วันพฤหัสบดีที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2563

Hidamari ga Kikoeru (2017) จนกว่าฉันจะได้ยินเสียงที่อบอุ่นเหมือนแสงอาทิตย์

 Hidamari ga Kikoeru (2017) จนกว่าฉันจะได้ยินเสียงที่อบอุ่นเหมือนแสงอาทิตย์

#ปีนรั้วรีวิว #ROmance #Drama Director: Daisuke Kamijô
      ไทชิ (Akira Onodera) นักศึกษาผู้จนกรอบแถมขี้โวยวาย เจ้าตัวแทบไม่มีแม้กระทั่งเงินจะซื้อข้าวกลางวันกิน วันหนึ่งเขาได้พบเข้ากับ โคเฮย์ (Hideya Tawada) นักศึกษาคนหนึ่งที่ปลีกตัวมานั่งกินข้าวตามลำพังโดยบังเอิญ แล้วไม่รู้ ไทชิ คิดยังไงเดินตรงดิ่งเข้าไปทักทาย แถมยังทำท่าทางหิวโซมาเต็มที่ จะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ โคเฮย์ ก็ตัดสินใจยื่นกล่องข้าวในมือให้กับ ไทชิ แล้วก็เดินหายหนีไปจากตรงนั้น

ในวันรุ่งขึ้น ไทชิ กลับมายังสวนสาธารณะที่เดิมอีกครั้งเพื่อนำกล่องข้าวมาคืน เขาได้เจอกับ โคเฮย์ ทั้งยังรู้ความจริงด้วยว่าเพื่อนใหม่คนนี้มีความบกพร่องทางการได้ยินเสียง แต่กลายเป็นว่า โคเฮย์ กลับสามารถได้ยินเสียงของ ไทชิ ได้เกือบเป็นปรกติ เขาจึงยื่นข้อเสนอให้กับ ไทชิ ทำหน้าที่จดบันทึกการสอนในห้องเรียนแทนเขา แลกกับการที่ โคเฮย์ จะนำอาหารกลางวันมาเป็นของแลกเปลี่ยน แน่นอนว่า ไทชิ รีบตกปากรับคำในทันที

ตั้งแต่วันนั้นทั้งสองคนเริ่มสนิทสนมกันมากขึ้นเรื่อย ๆ และ ไทชิ ก็ได้รับรู้ความลำบากใจของ โคเฮย์ เมื่ออาการป่วยมันเป็นอุปสรรคการใช้ชีวิตและการมีเพื่อน เพียงแต่เมื่อ ไทชิ ยิ่งแสดงออกถึงความเห็นอกเห็นใจ โคเฮย์ มากเท่าไหร่ ความรู้สึกของ โคเฮย์ ก็เริ่มเปลี่ยนจากคำว่าเพื่อนไปเป็นความรู้สึกลึกซึ้งมากกว่านั้นขึ้นทุกที
      หนังวายจากญี่ปุ่นที่สร้างจากมังงะของ Yuki Fumino ส่วนฉบับหนังเรื่องนี้ทำออกมาสั้น ๆ เพียงแค่ 1.12 ชั่วโมงเท่านั้น จะว่าไปมันก็พอดีนั่นแหละ เมื่อเนื้อเรื่องมันก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย เป็นเพียงจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ ในระยะแรกของคนสองคนเท่านั้

หนังสร้างคาแรคเตอร์ ไทชิ ให้เป็นคนขี้โวยวายชอบพูดเสียงดัง จนกลายเป็นความปรกติของตัวเอง ส่วน โคเฮย์ กลายเป็นคนที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน การมาพบกันของทั้งสองคนจึงเหมือนเป็นบุพเพสันนิวาส ที่ความบกพร่องของตัวเองถูกอีกฝ่ายเติมให้เต็ม เมื่อการพูดเสียงดังที่สร้างความรำคาญให้กับคนอื่น มันคือความพอดีสำหรับคนที่มีปัญหาการได้ยินเสียงอย่าง โคเฮย์

