วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2563

The Beauty Inside 뷰티 인사이드 (2018)

 The Beauty Inside 뷰티 인사이드 (2018) TV Series 16 EP

#ปีนรั้วรีวิว #Romance #Drama #Fantasy
      ฮันเซกเย (Hyeon-jin Seo) ซุปตาร์ดาราสาวสุดฮอตที่มีข่าวฉาวไม่เว้นวัน ไม่ว่าจะเป็นการที่เธอแอบซุกแฟนซุกลูกเอาไว้ หรือการที่เธอชอบเบี้ยวหนีงานเป็นประจำ ไม่เว้นกระทั่งงานล่าสุดอย่างการได้รับรางวัลนักแสดงของตัวเอง เธอก็โดดลงจากเวทีวิ่งหนีหายไปหน้าตาเฉยท่ามกลางความงุนงงของทุกคน แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่าไอ้ที่เธอต้องหนีหายไปทุกครั้งเนี่ย

มันเป็นเพราะโรคประหลาดที่จะเกิดขึ้นกับเธอเดือนละหนึ่งอาทิตย์ เมื่อ เซกเย จะต้องเปลี่ยนไปกลายเป็นคนละคน ไม่ว่าจะ อายุ เพศ หรือใบหน้า มันจึงสร้างเรื่องให้คนภายนอกเข้าใจผิดเธอมาตลอด จะมีก็แต่เพียง ยูอูมิ (Moon Ji-In) และ รยูอึนโฮ (Jae-Hyun Ahn ) สองเพื่อนซี้เท่านั้นที่รับรู้เรื่องราวของเธอ อ่อ…ยังรวมถึงเจ้า กิงกัง หมาน้อยของเธออีกด้วย

ด้วยความที่ระยะหลัง เซกเย เริ่มมีข่าวเสียหายบ่อยขึ้นจนสปอนเซอร์เริ่มถอนตัว รวมทั้งสายการบินหนึ่งซึ่งเธอเป็นนางแบบให้ก็เริ่มเกิดอาการไม่พอใจ ผอ.ของสายการบินอย่าง ซอโดแจ (Min-ki Lee) จึงต้องออกหน้ามาแก้ไขปัญหานี้ด้วยตัวเอง แต่เรื่องราวมันอลเวงตรงที่ว่า ซอโดแจ เองกลับมีอาการป่วยเป็น ภาวะไม่รู้ใบหน้า (Prosopagnosia)

ทำให้เขาที่พยายามตามหา ฮันเซกเย ได้ล่วงรู้ความลับของเธอ ไม่ต่างจาก เซกเย ที่รู้ความลับของเขาเช่นเดียวกัน ทั้งสองคนจึงต้องทำสัญญาหลอกๆขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น แต่กลายเป็นว่ายิ่งพวกเขาเข้าใกล้กันมากเท่าไหร่ ความเข้าใจในเรื่องโชคร้ายที่ได้เจอมันก็ค่อยๆเปลี่ยนแปลงความรู้สึกไปทีละน้อย
      ซีรีส์ที่หยิบไอเดียจากหนัง The Beauty Inside (2015) ของนางเอก ฮันฮโยจู มาต่อยอดขยายเรื่องราวมากขึ้นไปอีก หลังจากดูจบแล้วส่วนตัวผมมองว่าฉบับซีรีส์ที่มีเวลาในการขยายเรื่องราวมากขึ้น ตีโจทย์หลายๆอย่างได้ดีนะ เมื่อฉบับหนังนั้นไม่ได้สื่อถึงความเป็น The Beauty Inside มากเท่าไหร่ แต่เน้นเนื้อหาชวนหน่วง เศร้า เสียมากกว่า กับฉบับซีรี่ย์หนังขยายความหมายได้ดี เมื่อสื่อให้เห็นว่าความรักนั้น แม้จะมีรูปลักษณ์ภายนอกประกอบก็จริง แต่สิ่งที่ทำให้สองคนรักกันจริงๆนั้นมันอยู่ที่ความสวยงามข้างใน

ซึ่งฉบับซีรีส์ลงรายละเอียดส่วนนี้ค่อนข้างเยอะเหมือนกัน เมื่อให้ ฮันเซกเย ที่ไม่เคยพอใจสักครั้งในเวลาที่กลายเป็นคนอื่น แล้วมักเก็บตัวอยู่ลำพังและปล่อยให้เวลาผ่านไป ได้พบกับประสบการณ์ชีวิต ในการใช้รูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไปนั้นแก้ไขให้ความช่วยเหลือผู้อื่น ซึ่งแต่ละอย่างที่เธอทำลงไป มันสะท้อนให้เห็นถึงตัวตนจริงๆของเธอที่ออกมาจากข้างใน ส่วนตัวผมเองเลยชอบพาทนี้ของซีรีส์ เพราะฉบับหนังนั้นตกหล่นประเด็นนี้ไปพอสมควร

