วันศุกร์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2563

Little Forest (2018)

Little Forest (2018) กลับบ้านเรา…รักรออยู่
#ปีนรั้วรีวิว #Drama Director: Soon-rye Yim

      ฮเยวอน (Tae-ri Kim) เดินทางจากโซลเพื่อหวังกลับมาพักใจที่บ้านเกิด มีซองรี หมู่บ้านเล็กๆที่ขึ้นชื่อเรื่องการปลูกข้าวและแอปเปิ้ล ในตอนแรกเธอหวังมาพักที่บ้านเพียงไม่กี่วันเนื่องจากเธอไม่มีใครรอเธออยู่ที่นั่น แต่ว่าการได้กลับมาซึมซับบรรยากาศเดิมๆ อาหารรสชาติที่คุ้นลิ้น ผู้คนที่คุ้ยเคย อย่าง อึนซุก (Ki-joo Jin) และ แจฮา (Jun-yeol Ryu) สองเพื่อนซี้ที่โตมาด้วยกัน ด้วยความเหนื่อยหน่ายชีวิตในโซลมันจึงทำให้เธอตัดสินใจอยู่ที่บ้านเกิดนานขึ้น เพื่อหาคำตอบให้กับตัวเองว่าเธอต้องการมีชีวิตยังไงและอยากอยู่ที่ไหนกันแน่

หนังเกาหลีรีเมคจากหนังญี่ปุ่นในชื่อเรื่องเดียวกัน ซึ่งต้นฉบับของญี่ปุ่นที่สร้างจากมังงะของ Daisuke Igarashi นั้นทำออกมาด้วยกันสองภาค (แต่ภาคนึงก็ตกประมาณ 1 ชั่วโมงเศษนิดๆ) ซึ่งเอาจริงๆเนื้อหาหนังไม่ได้มีอะไรมากนักหรอก เวลาส่วนใหญ่ของหนังจะนำเสนอแง่มุมของวิถีชิวิตของ อิชิโกะ (อาอิ ฮาชิโมโตะ) นางเอกของเรื่อง

      ฉากต่างๆที่เราได้เห็นในหนังต้นฉบับส่วนใหญ่จึงเป็นชีวิตประจำวันที่ผ่านไปในแต่ละฤดูกาลของเธอ ไม่ว่าจะการทำนาทำสวน การเก็บเกี่ยวผลผลิต การเลือกสรรวัตถุดิบจากธรรมชาติมาปรุงอาหาร และการลงมือทำอาหารเมนูต่างๆที่ใช้วัตถุดิบหลักจากธรรมชาติที่หาได้ในท้องถิ่น

ส่วนเวอร์ชั่นเกาหลีกระชับเนื้อหาจากสองภาครวมมาอยู่ในหนังเรื่องเดียว เอาจริงมองโดยภาพรวมก็ไม่มีอะไรตกหล่นหายไปหรอก อะไรที่ต้นฉบับเคยมี เวอร์ชั่นนี้ก็จับมาใส่ได้ครบไม่ว่าจะฉากต่างๆที่กล่าวไปด้านบน รวมถึงประเด็นหลักที่หนังต้องการสื่อสาร เพียงแต่เวอร์ชั่นนี้นำเสนอแบบรวดเร็วรวบรัดกว่าในสไตล์เกาหลี

ต่างจากต้นฉบับที่นิ่งและละเมียดเก็บรายละเอียดมากกว่าในแต่ละฉาก ซึ่งตรงนี้คงต้องบอกว่าแล้วแต่คนชอบนะ เพราะบางคนอาจจะชอบอะไรที่เก็บรายละเอียดครบถ้วนและถ่ายทอดออกมาอย่างมีศิลปะ แต่หากถามส่วนตัวผมเองที่ไม่ได้อินกับความละเอียดอ่อนในการทำอาหารหรือการกิน คงตอบได้ว่าในเนื้อหาส่วนนี้ฉบับเกาหลีมันกำลังดีกับจริตของผมเอง
      ที่แตกต่างจากต้นฉบับอีกอย่างก็คือความสัมพันธ์ของตัวละคร อาจจะด้วยวัฒนธรรมที่ต่างกันของสองชาติหรือเปล่าไม่แน่ใจนะ แต่รู้สึกว่าของต้นฉบับความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนจะมีระยะห่างกันพอสมควร แต่ของเวอร์ชั่นนี้มันดูเป็นเพื่อนแบบที่เป็นเพื่อนกันจริงๆเล่นหัวกันได้

