วันเสาร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

Review: Less than Evil (MBC/2018)

 Less than Evil (MBC/2018) 32EP

#ปีนรั้วรีวิว #Crime #Drama
      อูแทซอก (Shin Ha-Kyun) นายตำรวจเลือดบ้าที่สามารถทำได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะรุนแรงแค่ไหนหรือผิดกฎหมายก็ตาม หากมันทำให้เขาสามารถตามจับคนร้ายได้ อูแทซอก คนนี้ก็จะทำ หลังจากคดีล่าสุดของเขาจบไปได้ไม่นาน แทซอก ได้เจอกับใครบางคนที่คุ้นตาในอดีต ชายคนนั้นก็คืออัยการ จางฮยอนมิน (Kim Gun-Woo) เพียงแต่ภาพจำของ แทซอก ที่มีต่ออัยการคนนี้ก็คือ ฆาตกรที่ฆ่าใครบางคนที่เขาสัญญาว่าจะปกป้องเอาไว้ให้ได้
หลังจากที่ อูแทซอก รู้ถึงการกลับมาของศัตรูคู่แค้น จึงพยายามตามสืบเรื่องราวของ จางฮยอนมิน อีกครั้ง

แน่นอนว่าฆาตกรอย่าง จางฮยอนมิน เองก็ไม่ได้หยุดออกล่าเหยื่อ เมื่อเป้าหมายรายใหม่ของเขาคือ ภรรยาของตำรวจรายหนึ่งที่ถูกลักพาตัวไปจากบ้าน อูแทซอก ที่อยากแก้ไขความผิดพลาดจากเรื่องราวในอดีต จึงต้องพยายามหาทางช่วยชีวิตเหยื่อเอาไว้ให้ได้ และจัดการกับโจทย์เก่าอย่าง จางฮยอนมิน ให้ได้รับโทษอย่างสาสม

เพียงแต่เรื่องราวความแค้นระหว่างเขากับจางฮยอนมิน ดันมีตัวแปรที่ไม่คาดคิดมาก่อนนั้นก็คือ นักข่าวสาว อึนซอนแจ ที่ให้ความสนใจในตัว นักสืบอูแทซอก เป็นพิเศษ แล้วไม่นานนัก อูแทซอก ก็ได้ล่วงรู้ถึงความลับของนักข่าวสาวคนนี้ ที่ทำให้เขาได้นึกย้อนถึงความผิดพลาดในอดีตขึ้นมาอีกครั้ง
Less than Evil เป็นซีรี่ส์ที่สร้างจากซีรี่ส์อังกฤษ "Luther" ออกอากาศทางช่อง BBC ที่ได้ ไอดริส เอลบ้า แสดงนำในบท จอห์น ลูเทอร์

      ก่อนอื่นข้อกล่าวถึงข้อดีของซีรี่ส์ก่อนก็แล้วกัน Less than Evil จัดเป็นซีรี่ส์ สืบสวน ระทึกขวัญ ที่เน้นความบันเทิงแบบจัดเต็ม เมื่อสามารถสร้างสารพัดสถานการณ์ตื่นเต้นชวนลุ้นอยู่ได้ตลอดเวลา แล้วข้อได้เปรียบอย่างหนึ่งของเรื่องนี้ก็คือ ตัวเอกอย่าง อูแทซอก นั้นเป็นพวกไม่สนวิธีการ แน่นอนว่าคนดูจึงได้เห็นสารพัดการเล่นนอกกติกาของเขา ที่ทำได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะอัดคนร้าย สร้างหลักฐานเท็จ เพียงเพื่อต้องการเอาคนร้ายเข้าคุกให้ได้ เป็นแนวทางที่คนชอบอะไรสะใจ เน้นผลลัพธ์ มากกว่าวิธีการน่าจะถูกใจกับเรื่องนี้

ข้อถัดมาก็คือคาแรคเตอร์ตัวละครที่แข็งแรง ชัดเจน ซีรี่ส์เลือกวิธีการดำเนินเรื่องแบบตรงไปตรงมา ไม่มีการมาสับขาหลอกคนดู ซ่อนความลับอะไรให้น่าปวดหัว ในเมื่อไม่ได้เน้นที่การสืบสวน เพราะไม่ได้ปกปิดความลับหรือตัวตนของคนร้าย คนดูอย่างเรา ๆ จึงไม่ต้องไปสนใจกับการคาดเดาเนื้อหาอะไรมากเลย แต่ในมุมกลับกันจะว่าไปก็แอบน่าเบื่อนิด ๆ เมื่อเนื้อหาของซีรี่ส์อ่านออกง่ายไปหน่อย

การกระจายบทก็ทำได้ดีเมื่อตัวประกอบต่างก็ได้แอร์ไทม์ตามสมควร ต่างมีหน้าที่ของตัวเองไม่รู้สึกว่าโดนตัวละครเอกบทบังจนมิด เมื่ออยู่ร่วมฉากเดียวกัน อย่าง แชดองยุน (Baro) ตำรวจหนุ่มที่ถูกหน่วยงานระดับสูงส่งมาคอยจับตาดู อูแทซอก ก็ทำได้ดีกับบทบาทที่เขาต้องมอง อูแทซอก เป็นลูกพี่ใหญ่ เป็นไอดอลที่เขาอยากจะไปให้ถึงในจุดเดียวกัน

ส่วนบทบาทของตัวละครนำ อูแทซอก หากว่ากันที่รูปร่างแล้ว อาจดูไม่น่าเชื่อถือว่าจะเป็นสายบู๊ได้ เมื่อออกจะไม่ได้มีรูปร่างสูงใหญ่น่าเกรงขามเท่าไหร่ ยิ่งหากเทียบกับ ไอดริส เอลบ้า ในต้นฉบับด้วยแล้ว แต่หากว่ากันที่การแสดงออกทางสีหน้าแววตา ชินฮาคยุน ก็ทำออกมาได้ไม่มีที่ติ

แต่คนที่ทำได้ประทับใจสุดเลยก็คือ อีซอล ในบท อึนซอนแจ ที่แสดงได้แบบถูกใจเอามาก ๆ กับบทบาทที่จำอดีตของตัวเองไม่ได้ แต่ก็รู้ว่าในอดีตของตัวเองนั้นมีความเกี่ยวข้องกับ อูแทซอก ผู้ชายที่อาจจะเคยทำผิดต่อเธออย่างไม่น่าให้อภัย หรือกระทั้งตัวเธอเองก็อาจะเคยทำผิดต่อคนอื่นเช่นกัน แถมเธอยังตกเป็นผู้ต้องสงสัยเบอร์หนึ่งในคดีฆาตกรรมที่ อูแทซอก ทำอยู่ด้วย

แต่ อึนซอนแจ กลับเกิดความรู้สึกประหลาดที่ไม่ควรเกิดขึ้นกับ อูแทซอก เมื่อจะรักก็ไม่ได้ ให้อภัยก็ทำไม่ได้ จะเกลียดก็ทำไม่ลง ชอบที่สุดก็คือ บทสนทนาสุดท้ายระหว่าง อูแทซอกกับอึนซอนแจ ที่แม้ตัวละครจะแสดงออกด้วยท่าที เย็นชา สงบนิ่ง แต่มันพรั่งพรูความรู้สึกในใจออกมาหมดจดจริง ๆ

ว่ากันในส่วนที่ไม่ค่อยถูกใจกันบ้างกับคนอื่นไม่รู้คิดเห็นอย่างไรนะ แต่ส่วนตัวผมมองว่าแม้ช่วง 20 EP แรกจะสนุกก็จริง แต่ผมว่าบทค่อนข้างพังพอสมควร ยิ่งกับตัวละครร้ายหลักของช่วงนั้นอย่าง จางฮยอนมิน ที่ซีรี่ส์พยายามชุบชีวิตลากไปต่ออยู่ได้ ซึ่งการทำแบบนี้มันต้องทำลายความสมเหตุผล ต้องใช้บทเข้าช่วยสร้างสถานการณ์ ลมเพลมพัด โชคชะตาไม่เป็นใจเยอะเหลือเกิน เพื่อแถให้ตัวละครนี้ไปต่อ

แล้วไม่รู้ยังไง จู่ ๆ ซีรี่ส์ก็กลับเข้าฝั่งเฉย อย่างกับเปลี่ยนผู้กำกับหรือคนเขียนบท หลังจากที่จบเรื่องราวของ จางฮยอนมิน แทบจะกลายเป็นซีรี่ส์คนละเรื่องกันเลย จากที่ อูแทซอก สืบสวนทำคดีแบบเละเทะ ใช้แต่อารมณ์ในช่วงแรก กลับกลายเป็นคนคิดอะไรรอบคอบ เป็นจอมวางแผนไปซะอย่างนั้น ซึ่งมันก็สนุกกันคนละแบบกับ 20 ตอนแรกที่เน้นความดุเดือด ระห่ำแตก

แต่พอหลังจากนั้นกลายมาเป็นหนังสืบสวนเต็มรูปแบบแทน ที่แต่ละการกระทำมีเหตุผล มีที่มาที่ไปรองรับ ทำให้แม้จะไม่บันเทิงมากเท่ากับช่วงแรก แต่อารมณ์ตอนดูไม่หงุดหงิด แกว่งไปมาไม่มั่นคง รู้สึกว่าเรื่องราวมันน่าติดตามมากว่า ไม่อยากกดข้ามเหมือนช่วงแรก ๆ เลย สารภาพว่าเกือบ ๆ จะเทแล้วเหมือนกันตอนดูไปสิบกว่าตอน

      สรุปแล้ว Less than Evil (MBC/2018) 32EP เป็นซีรี่ส์สืบสวนสายบันเทิง ที่หากคนเป็นคอซีรี่ส์สืบสวนเกาหลี ที่พอจะรับกับความลำไยของบทได้บ้าง ก็น่าจะถูกใจกับรสชาติใหม่ของการสืบสวนคดีแบบนอกเหนือกฎเกณฑ์ แม้เนื้อหาจะคาดเดาไม่ยากแต่ด้วยคาแรคเตอร์ที่แข็งแรง ก็ช่วยดึงความสนใจของเราได้พอสมควรว่าสุดท้ายแล้ว พวกเขาจะมีบทสรุปลงเอยกันอย่างไร เมื่อ รักก็ไม่ได้ อภัยก็ทำไม่ได้ เมื่อแค่เชื่อใจยังทำไม่ได้เลย
 
ขอบคุณภาพประกอบจากภาพยนตร์: Less than Evil (MBC/2018)
 
ฝากช่องยูทูปรีวิวหนังช่องเล็ก ๆ ด้วยครับผม:  https://www.youtube.com/channel/UCo1Txn08XONf92m_kngztWQ 
 

#SeriesReviwe #รีวิวซีรี่ส์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: All of Us Are Dead (2022)

 All of Us Are Dead (2022) มัธยมซอมบี้ Screenwriter:  Chun Sung Il Director:  Lee Jae Gyoo       ซีรีส์เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในโรงเรียนมัธ...