหลือเกิน มันจึงเดาได้ไม่ยากเลย ถ้าหนังเก็บรายละเอียดซ่อนตัวละครได้ ตอนเฉลยหรือตอนจบมันคงมีอิมแพ็คกับความรู้สึกคนดูมากกว่านี้ หรือว่า…จริงๆแล้ว หนังอาจจะไม่ได้ตั้งใจซ่อนให้มิดชิดก็ไม่รู้นะ

      หนังออกแบบตัวละคร “ท่ายอี” ออกมาอย่างเทาๆ (ถึงจะเทาเข้มเลยก็เถอะ) เมื่อด้านหนึ่งก็ยังทำให้ดูมีความเมตตาเหมือนมีมนุษยธรรมอยู่บ้าง แต่พอถึงบทจะโหดจะให้บทเรียนจริงๆ ก็ไม่เคยปราณีกับใครหน้าไหน

หนังอาศัยจุดขาย”ความเชื่อใจ”ในแบบเดียวกับหนังตำรวจแฝงตัวเข้าไปในแก๊งค์นั่นแหละ เพราะว่าชีวิตของคนที่แฝงตัวเข้าไปในแก๊งค์มันขึ้นอยู่กับว่า ตัวเองจะทำให้คนพวกนั้นเชื่อใจได้มากแค่ไหน ในหนงเรื่องนี้จึงมีซีนทำนองเดียวกันนี้ให้ลุ้นเอาใจช่วยอยู่หลายฉาก และหลายแง่มุมของตัวละคร(แต่จะบอกว่าตัวละครไหนบ้างก็จะกลายเป็นสปอยเสียอีก)

      ส่วนตัวละคร วอนโฮ ดูไปดูมาก็เหมือนน่าสงสารนะ เหมือนสนุขที่ไล่งับหางตัวเอง มัวแต่ไล่ล่าสิ่งที่ไม่รู้ว่าจะมีตัวตนจริงหรือเปล่าอย่าง ท่านอี กระทั้งเอาชีวิตตัวเองและลูกน้องเข้าไปเสี่ยง มันจึงเป็นที่มาของการตัดสินใจในตอนจบ ที่เลือกจบเรื่องราวด้วยตัวเอง ด้านหนึ่งเขาคงรู้สึกผิดกับเรื่องราวที่เกิดผ่านมา อาจจะมองว่าตัวเองเป็นสาเหตุของความผิดพลาดทั้งหมด

ด้านงานแอคชั่นหนังก็ใส่เข้ามาประมาณหนึ่ง ไม่ถึงกับจัดเต็มแต่ก็ถือว่ามีไม่น้อย ทั้งฉากต่อสู้ด้วยการสาดกระสุนใส่กัน และฉากโชว์สตั๊นต่อสู้ระยะประชิดก็ไม่ลืมที่จะใส่เข้ามา ในหนังเรื่องนี้ตัวผมเองประทับใจการแสดงอยู่สามตัวละครก็คือ จินฮาริน (Ju-hyuk Kim) ที่แสดงเป็นพ่อค้ายาชาวจีน คิมจูฮยอก แสดงบทนี้ได้เพี้ยน แกว่ง ดีจริง คือเราเดาทิศทางไม่ถูกเลยว่าเขาจะทำอะไรต่อไป

      คนถัดมาก็คือ ท่านไบรอัน (Seung-won Cha) เรื่องนี้ก็แสดงได้โหด ดิบ ดี แถมซีนท้ายๆของตัวเอง กับฉากที่ต้องแสดงความกลัวออกมายังทำได้ถึง จนเราเกร็งลุ้นไปด้วยได้ แล้วก็คนสุดท้าย ซอยองรัก ที่ช่วงต้นมาหากลางเรื่องยังถือว่าธรรมดานะ แต่ช่วงท้ายที่ถึงจุดพีคของหนังก็ทำได้สมกับบทบาทที่ตัวเองเป็นในตอนนั้นจริงๆ

      สรุปแล้ว Believer (2018) ถือว่าสอบผ่านมาตรฐานหนังระทึกขวัญจากเกาหลีนะ ถึงแม้อาจจะยังไม่สามารถเรียกได้ว่าน่าประทับใจ มีครบถ้วนทุกอารมณ์ ทั้งดราม่า ระทึกขวัญ แล้วก็แอคชั่น แต่อย่างที่บอกไปแต่ต้นว่าหนังซ่อน ท่านอี ไม่มิด เมื่อถึงเวลาเฉลยเรื่องราวต่างๆออกมามันเลยไม่มีอิมแพ็ค เรื่องที่เหมือนจะซับซ้อนมันเลยไม่ซับซ้อนอย่างที่คาดไว้ แต่โดยภายรวมก็ถือว่าเป็นหนังแอคชั่น ทริลเลอร์ ที่สนุกเรื่องนึงเหมือนกัน

 

ขอบคุณเครดิตรูปภาพจากภาพยนตร์ : Believer (2018) 

#MovieReview #รีวิวหนัง