จุดนี้มันเลยทำให้อารมณ์ตอนดูตัวละครเอกของสองเวอร์ชั่นมันแตกต่างกันไปบ้าง ของต้นฉบับนั้นเราจะดูว่า อิชิโกะ นั้นอยู่ตามลำพังมีความเหงาเปล่าเปลี่ยวอยู่บ้าง แต่กับเวอร์ชั่นนี้ด้วยความที่ ฮเยวอน มีเพื่อนที่แวะเวียนมาหามาอยู่ใกล้ๆมีกิจกรรมให้ทำร่วมกันตลอด เราจึงไม่รู้สึกเหมือนเธออยู่ตัวคนเดียวเลย

ฉากธรรมชาติหรือโลเกชั่นต่างในหนัง เอาจริงๆเวอร์ชั่นเกาหลีก็ถือว่าเลือกมาได้สวยมากๆแล้วนะ แต่หากจะพูดกันแบบไม่ต้องเกรงใจแฟนคลับประเทศไหนต้องยอมรับเลยว่า ฉากธรรมชาติแต่ละฉากของเวอร์ชั่นญี่ปุ่นสวยกว่าเอามากๆเลย ในแต่ละฤดูที่ผ่านไปจะต้องมีซีนที่โชว์ความสวยงามของฤดูนั้นๆออกมาให้ได้เห็นตลอด
      ส่วนเนื้อหาหลักใหญ่ใจความที่หนังสื่อสารเหมือนๆกันก็คือ ความสำนักรักบ้านเกิด ถามว่าการอยู่ในเมืองใหญ่ที่มีความเจริญมันสะดวกสบายในการหารายได้ก็จริง แต่มันก็แลกมากับอะไรหลายอย่างในการเป็นคนเมือง การที่ต้องแก่งแย่งแข่งขัน ชีวิตที่เร่งรีบ การถูกเอารัดเอาเปรียบ ซึ่งมันไม่ผิดนะที่ใครจะเลือกใช้ชีวิตแบบนั้น เพียงแต่บางคนที่เขาเลือกจะหลีกหนีปัญหาเหล่านี้ เพื่อกลับบ้านเกิดไปใช้ชีวิตที่เรียบง่ายไม่ต้องแข่งขันกับใครเขาก็ไม่ผิดเช่นกัน

สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะอยู่ในเมืองหรือชนบททุกคนก็ต่างต้องดิ้นรนทำงานทำมาหากินอยู่ดี เพราะการทำเกษตรมันก็ไม่ใช่ง่าย เมื่อมีปัจจัยธรรมชาติหลายอย่างที่อาจไม่เป็นใจเช่นกัน การจะเลือกใช้ชีวิตที่ไหน มันก็แค่คนเราเหมาะกับอะไร ต้องชั่งน้ำหนังระหว่าง สิ่งที่ได้มามันคุ้มค่ากับที่สูญเสียไปหรือเปล่าก็เท่านั้น

เนื้อหาอีกส่วนที่ถูกเพิ่มเข้ามาแบบเป็นน้ำจิ้มในเวอร์ชั่นใหม่นี้ก็คือ แง่มุมของความรักกุ๊กกิ๊ก ที่อาจจะไม่ถึงกับลงรายละเอียดชัดเจนมากจนกลายเป็นหนังโรแมนซ์ แต่ก็ถือว่าเพิ่มสีสันให้กับหนังได้พอสมควร ส่วนบทสรุปของหนังเหมือนกันหรือเปล่าคงไม่สปอย แต่บอกได้ว่ามีความแตกต่างในในรายละเอียดพอสมควร
      สรุปแล้ว Little Forest (2018) เป็นหนังรีเมคที่อาจจะลงรายละเอียดน้อยกว่าต้นฉบับ แต่หากมองกับที่ความบันเทิงดูง่ายแล้วล่ะก็ หนังก็ตอบโจทย์ส่วนนี้ได้ดี ต่างจากต้นฉบับที่ถ่ายทอดเรื่องราวแบบ ละเมียดละไม นุ่มนวล ต่อนยอน แต่จะให้บอกว่าแบบไหนดีกว่ากันมันก็คงแล้วแต่รสนิยมของคนนั้นๆว่าจะชอบการถ่ายทอดเรื่องราวในสไตล์ไหน

ขอบคุณเครดิตรูปภาพจากภาพยนตร์ : Little Forest (2018)

#MovieReview #รีวิวหนัง




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: #Alive (2020)

 #Alive (2020) คนเป็นฝ่านรกซอมบี้ Screenwriter & Director:   Jo Il Hyung       ตั้งแต่ทั่วโลกได้รู้จักกับ Train to Busan ก็ต้องบอกว่า ไม...