วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2563

Love my life (2006) แค่ได้รักคนที่เรารัก

 Love my life (2006) แค่ได้รักคนที่เรารัก

#ปีนรั้วรีวิว #Drama Director: Kôji Kawano
      อิชิโกะ (Rei Yoshii) สาวนักศึกษามหาลัย เธอไม่กลับมานอนบ้าน 3 วันเข้าให้แล้ว นั่นก็เพราะเธอนอนอยู่กับ เอริ (Asami Imajuku) แฟนสาวของเธอนั่นเอง หลังจากที่กลับบ้านไปเจอพ่อ (Ira Ishida) ยิงคำถามเข้าใส่ อิชิโกะ จึงจนมุมและยอมรับว่าเธอไปพักอยู่กับใครบางคน และในที่สุดเธอก็ตัดสินใจพา เอริ เข้ามาพบกับพ่อและบอกว่าทั้งสองคนกำลังคบหากันอยู่ แต่แทนที่คนเป็นพ่อจะตกใจที่ลูกสาวของตัวเองคบกับผู้หญิงด้วยกัน เขากลับไม่ว่าอะไรและยังเต็มใจที่จะให้ทั้งสองคนคบหากัน

กระทั้ง เอริ แยกตัวกลับบ้านไปแล้ว อิชิโกะ จึงได้รู้ความจริง จากปากของคนเป็นพ่อว่าตัวเขาเองนั้นก็เป็นเกย์ เล่นทำเอา อิชิโกะ อึ้งรับประทานไปเลย พ่อของเธอจึงเล่าให้ฟังว่าสมัยเรียนมหาลัยนั้น แม่ของ อิชิโกะ ที่เสียชีวิตจากไปแล้วก็เป็นเลสเบี้ยนเช่นกัน ซึ่งทั้งสองคนเป็นเพื่อนสนิทกันในตอนนั้น ด้วยบริบทของสังคมทั้งสองคนจึงตัดสินใจแต่งงานกันจนมี อิชิโกะ และแม่ของเธอเองก็มีคนรักเป็นผู้หญิงในขณะนั้น

แต่แม้จะผ่านมานานหลายปีแล้ว อิชิโกะกับเอริ เอง ก็เจอปัญหาการยอมรับจากสังคมไม่ต่างจากที่แม่และพ่อเคยเจอมา ไม่ว่าจะครอบครัวของฝั่ง เอริ หรือ ทาเกะจัง (Issey Takahashi) หนุ่มเกย์เพื่อนซี้ของ อิชิโกะ ที่มักจะโดนนินทาในห้องเรียน เขาเองยังมีสาวรุ่นน้องมาแอบชอบ และเข้าใจผิดว่าทั้งสองคนเป็นแฟนกันอีกด้วย
      หนังที่พูดถึงการใช้ชีวิตและค้นหาตัวเองคนคนกลุ่ม LGBTQ ทว่าไม่ใช่ในมุมมองของการสำรวจจิตใจและตัวตนในเรื่องเพศสภาพ แต่เป็นการยอมรับตัวตนและค้นหาทางเดินชีวิตของตัวเอง เมื่อ เอริ คิดว่าการที่เธอจะทำให้ทางบ้านยอมรับในสิ่งที่เธอเป็นได้ คือการเรียนกฎหมายและยืนอยู่ในจุดเดียวกับที่คนในครอบครัวยืนอยู่ แต่กลายเป็นว่า เอริ ไม่แน่ใจว่ามันจะใช่ความฝันที่แท้จริง และสิ่งที่เธออยากทำจริงๆหรือเปล่า หรือเธอเพียงแค่อยากจะเอาชนะพ่อของตัวเองเท่านั้น

อิชิโกะ ที่เป็นนักศึกษาไปเรียนไปเล่นวันๆไม่มีความฝันอะไร เธอคิดแค่เพียงได้อยู่กับคนที่รักอย่าง เอริ แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งเธอเองก็ต้องพยายามหาคำตอบให้กับทางเดินของชีวิตตัวเองให้ได้ว่า เธออยากจะทำอะไรเช่นเดียวกันหลังจากที่จบการศึกษาแล้ว

หนังเรื่องนี้จึงไม่ใช่แค่การพูดถึงเรื่องเพศสภาพและความรักเท่านั้น แต่ยังพูดถึงว่าแม้จะเป็นเพศทางเลือกก็จริง แต่โลกก็ยังหมุนชีวิตก็ยังต้องเดินต่อไป ยังมีเรื่องอื่นให้คิดให้ทำยังมีเรื่องของอนาคต ความใฝ่ฝัน การงาน ให้ต้องนึกถึง ที่ต้องค้นหาตัวเองให้พบเหมือนๆกันไม่ว่าจะเพศไหนก็ตาม

ส่วนคนที่มีประเด็นยอมรับตัวตนของตัวเองและกล้าเปิดตัว คงจะเป็นตัวละคร ทาเกะจัง ของ อิสเซ ทาคาฮาชิ ที่เขาต้องเก็บซ่อนตัวตนเอาไว้ จนมีคนเข้าใจผิดว่าเขาและ อิชิโกะ เป็นแฟนกัน ซึ่งตัวละคร ทาเกะจัง นี้ ในทีแรกก็น่าสงสารอยู่หรอก เพราะเมื่อไม่กล้าเปิดตัวก็เลยต้องอยู่เหงาๆทนดูคู่ของ อิชิโกะกับเอริ หวานกันไป แต่สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจเปิดตัวเพราะดันมีสาวรุ่นน้องมาแอบชอบ มันจึงกลายเป็นเรื่องดีของชีวิตขึ้นมา เมื่อเขาก็ได้เจอคนที่ใช่เช่นกัน

หนังเล่าเรื่องราวแบบเรื่อยๆมาเรียงๆไม่หวือหวาไม่มีดราม่า จะว่าไปความเซอร์วิสชาวเลสเบี้ยนก็ไม่ค่อยมีเท่าไหร่ด้วย กว่าจะมีเลิฟซีนแบบถึงพริกถึงขิงหน่อยก็ปาไปจนฉากสุดท้ายของเรื่องแล้ว เหมือนเป็นหนังสำรวจชีวิตชาว LGBTQ เสียมากกว่าว่า ในช่วงวัยเรียนมหาลัยที่พวกเขาอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อกำลังจะโตเป็นผู้ใหญ่ พวกเขาจะเอายังไงเมื่อชีวิตมันไม่ได้มีแค่เรา ไม่ได้มีแค่เรื่องความรัก แต่เรายังต้องมีความฝัน มีงานที่ต้องทำอีกด้วย

      สรุปแล้ว Love my life (2006) แค่ได้รักคนที่เรารัก เป็นหนังเลสเบี้ยนที่อาจจะไม่เซอร์วิสในแง่มุมความฟินเท่าไหร่นะ ดราม่าก็ไม่ได้จัดหนักอะไร เอาจริงเลิฟซีนระหว่างสองตัวเอกยังรู้สึกว่าไม่ได้จัดเต็มและมีเขินกันพอสมควร แต่หากมองในแง่เรื่องราวก็คิดว่าหนังสะท้อนออกมาได้ดีทั้งในแง่ความรักและการค้นหาเส้นทางเดินของชีวิต
 
ฝากช่องยูทูปรีวิวหนังช่องเล็ก ๆ ด้วยครับผม:  https://www.youtube.com/channel/UCo1Txn08XONf92m_kngztWQ 
 
ขอบคุณภาพประกอบบทความจากภาพยนตร์ :  Love my life (2006)


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: Dreaming Back to the Qing Dynasty (2019)

Dreaming Back to the Qing Dynasty (2019) ฝันคืนสู่ต้าชิง #Drama   #Romance Director: Lee Kwok Lap, Wai Hong Chui, Chen Shu Liang Screenwrite...