การที่ โคเฮย์ พยายามหลีกหนีการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนมาตลอด เพราะเขาไม่สามารถได้ยินเสียงคนอื่นอย่างชัดเจนนั้น ไทชิ จึงกลายมาเป็นคนที่คลายความเหงา ความโดดเดี่ยวของ โคเฮย์ ไปได้บ้าง แต่สิ่งที่ทำให้ความรู้สึกของ โคเฮย์ ไปไกลมากกว่านั้นก็คือ การที่ ไทชิ แสดงออกถึงความเห็นอกเห็นใจเขากับสถานการณ์ที่ได้เจอ ซึ่งไม่เคยมีใครทำแบบนั้นให้กันมาก่อน

ส่วนตัวผมเองมองว่าการที่หนังสร้างให้ตัวละคร โคเฮย์ ที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน แล้วกลายเป็นคนแปลกแยกนั้นเป็นการแสดงเชิงสัญลักษณ์ของตัวละครที่เป็น LGBTQ ที่ด้วยเรื่องเพศของตัวเองนั้น ทำให้เขาต้องปลีกตัวเองมาใช้ชีวิตตามลำพัง คอยมองหาคนที่เข้ากัน และเขาจะสามารถได้ยินเสียงของคนนั้นอย่างชัดเจน
      แต่ที่ตีความไม่ได้และหนังก็ดูจะยังไม่ให้บทสรุปก็คือ ความรู้สึกของ ไทชิ ว่าจริง ๆ แล้วเขารู้สึกอะไรอยู่ข้างใน คิดแค่ว่าเป็นมิตรภาพดี ๆ รู้สึกหวั่นไหว หรือในใจก็ชอบ โคเฮย์ อยู่เหมือนกัน คือถ้าหากเข้าชอบ โคเฮย์ เหมือนกัน การตีความหมายที่ว่า โคเฮย์ รอคนที่พูดแล้วเขาได้ยินเสียงอย่างชัดเจน กับ ไทชิ เจอคนที่ได้ยินเสียงเขาแล้วไม่รำคาญ ก็จะเคลียร์ความหมายว่ามันคือ การได้เจอคนที่ใช่ของคนที่เป็น LGBTQ ได้ชัดเจนขึ้นในประเด็นนี้

หนังออกแนวละมุน โรแมนติก ฉบับ LGBTQ มีเซอร์วิส จุ๊บปากเล็กน้อย ส่วนใหญ่เน้นมิตรภาพ การพัฒนาความสัมพันธ์ของคนสองคน ไม่ได้มีฉากฮาร์ดคอร์อะไร ฉะนั้นคนที่หวังดูอะไรแรง ๆ อาจจะไม่สมหวัง แต่หากชอบโมเม้นต์ผู้ชายแอบรักกัน ค่อย ๆ แทรกซึมเข้าหากันทีละน้อย แบบน่ารักก็น่าจะถูกใจเรื่องนี้ได้เหมือนกัน

สรุปแล้ว Hidamari ga Kikoeru (2017) เป็นหนังวายจากญี่ปุ่นที่ทำออกมาในมุมเรียบง่าย เน้นความสัมพันธ์ตัวละครแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่หวือหวาเซอร์วิสสายวายมากนัก อยู่ในกลุ่มดูเรื่อย ๆ เพลิน ๆ แล้วหนังเองก็ถือว่าสั้นเพียงชั่วโมงเศษ ๆ ก็ถือว่ากำลังดีไม่ยืดยาวอะไรเมื่อเล่าสถานการณ์จุดเริ่มต้นมิตรภาพของคนสองคน
 
ฝากช่องยูทูปรีวิวหนังช่องเล็ก ๆ ด้วยครับผม:  https://www.youtube.com/channel/UCo1Txn08XONf92m_kngztWQ 
 
ขอบคุณเครดิตรูปภาพจากภาพยนตร์ :  Hidamari ga Kikoeru (2017)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: Dreaming Back to the Qing Dynasty (2019)

Dreaming Back to the Qing Dynasty (2019) ฝันคืนสู่ต้าชิง #Drama   #Romance Director: Lee Kwok Lap, Wai Hong Chui, Chen Shu Liang Screenwrite...