The Soul-Mate (2018) คนกับผี คู่แสบแบบว่าป่วง
#ปีนรั้วรีวิว #Comedy #Fantasy Director: Cho Owen
จางซู (Dong-seok Ma) โค้ชเทควันโดอดีตนักกีฬาชื่อดัง ผู้มีร่างกายกำยำแต่เจ้าตัวกลับเป็นคนไม่ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่น เรียกว่าต่อให้เห็นใครกำลังเดือดร้อนอยู่ตรงหน้า สิ่งที่เขาจะทำก็แค่เพียงเดินหนีออกมาเท่านั้น แต่การเข้าใจผิดกันระหว่างเขากับ แทจิน ทำให้ จางซู กลายเป็นพยานการถูกทำร้ายของ แทจิน
แล้วสิ่งที่ จางซู พยายามหลีกหนีมาตลอดอย่างการไม่ยุ่งเรื่องชาวบ้าน คราวนี้เขาก็ไม่สามารถหนีพ้นได้อีกต่อไป เมื่อวิญญาณของ แทจิน ดันหลุดออกจากร่าง แถมคนเดียวที่สามารถมองเห็นได้ก็คือ จางซู แทจิน ก็เลยทำตัวเป็นผีขี้ตื้อขอร้องให้ จางซู ช่วยสืบคดีที่ค้างคา และปกป้อง ฮยอนจี คนรักของเขาที่กำลังตกอยู่ในอันตราย
เมื่อหนังพูดถึง การยุ่งเรื่องชาวบ้าน มันดีจริงไหมหรือว่าจริงแล้วมันไม่ควร กรณีของ แทจิน ไม่ต้องสืบเมื่ออาชีพของเขาคือตำรวจ แน่นอนว่าจำเป็นต้องยุ่งเรื่องของชาวบ้านอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าตัว แทจิน ก็เป็นตำรวจประจำป้อมที่มีหน้าที่ลาดตระเวน และรับแจ้งความทำคดีเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อเขาไม่ใช่ตำรวจที่เป็นนักสืบ แต่สิ่งที่เขาทำมันเกินหน้าที่จนเกิดผลเสียต่อตัวเองตามมา
ส่วน จางซู ในทีแรกเราจะได้เห็นบุคลิกของเขาที่ไม่ชอบยุ่งเรื่องของใคร คนเดียวที่เขาทุมเททำทุกอย่างให้ก็คือลูกสาว โดคยอง ซึ่งทุกอย่างที่ทำให้ จางซู กลายมาเป็นคนแบบนี้มันมีเหตุผล(แต่ไม่สปอยก็แล้วกัน) เมื่อหนังเฉลยปมนี้ของ จางซู ออกมา แทจิน ที่พยายามขอร้องให้เขาช่วย รวมถึงคนดูอย่างเราที่รู้สึกอึกอัด กับความเห็นแก่ตัวของเขาในทีแรก ก็สามารถเห็นใจเข้าใจได้ในทันทีว่าทำไมเขาจึงเป็นคนแบบนี้
เอาจริงมันก็พูดยากนะการที่เรายื่นมือเข้าไปช่วยเหลือคนอื่น บางครั้งผลลัพธ์ที่ได้มันกลับไม่ออกมาอย่างใจ กลายเป็นเราที่อาจจะต้องพบกับความเดือดร้อนเสียเอง แล้วแบบนี้ใครกันจะอยากเอาตัวเข้าไปเสี่ยงเพื่อคนอื่น แต่เมื่อดูเรื่องนี้จนจบหนังก็ให้แง่คิดได้ดีนะ เพราะเราไม่ได้อยู่ลำพังในสังคม การที่เราเห็นแก่ตัวไม่หยิบยื่นความช่วยเหลือให้ใครยามเดือดร้อน แน่นอนว่าถ้าคนในสังคมคิดแบบเดียวกันกับเรา ก็คงไม่มีใครอยากยื่นมือช่วยเราในวันที่เดือดร้อนเช่นกัน
แล้วที่สำคัญ ต่อให้การยื่นมือเข้าไปสอดเรื่องของคนอื่นในวันนี้ อาจทำให้เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับเรา การทำดีบางครั้งมันอาจจะส่งผลช้าหน่อย แต่ไม่แน่ว่าเมื่อถึงคราวจำเป็นจริง ๆ ผลของการหยิบยื่นความช่วยเหลือ มันอาจจะนำพาให้เราได้เจอกับโอกาสดี ๆ ในชีวิตก็ได้ แม้สิ่งที่ผมเขียนไปหรือสิ่งที่หนังพยายามสื่อ ดูออกจะโลกสวยไปหน่อย แต่บางครั้งชีวิตคนเราก็ไม่จำเป็นต้องมองโลกในแง่ร้ายเสมอไป ใช่ไหมล่ะครับ
การดำเนินเรื่องของหนังไม่ถึงกับสนุกมากนะ เพราะเนื้อหาไม่มีอะไรซับซ้อนดำเนินเรื่องตามสูตรสำเร็จ แต่สามนักแสดงหลักอย่าง ลุงบึกมาดองซอก, คิมยองกวัง, อียูยอง ก็ทำหน้าที่ได้แข็งแรงดีเมื่อถึงฉากดราม่า อาจจะไม่ถึงกับซึ้งทำให้น้ำตาเอ่อล้นออกมาได้ แต่ก็สัมผัสความรู้สึกคนดูได้ดีพอสมควร
สรุปแล้ว The Soul-Mate (2018) คนกับผี คู่แสบแบบว่าป่วง ไม่ถึงกับเรียกได้ว่าเป็นหนังดีนะ แต่ถ้าไม่คาดหวังไว้สูงนักสำหรับผมถือว่ายังตอบโจทย์ความบันเทิงได้ ถือว่าการแสดงของสามตัวละครหลักพอเอาอยู่ ประกอบกับเนื้อหาหรือสิ่งที่หนังสื่อสารออกมา มันก็มีใจความที่ดีเข้าถึงคนดูได้ง่าย สื่อสารตรงไปตรงมา เมื่อถึงบทสรุปของหนังแล้ว เราสามารถมองโลกในมุมมองที่ดีได้กว้างมากขึ้น
ขอบคุณภาพประกอบจากภาพยนตร์: The Soul-Mate (2018)
ฝากช่องยูทูปรีวิวหนังช่องเล็ก ๆ ด้วยครับผม: https://www.youtube.com/channel/UCo1Txn08XONf92m_kngztWQ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น