ซีรีส์ขยายความดราม่าจากฉบับหนังเพิ่มขึ้นจากการที่ให้พระเอก เปลี่ยนไปเป็นคนละคนในทุกวันเพียงอย่างเดียว จนเกิดปมในใจของคนรักที่กลายเป็นความเครียดสะสมเมื่อไม่สามารถจดจนเขาได้ ฉบับซีรีส์ลดโจทย์ลงด้วยการให้นางเอกเปลี่ยนแค่เดือนละ 7 วัน แต่เพิ่มโจทย์ใหม่เข้ามาด้วยการให้พระเอกมีภาวะไม่รู้ใบหน้า จริงๆอาจจะดูเหมือนว่าฟ้าสร้างให้พวกเขามาคู่กันนะ เมื่อคนหนึ่งเปลี่ยนไปแต่อีกคนไม่มีผลกระทบอะไรเพราะจำไม่ได้อยู่แล้ว แต่หนังก็มีปมให้เกิดเรื่องราวระหว่างทั้งคู่อยู่ดี ไม่สปอยแล้วกันยังไงก็น่าจะพอเดากันได้อยู่แล้ว

ในช่วงแรกสารภาพตามตรงว่าไม่อินกับความรักของคู่พระนางเท่าไหร่ ดูปุ๊บปั๊บรับโชคยังไงก็ไม่รู้ แต่พอดูไปเรื่อยๆหนังก็แก้ไขจุดนี้ได้ดีนะ เมื่อหากิมมิคใส่เข้ามา ให้คนดูรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องของโชคชะตาของทั้งสองคน ที่จู่ๆก็เข้ามาในชีวิต จู่ๆก็ทำดีให้กัน จู่ๆก็ทำให้รัก แล้วจู่ๆก็หายไป แล้วพอผ่านช่วงแรกไปก็ใส่โมเมนต์ของคนรักกันเข้ามา ซึ่งเป็นอีกส่วนเล็กๆที่ชอบนะ เมื่อพูดถึงการมาอยู่เคียงข้างคนรัก ในยามที่เขาหรือเธอต้องการใครสักคน

นอกจากเรื่องรักไคร่แล้วซีรีส์ยังมีซับพล็อตอื่นๆอย่างเรื่อง ครอบครัวความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้อง เรื่องราวความรักระหว่างเพื่อน และความรักของคู่รองอย่าง คังซารา (Da-hee Lee) กับ รยูอึนโฮ ที่มีความไม่ลงตัวเนื่องจากพระผู้เป็นเจ้า 

ตอนเห็นแคสคู่พระนางที่แรกเอาตรงๆแอบคิดเหมือนกันนะว่าไม่ถูกใจเท่าไหร่ แต่พอได้ดูแล้วบทของ อีมินกิ ก็พอโอเคเหมาะอยู่ เนื่องจากต้องแสดงเป็นคนเงียบขรึมมีปมจากความป่วยของตัวเอง ส่วนบท ฮันเซกเย ของ ซอฮยอนจิน พอได้เห็นเธอแสดงเต็มๆ อาจจะไม่ใช่คนที่สวยมากหรือน่ารักโดดเด่นอะไร แต่เวลาพูดหรือยิ้มบอกเลยว่ามีเสน่ห์มาก

      สรุปว่า The Beauty Inside (2018) TV Series เป็นซีรีส์ที่อาจจะไม่ฟินขั้นสุดหรือดราม่าหนักหน่วง แต่ภาพรวมนั้นบอกได้เลยว่าเป็นเรื่องหนึ่งที่ทำออกมาได้ดี น่ารักมากๆ ดูไปยิ้มไปได้ตลอด กับความสัมพันธ์ของตัวละคร มุกตลกที่หยอดกันไปมา มันให้ความรู้สึกว่าเออแบบนี้แหละที่คนเป็นเพื่อนกันหรือคนเป็นแฟนกันเขาพูดกัน มันดูกำลังพอดีไม่มากไม่น้อยเกินไป ใครชอบดูอะไรเพลินๆง่ายๆไม่ดราม่าเกินไปสนุกกำลังดี เนื้อหาไม่กลวง หากยังไม่ได้ดูก็เป็นอีกเรื่องที่แนะนำว่าไม่ควรพลาด
 
ฝากช่องยูทูปรีวิวหนังช่องเล็ก ๆ ด้วยครับผม:  https://www.youtube.com/channel/UCo1Txn08XONf92m_kngztWQ 
 
ขอบคุณภาพประกอบจากซีรีส์ :  The Beauty Inside 뷰티 인사이드 (2018)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: Dreaming Back to the Qing Dynasty (2019)

Dreaming Back to the Qing Dynasty (2019) ฝันคืนสู่ต้าชิง #Drama   #Romance Director: Lee Kwok Lap, Wai Hong Chui, Chen Shu Liang Screenwrite...