วันเสาร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

Review: The Witch: Part 1. The Subversion (2018)

 The Witch: Part 1. The Subversion (2018)

#ปีนรั้วรีวิว #Action #Mystery Director: Hoon-jung Park
      กูจายุน (Da-mi Kim) เด็กสาววัยรุ่น ที่อดีตของเธอคือเด็กในโครงการทดลองอาวุธสังหาร นำโดย ดร.เบค (Min-soo Jo) หัวหน้าโครงการในเกาหลีใต้ ที่คัดสรรเด็ก ๆ มาตัดต่อพันธุกรรม โดยนำยีนเด่นความสามารถพิเศษของสิ่งมีชีวิตบนโลก ใส่เข้าไปในตัวเด็กในโครงการ

แต่ จายุน เธอพิเศษกว่าคนอื่น เมื่อก้าวไปถึง Lv.1 ระดับการทดสอบสูงสุด เท่าที่เคยมีเด็กในโครงการทำได้ตั้งแต่อายุ 8 ขวบ แต่แทนที่การทดลองจะประสบผลสำเร็จ กลายเป็นว่าการก้าวไปถึง Lv.1 ของ จายุน ทำให้เธอ แข็งแกร่งจนองค์กรไม่สามารถควบคุมได้อีก

เธอหนีการไล่ล่าขององค์กรพ้นด้วยอาการปางตาย แต่โชคดีที่ จายุน ได้สองผัวเมียเจ้าของฟาร์มเลี้ยงสัตว์ช่วยชีวิตเอาไว้ พวกเขาตัดสินใจรับดูแล จายุน ที่ความจำเสื่อม จนเวลาผ่านไปนาน 10 ปี จายุน ในตอนนี้กลายมาเป็นเด็กมัธยมที่สดใส ขยันทำงาน แต่ด้วยอาการป่วยของคนเป็นแม่ทำให้ครอบครัวเป็นหนี้จนอาจต้องขายฟาร์ม

ซอนยอ (Woorim Jung) เพื่อนซี้ของ จายุน จึงชวนให้เธอเข้าสมัครประกวด Birth of a Star การแข่งขันประกวดร้องเพลงชิงเงินรางวัล ลูกกตัญญูอย่าง จายุน จึงไม่รอช้าตกลงเข้าแข่งขัน แต่ที่เธอทำพลาดก็คือ เผลอแสดงความสามารถพิเศษบนเวที จนทำให้องค์กรลับที่สร้างเธอมากับมือหาจนพบ และคราวนี้ จายุน ที่ความจำเสื่อมยังไม่รู้ว่าตัวเองคือใครจะเอาตัวรอดได้อย่างไร เมื่อคนที่มาไล่ล่าเธอต่างก็มีความพิเศษเช่นกัน
หนังแอคชั่นที่ตัวอย่างตัดออกมาได้ มัน ดุเดือดเอามาก ๆ พอได้ดูตั้งแต่ต้นจนจบ บอกได้ว่าความมันที่ตัวอย่างตัดมา ไม่ได้เกินเลยความเป็นจริง เพียงแต่ก็ต้องขอออกตัวว่า ความมัน สนุก ตื่นเต้น เลือดสาด กว่าจะได้จัดเต็มก็ช่วง 40 นาทีสุดท้ายของหนัง ที่ บู๊ ดุเดือดยาวแบบ non-stop มาหมดทั้ง มีด ปืน มือเปล่า และพลังจิตเหนือธรรมชาติ แต่ละฉากแอคชั่นก็ออกแบบมาได้ดีมาก อาจจะยังไม่ถึงกับนียนกริบแบบหนังฮอลิวู้ด แต่ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีทีเดียว เหมือนเป็น Underworld สงครามโค่นพันธ์อสูร ฉบับเกาหลียังไงยังงั้น

หากจะให้บอกว่าหนังยังขาดอะไรบางอย่างในฉากแอคชั่น คงจะเป็นความกล้า ๆ กลัว ๆ ในการใส่ความรุนแรงลงไป หลายครั้งหนังพยายามใช้วิธีฆ่าแบบโหด เลือดสาด แต่กลับตัดภาพสลับหนีฉากนั้นหรือใช้หลบมุมกล้องไกล ๆ แทน อารมณ์ตอนดูมันเลยไม่สะใจ ขาดความต่อเนื่องอยู่เหมือนกัน เพราะสิ่งที่หลงเหลือให้คนดูได้เห็นจากฉากเหล่านี้ ก็เพียงเนื้อตัวเสื้อผ้าที่ชุ่มไปด้วยเลือดเท่านั้นเอง ช่วงต้นจนถึงกลางเรื่องหนังใช้เวลาในการปูเนื้อหาค่อนข้างเยอะ แทบไม่มีฉากแอคชั่นเลย สารภาพเลยว่าตอนดูจนถึงกลางเรื่องยังนึกไม่ออกเลยว่า ภาพแอคชั่นในตัวอย่างที่เวอร์วังอลังการนั้นจะออกมาเป็นอย่างไร 
 
หนังไม่มีฉากบีบคั้นอารมณ์ ดราม่า ผมเลยแอบเสียดายนิด ๆ ที่อุตสาห์ปูความสัมพันธ์ พ่อ แม่ ลูก ของตัวละคร จายุน มาแล้ว นึกว่าจะหยิบเอามาใช้สร้างดราม่าในช่วงท้าย แต่เปล่าเลย ซึ่งพอถึงจุดหนึ่งหนังแอบหักมุมเล็ก ๆ ให้เราร้อง…อ๋อ กับประเด็นนี้ ว่าทำไมจึงไม่หยิบดราม่านี้มาใช้ อาจไม่สามารถเรียกว่าเป็นหักมุมชวนเงิบอะไร แต่ก็ทำให้เรารู้สึกได้ว่าตัวละคร จายุน นี่เจ๋งดีเหมือนกัน

คิมดามิ ที่แสดงเป็น กูจายุน เหมือนถอดแบบมาจาก คิมโกอึน เลย นอกจากหน้าตาที่คล้ายกันแล้ว บุคลิก ท่าทาง สีหน้า การแสดงออกทางอารมณ์ยังมีส่วนคล้ายกัน กับ The Witch: Part 1. The Subversion (2018) ที่เป็นผลงานเรื่องแรกของเธอ

ส่วนตัวผมเองประทับใจในผลงานเลยนะ แสดงได้ดีมาก ไม่ว่าจะบทบาทเด็กน้อย แก่นเซี้ยว บ้านทุ่ง ใสใส หรือจะบทเจ้าของฉายา The Witch ปีศาจนักฆ่าที่บู๊ได้มันดีจริง ๆ หนังเหมือนจะมีต่อภาคสองส่วนตัวเชียร์ให้มีออกมานะ แต่ขอเพิ่มแอคชั่นดุดุอีกสักหน่อยน่าจะบันเทิงกว่านี้

      สรุปแล้ว The Witch: Part 1. The Subversion (2018) เป็นหนังแอคชั่นที่อาจจะต้องอดทนรอใจเย็นสักหน่อย กว่าจะได้ดูฉากแอคชั่นสนุกๆจากหนัง แต่ส่วนตัวผมเองมองว่าฉากแอคชั่นอาจไม่สามารถเรียกได้ว่าใหม่ แต่ก็ถือว่าไม่ผิดหวังแล้วก็สนุกจริงคุ้มค่าที่รอดู อีกอย่างหนึ่งระหว่างทางเนื้อเรื่องที่ดำเนินไป ถึงจะไม่ได้มีเนื้อเรื่องเข้นข้นแต่ก็ไม่ได้น่าเบื่อ ถือว่ายังทำได้น่าติดตามอยู่
 
ขอบคุณภาพประกอบจากภาพยนตร์: The Witch: Part 1. The Subversion (2018) 
 
ฝากช่องยูทูปรีวิวหนังช่องเล็ก ๆ ด้วยครับผม:  https://www.youtube.com/channel/UCo1Txn08XONf92m_kngztWQ 
 


#MovieReview #รีวิวหนัง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: All of Us Are Dead (2022)

 All of Us Are Dead (2022) มัธยมซอมบี้ Screenwriter:  Chun Sung Il Director:  Lee Jae Gyoo       ซีรีส์เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในโรงเรียนมัธ...