วันเสาร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

Review: Hibiki (2018)

 Hibiki (2018) ฮิบิกิ

#ปีนรั้วรีวิว #Drama Director: Shô Tsukikawa
      ฮิบิกิ อาคุอิ (Yurina Hirate) สาวน้อยมัธยมปลายผู้มีพรสวรรค์ในการแต่งนิยาย แต่ถึงจะเห็นว่าเธอเป็นเด็กแว่นเงียบ ๆ อีกด้านของ ฮิบิกิ กลับเป็นคนอ่อนไหวจุดเดือดต่ำ ถูกกระตุ้นต่อมโมโหได้ง่าย ๆ ทำให้ตั้งแต่วันแรกที่เด็กใหม่อย่างเธอเข้าไปสมัครชมรมวรรณกรรม ก็สร้างวีรเวรหักนิ้วรุ่นพี่จนพวกเขาหนีออกไปจากชมรมกันหมด

ฮิบิกิ ได้เขียนนิยายเรื่องสวนเทพนิยาย เพื่อส่งเข้าประกวดงานนักเขียนหน้าใหม่ โมคุเร็น แต่เจ้ากรรม…เธอดันไม่อ่านกติกาการส่งผลงานเข้าประกวด ทำให้ผลงานของเธอเกือบจะถูกโยนลงถังขยะไปเสีย แต่ยังโชคดีที่ได้ ฟูมิ ฮานาอิ (Keiko Kitagawa) บก.ของสำนักพิมพ์ที่จิตวิญญาณแรงกล้าหยิบมาเปิดอ่านเสียก่อน ฮานาอิ ชื่นชอบสวนเทพนิยายของ ฮิบิกิ เป็นอย่างมาก จึงพยายามที่จะผลักดันผลงานของเธอให้ได้ตีพิมพ์ แต่ปัญหามันอยู่ที่ ฮานาอิ ไม่รู้ว่าจะติดต่อกับ ฮิบิกิ ได้ยังไง และวันส่งผลงานเข้าประกวดมันก็กระชั้นเข้ามาทุกที

เอาเรื่องย่อประมาณนี้ก็แล้วกัน แล้วก่อนอื่นเลยก็ขอออกตัวว่าไม่เคยอ่านฉบับมังงะของ Mitsuharu Yanamoto มาก่อน ซึ่งเท่าที่เคยอ่านบางความเห็นผ่านตามา หลายคนก็ชื่นชอบกันพอสมควร ส่วนตัวผมเองเลยขอว่ากันเฉพาะความเป็นหนังแล้วกันครับ
      หลังจากดูจบแล้วเป็นอะไรที่ออกมาก่ำกึ่งมาก ๆ คือจะว่าหนังสนุกไหมมันก็สนุกนะ และเหมือนจะมีอะไรบางอย่างที่พยายามสื่อสารกับคนดู แต่หลังจากที่พยายามตกตะกอนความคิดแล้ว ถึงแม้จะพอจับประเด็นได้ ก็ดูจะมีส่วนอื่นของหนังมากลบข้อความเหล่านั้นไป ส่วนหนึ่งไม่แน่ใจนะว่า มันเป็นไปตามความต้องการของคนเขียนบทหรือเปล่า เพราะมันเป็นคาแรคเตอร์ของตัวละคร ฮิบิกิ เอง นั่นแหละที่เป็นสาเหตุ

จากเนื้อหาภายในหนังที่ดูจะพูดเรื่อง การยึดมั่น เชื่อมั่น ในความสามารถของตัวเอง เหมือนกับตัวตนของ ฮิบิกิ ที่มั่นใจในความคิดของตัวเอง กล้าวิพากย์ผลงานของคนอื่นอย่างตรงไปตรงมา โดยมี ริกะ โซบุเอะ (Ayaka Wilson) เพื่อนร่วมชมรมวรรณกรรม ลูกสาวของนักเขียนชื่อดังเป็นภาพสะท้อนมุมตรงกันข้าม ที่แม้มิตรภาพระหว่างเธอกับ ฮิบิกิ จะเป็นของจริง

แต่ความสัมพันธ์ก็ถูกท้าทายโดยตัวตนของ ฮิบิกิ ด้วยการวิพากย์อย่างตรงไปตรงมา ซึ่งมันกลายเป็นความกดดันต่อ ริกะ ที่ทุนเดิมของความกดดัน ก็คือชื่อเสียงของพ่ออยู่ก่อนแล้ว เมื่อมีความกดดันเพิ่มขึ้นมันจึงกลายเป็นความไม่มั่นใจ จนทำให้ ริกะ สูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง ซึ่งตรงข้ามกับ ฮิบิกิ ที่ไม่เคยสูญเสียสิ่งเหล่านั้น

แต่ภาพความมุ่งมั่นตั้งใจของ ฮิบิกิ ที่ว่า มันถูกลดทอนลงด้วย การใช้ความรุนแรงของเธอนี่แหละ เข้าใจว่าด้วยความที่ คาแรคเตอร์ ฮิบิกิ เป็นมังงะมาก่อน จึงมีความแฟนตาซีเหนือจริง กว่าคาแรคเตอร์ที่สร้างจากพื้นฐานความเป็นคนจริง ๆ มันเลยมีความหลุดโลก เกินจริง ผสมอยู่ในตัวละครนี้พอสมควร ด้านนึงมันก็เติมสีสันให้หนังดูสนุก บันเทิงขึ้นนะ แต่ส่วนตัวผมเองแล้วมองว่าในอีกด้าน มันก็ลดความน่าเชื่อถือของตัวละครด้วยเช่นกัน ทำให้สิ่งต่าง ๆ ที่สื่อสารออกมาจากตัวละครนี้ มันจับต้องประเด็นได้ยากไปหน่อย (หรือผมอาจจะไม่เก็ตเองก็ได้นะ ฮ่าฮ่า)

ซึ่งส่วนที่ตีความไม่แตกแล้วก็คิดไม่ออกเลยก็คือ เรื่องการใช้ความรุนแรงของ ฮิบิกิ นี่แหละ ว่ามันมีประเด็นอะไร มีความสำคัญยังไงกับเนื้อหาถึงถูกใส่เข้ามา ถึงได้เลือกให้ ฮิบิกิ เป็นคนแบบนี้ สิ่งที่พอจะคิดออกและเห็นว่าพอจะเป็นเหตุผลรองรับก็คือ การที่เราเสพผลงานของศิลปินที่มีความสามารถ บางครั้งก็อาจจะต้องมองข้ามเรื่องส่วนตัวของศิลปินคนนั้นไป หากมันไม่เกี่ยวกับผลงานของเขา เพราะแต่ละคนก็มีอัตลักษณ์ มีเหตุผล ในการกระทำแตกต่างกันไป ซึ่งเราอาจจะไม่เข้าใจเรื่องราวและมุมมองของเขาทั้งหมด

อีกส่วนที่หนังพูดถึงแม้ดูจะแตะเบา ๆ และใส่เข้ามาเพียงเล็กน้อย ตัวผมเองชอบส่วนนี้นะ อาจจะเพราะมันแอบตรงกับตัวเองเหมือนกัน เพราะเมื่อคนเรารักและพยายามทำอะไรสักอย่าง แต่ไม่ว่าจะพยายามเท่าไหร่ก็ไม่ประสบความสำเร็จสักที ไม่ว่าจะผลงานออกมาห่วยด้วยฝีมือของตัวเอง หรือผลงานออกมาดีแล้วแต่ผู้คนไม่ให้การยอมรับก็ตาม เราจะต้องพยายามอีกเท่าไหร่ถึงจะพอ หรือว่าจะต้องพยายามไปจนตาย แม้จะไม่พบกับคำว่า ”ความสำเร็จ” หนังมีคำตอบให้กับคำถามนี้นะ ถึงผมเองจะมองว่าเป็นคำตอบแบบ อุดมคติ ก็เถอะ

      สรุปแล้ว Hibiki (2018) ฮิบิกิ เป็นหนังที่ดำเนินเรื่องสนุกนะ ถึงจะดูว่าเป็นหนังที่เกี่ยวกับการเขียนนิยายไม่น่ามีอะไร แต่ก็เล่าได้บันเทิง น่าติดตาม แต่ส่วนตัวผมเองแอบเข้าไม่ถึงหนังอยู่พอสมควร เมื่อนำเสนอแบบดูมีเนื้อหาสาระ แต่พอเล่าออกมาแล้วมันถูกทำให้คลุมเครือด้วยคาแรคเตอร์แฟนตาซีของตัวละคร
 
ขอบคุณภาพประกอบจากภาพยนตร์: Hibiki (2018)
 
ฝากช่องยูทูปรีวิวหนังช่องเล็ก ๆ ด้วยครับผม:  https://www.youtube.com/channel/UCo1Txn08XONf92m_kngztWQ 



#MovieReview #รีวิวหนัง

1 ความคิดเห็น:

  1. ความรุนแรงในครอบครัว อาจเป็นสาเหตุให้ นอ.เป็นคนกระด้าง แข็งนอกอ่อนใน..

    ตอบลบ

Review: Criminal Minds (2017)

Criminal Minds (2017) อ่านเกมฆาตกร #Action   #Mystery   #Drama Director: Yang Yun-Ho, Lee Jung-Hyo Writer: Hong Seung-Hyun       NCI หน่วยวิ...