Hunter Killer (2018) สงครามอเมริกาผ่ารัสเซีย
#ปีนรั้วรีวิว #Action #Thriller Director: Donovan Marsh
เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นกับเรือดำน้ำสหรัฐอเมริกา USS Tampa Bay กับเรือดำน้ำของรัสเซีย โดยที่รัฐบาลของทั้งสองชาติต่างไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเรือดำน้ำของตัวเอง ทางการอเมริกาจึงตัดสินใจเรียกตัว กัปตัน โจ กราส (Gerard Butler) กัปตันเรือที่กำลังอยู่ในขณะพักร้อน มาบัญชาการเรือดำน้ำ USS Arkansas เพื่อปฏิบัติการค้นหาเรือดำน้ำ USS Tampa Bay ที่ขาดการติดต่อไปและอีกด้านหนึ่งกองทัพอเมริกายังส่งทีมกล้าตายเข้าไปหาข่าวในพื้นที่ของรัสเซีย จนได้รู้ความจริงที่ว่าเกิดการรัฐประหารอำนาจของประธานาธิบดีรัสเซียคนปัจจุบัน และรัฐมนตรีกลาโหมของรัสเซียก็มีเป้าหมายในการเปิดสงครามกับอเมริกา จากแผนการค้นหาเรือดำน้ำธรรมดาจึงเปลี่ยนมาเป็นยุทธการกู้โลก เพื่อช่วยเหลือไม่ให้ทั้งสองชาติเผชิญหน้ากันจนเกิดสงครามโลกครั้งใหม่
หนังปฏิบัติการรบที่มาครบทั้งการรบใต้น้ำและบนบก สลับกับความเข้มข้นของการตัดสินใจจากข้อมูลที่ได้รับของเหล่าผู้บัญชาการ ว่าพวกเขาจะเลือกตัดสินใจแบบไหนในวิกฤติการณ์ครั้งนี้ที่มีโลกทั้งใบเป็นเดิมพัน หากตัดสินใจพลาดเพียงนิดเดียวเท่ากับว่าพวกเขาจะเข้าสู่สงครามเต็มรูปแบบในทันที
ในส่วนของปฏิบัติการณ์เรือดำน้ำใต้การบังคับบัญชาของกัปตันโจ ที่รับบทโดย เจอราร์ด บัตเลอร์ นั้น เรียกได้ว่าความสามารถและการตัดสินใจของเขาแต่ละอย่าง ยังกะเทพทรูเติมเงินมาไม่อั้นเลยที่เดียว เมื่อการบังคับบัญชาควบคุมเรือดำน้ำก็เรียกได้ว่าโอเวอร์แบบสุดๆ อย่างกับดริฟเรือดำน้ำได้ขนาดนั้นเลย ฮ่าฮ่า การตัดสินใจในยามคับขันก็แนวขบถขวางโลกแต่ก็เชื่อมั่นในความดี เป็นฮีโร่อเมริกันแบบพิมพ์นิยมมาเลย ส่วนปฏิบัติการณ์บนบกนั้นแทบจะเรียกได้ว่าเป็นปฏิบัติการฆ่าตัวตายชัดๆ เมื่อกองทัพส่งทีมทหารเพียง 4 นายเข้าไปสอดแนมในกองทัพรัสเซีย จากที่ในตอนแรกได้รับภารกิจหาข่าวเท่านั้น กลายเป็นว่าหน้าที่ใหม่ของพวกเขาก็คือ ภารกิจช่วยเหลือประธานาธิบดีของรัสเซียแทน ฉากแอคชั่นบนบกของเรื่องนี้ ถือว่าทำได้สนุกตามมาตรฐานไม่ต่างจากเรื่องอื่น แต่ก็ไม่ได้มีอะไรที่โดดเด่นหรือน่าจดจำอะไร
ความสนุกตื่นเต้นของเรื่องนี้จึงกลายเป็นสถานการณ์กดดันต่างๆในเรื่อง ไม่ว่าจะการตัดสินใจของกัปตันโจและการตัดสินใจของเหล่าผู้บัญชาการในห้องประชุม ที่การตัดสินใจแต่ละอย่างมันหมายถึงอนาคตของโลกใบนี้ แต่ด้วยความที่หนังมันพล็อตฮีโร่อเมริกันจ๋ามาแต่ไกล ฉะนั้นแล้วหนังเองก็ดำเนินไปตามขนบ แบบที่คาดเดาอะไรไปก็ไม่มีผิดหรอก คงรู้กันอยู่แล้วว่าหนังจะลงเอยอย่างไร
เป็นหนังยุทธการเรือดำน้ำที่ตอบโจทย์ความบันเทิงได้ดีเรื่องหนึ่ง แม้อาจจะไม่ถึงกับเรียกได้ว่าดีงามหรือมีพลังการแสดงที่ยอดเยี่ยมของดารา เหมือนกับหนังเรือดำน้ำเรื่องเด่นๆก่อนหน้านี้ อย่าง U-571 (2000) ดิ่งเด็ดขั้วมหาอำนาจ , K-19: The Widowmaker (2002) ลึกมฤตยู นิวเคลียร์ล้างโลก, The Hunt for Red October (1990) ล่าตุลาแดง และ Crimson Tide (1995) คริมสัน ไทด์ ลึกทมิฬ ที่ส่วนใหญ่ไม่ได้เน้นขายแอคชั่น แต่มีพลังที่ดาราและความดราม่ากดดันในสถานการณ์คับขันเป็นหลัก สรุปแล้ว Hunter Killer (2018) สงครามอเมริกาผ่ารัสเซีย เป็นหนังปฏิบัติการณ์เรือดำน้ำที่ขอใช้คำว่า “บันเทิง” ก็แล้วกัน ด้านเนื้อหาหรือว่าบทอาจจะไม่ได้มีอะไรใหม่ ยังยึดถือความเป็นฮีโร่อมริกาเป็นตัวนำ แต่หนังเองก็ทำได้ตามมาตรฐานอย่างที่ควรทำได้ทุกอย่าง มันเลยออกมาสนุกครบรส ทำให้คนดูได้ลุ้นระทึกไปกับหนังได้ แม้จะเดาได้ก็ตามว่าหนังจะลงเอยในแบบไหนก็ตาม
ฝากช่องยูทูปรีวิวหนังช่องเล็ก ๆ ด้วยครับผม: https://www.youtube.com/channel/UCo1Txn08XONf92m_kngztWQ
ขอบคุณภาพประกอบจากภาพยนตร์ : Hunter Killer (2018)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น