วันอังคารที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

Review: A Date with the Future (2023)

 A Date with the Future (2023) พบรักที่ปลายสัญญา

#Romance #Drama Director: Jin Sha, Yu Bo

รับชมได้ทาง WeTV
      สวีไหล (จางรั่วหนาน) นักข่าวสาวมากอุดมการณ์ตัดสินใจกลับจากต่างประเทศมาทำงานที่จีน เพราะคำสัญญา 10 ปีที่เคยให้ไว้กับนักดับเพลิง ซึ่งเคยช่วยชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวตอนเธอยังเรียนมัธยม คำสัญญาที่ว่าอีก 10 ปีข้างหน้าเมื่อโตกว่านี้เธอจะมาตามหาเขา แล้วด้วยอาชีพนักข่าวเธอก็หาเขาเจอได้ไม่ยากจริง ๆ เพียงแต่ดูเหมือนว่า จิ้นสือชวน (เฉินเหว่ยถิง) ที่ในตอนนี้เป็นหัวหน้าหน่วยดับเพลิงจะลืมเธอไปนานแล้ว สวีไหล เลยต้องสวมบทบาทสาวสายรุกตามจีบภูเขาน้ำแข็งอย่าง จิ้นสือชวน เพื่อทำให้เขาเปิดใจยอมรับ ในอีกด้านของการทำหน้าที่สื่อ สวีไหล ก็ต้องเผชิญการแข่งขันและบททดสอบด้านจรรยาบรรณวิชาชีพ

ซีรีส์จีนแนวโรแมนติกดราม่าของนักผจญเพลิงและนักข่าว ต้องบอกว่าในที่สุดซีรีส์กู้ภัยจีนก็ได้เปลี่ยนอาชีพคู่พระนางให้ตัวเอกบ้างเสียที เพราะหลายเรื่องมักจะจับคู่ให้นางเอกเป็นหมอเสียส่วนใหญ่ พระเอกอาจจะเป็นหน่วยรบพิเศษ เป็นอาสากู้ภัย เป็นนักดับเพลิง นางเอกของเรื่องมักจะหนีไม่พ้นอาชีพหมอ เห็นจะมีเรื่องนี้ที่นางเอกเป็นนักข่าวกับ Road Home อีกเรื่องที่นางเอกทำธุรกิจ นอกนั้นเท่าที่เคยดูก็เป็นหมอหมดเลย เอาจริงให้นางเอกเป็นหมอก็ไม่แปลกอะไร แค่ผมคิดว่าซีรส์แนวนี้ของจีนทำออกมาบ่อยสถานการณ์ในเรื่องส่วนใหญ่ก็ซ้ำ ๆ กัน ถ้าให้ตัวละครเอกมีอาชีพอื่นบ้าง สถานการณ์มันจะได้หลากหลายมากขึ้นก็เท่านั้นเอง

อย่างในเรื่องนี้พาทหน้าที่การงานของพระเอกก็ไม่ต่างจากเรื่องอื่น ที่มีแค่การฝึกซ้อมแล้วก็ออกไปปฏิบัติงาน เนื้อเรื่องหลักพาทดราม่าเลยมาอยู่ที่นางเอก สวีไหล งานที่ทำก็เกิดความขัดแย้งในที่ทำงาน ชีวิตรักที่มีเป้าหมายมั่นคงดันมีเรื่องให้ลำบากใจเมื่อเพื่อนรักวัยเด็กมาแอบชอบ การเล่าเรื่องของซีรีส์ผมว่ามันสนุกในช่วงแรกที่ สวีไหล ตามจีบ จิ้นสือชวน มันสนุกจากงานกู้ภัยและเลิฟคอมเมดี้ระหว่างคู่พระนาง แต่พอซีรีส์ดึงเข้ารักสามเศร้าไปจนถึงช่วงที่ จิ้นสือชวนกับสวีไหล เกิดปัญหาความสัมพันธ์ ช่วงกลางเรื่องเลยมีความแอบน่าลำไยไม่น้อย มากลับเข้าที่เข้าทางอีกทีได้ในช่วงท้าย

คงจะบอกได้ว่าเป็นซีรีส์ที่ให้น้ำหนักการเล่าเรื่องราวตัวละคร มากว่าซีรีส์กู้ภัยเรื่องอื่นที่มักจะเน้นภารกิจ เอาจริงผมว่ามันก็ดีเหมือนกัน บางทีเน้นภารกิจเยอะมันก็มีแต่สถานการณ์เดิม ๆ มีแต่ฉากเสียสละ ฉากปลุกใจอวยตัวเอง พอเปลี่ยนมาเล่าเรื่องราวชีวิตตัวละครมากขึ้น ตัวละครเลยดูมีเลือดเนื้อ มีชีวิตจิตใจ ไม่ได้เป็นแค่ซีรีส์ขายอุดมการณ์แบบอุดมคติเพียงอย่างเดียว

ดูซีรีส์จีนเยอะขึ้นในช่วงครึ่งปีมานี้ยอมรับว่ายังปรับตัวไม่ค่อยได้ ในเรื่องของวิธีคิดและตรรกะของตัวละครที่บางครั้งก็ละครหลังข่าวมากเกินไป อิจฉาริษยาแบบไม่มีเหตุผลที่มาที่ไปแถมยังทำให้ตัวเองซวย จนผมอดคิดไม่ได้ว่าเอ็งจะทำไปทำไม คือถ้าอยู่เฉย ๆ ไม่ทำอะไรเลยอาจจะเป็นผู้ชนะไปแล้วก็ได้ ในเรื่องนี้ก็ตัวละคร เจียงซิน รุ่นพี่นักข่าวที่คอยหาเรื่องกลั่นแกล้ง สวีไหล ตลอดเวลา สุดท้ายทำแรงขึ้น ๆ จนตัวเองซวยไปเสียยังงั้น คือตัวละครอื่นในเรื่องดูมีแรงขับในการตัดสินใจจะผิดจะถูกก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่ตัวละคร เจียงซิน บางทีก็อย่างถามว่าจะทำเพื่อ? คงจะพูดได้ว่าเป็นตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นมา เพื่อเซ็ตอัพสถานการณ์คับขันให้ สวีไหล นั้นแหละ

เป็นซีรีส์จีนที่มองในภาพรวมถือว่าทำออกมาได้สนุก น่าติดตามประมาณหนึ่ง เน้นเรื่องราวความสัมพันธ์ตัวละครมากกว่าซีรีส์กู้ภัยเรื่องอื่น ถือว่าเป็นอีกรสชาติหนึ่งที่ไม่จำเจ คาแรคเตอร์ตัวละครมีเสน่ห์ จิ้นสือชวน ก็ดูบุคลิกไม่แข็งกร้าวเกินไป พอมีความรักแล้วออกไปทางตะมุตะมิด้วยซ้ำ สวีไหล ก็เป็นผู้หญิงเก่งเด็ดเดี่ยวคล่องแคล่วน่ารัก พระรองอย่าง ฮั่วเหยียนซ่ง บทก็แนวพระรองที่มีความหวังดีให้กับนางเอก อาจจะแอบมีความเห็นแก่ตัวนิด ๆ แต่มิตรภาพและความหวังดีก็ยังมากกว่า

#SeriesReview #รีวิวซีรีส์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: All of Us Are Dead (2022)

 All of Us Are Dead (2022) มัธยมซอมบี้ Screenwriter:  Chun Sung Il Director:  Lee Jae Gyoo       ซีรีส์เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในโรงเรียนมัธ...