Find Yourself (2020) รักแรกของสาวใหญ่
#Romance #Drama Director: Ding Zi Guangรับชมได้ทาง Netflix
แต่กลายเป็นว่าการกลับมาเจอกันอีกครั้ง เป็นการที่เขาเข้ามาเป็นลูกค้าใช้บริการตกแต่งเรือนหอ จากความรู้สึกผิดหวังที่หลงเชื่อในคำสัญญาวัยเรียน เห้อฟานซิง ดื่มเหล้าจนเมาแล้วเลยเถิดไปกับ หยวนซ่ง (ซ่งเหว่ยหลง) นักศึกษาฝึกงานหนุ่มรุ่นน้องที่อายุห่างกัน 10 ปี ซึ่งพ่อหนุ่ม หยวนซ่ง ที่เดิมทีก็แอบเหล่รุ่นพี่ในที่ทำงานเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เลยตัดสินใจเดินหน้าขอคบอย่างจริงจัง เพียงแต่ เห้อฟานซิง ที่ไม่แน่ใจว่าความรักต่างวัยจะไปรอดจริง ๆ จึงเสนอให้เธอและเขาทดลองคบกันเป็นเวลา 3 เดือน หากความสัมพันธ์ไม่มีปัญหาค่อยเปิดตัว แต่หากไปไม่รอดก็ให้แยกย้ายไม่มีใครรู้เรื่องของพวกเขา
ซีรีส์จีนที่กำลังจะมีเวอร์ชั่นรีเมคของไทยเรา ซึ่งฉบับไทยได้ แอฟกับนนกุล มาแสดงนำ ด้วยบริบทครอบครัวเอเชียเหมือนกัน ที่ยังมีความพยายามกดดันลูกหลานเรื่องชีวิตคู่ ผมว่าในฉบับไทยก็น่าจะตีโจทย์ได้แตกไม่ต่างจากเวอร์ชั่นจีนแน่นอน คือตอนดูฉบับจีนนี่ผมจะประสาทกินกับแม่ของ เห้อฟานซิง มาก โอเคเข้าใจว่าหวังดีเป็นห่วงนั่นแหละ แค่บางครั้ง บางที บางเรื่อง ความเป็นห่วงที่มากไปมันก็กลายเป็นความกดดัน อาจทำให้ตัดสินใจเลือกในสิ่งที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ถูกใจได้
ในมุมของดราม่าความรักซีรีส์สะท้อนภาพของความรักต่างวัยที่มีช่องว่างระหว่างกัน การคบกันโดยมีข้อแม้ที่เป็นการไม่เปิดใจเต็มร้อย มันนำไปสู่ปัญหาที่จะตามมาอีกมาก พูดง่าย ๆ ว่าเป็นการคบกันที่ตอนจบถูกกำหนดเอาไว้แล้วว่าต้องเลิก ระหว่างที่เราดูความสัมพันธ์คู่พระนองของเรื่องนี้ ต่อให้จะคบกันจะรักจะเลิกมีดราม่าชวนหน่วงน่ารำคาญยังไง คนดูอย่างเราก็จะเห็นตัวละครจะค่อย ๆ เรียนรู้เติบโตผ่านปัญหาที่เข้ามา ตามชื่อเรื่องเลย Find Yourself มันไม่ใช่การค้นหาความรักหรือคนรัก แต่เป็นการค้นหาตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีกว่าเมื่อมีความรัก
เป็นหนังที่ผมว่าถูกสร้างมาเพื่อให้ความหวังกับสาวใหญ่ให้ยังเชื่อในความรัก ซีรีส์ชัดเจนยกเอาคำว่าคนที่ชอบกับคนที่เหมาะสมมาเทียบกัน เพราะนางเอกของเราเชื่อในความรักยังมองหาคนที่ชอบจริง ๆ แต่ด้วยอายุที่มากขึ้นด้วยวิถีสังคมที่บีบทางเดินให้ตีบตัน ต้องหาคำตอบให้ได้ว่าระหว่างคนที่ชอบ แต่อาจไม่เหมาะสมในสายตาสังคม กับคนที่สังคมมองว่าเหมาะสม แล้วเอาจริงก็เข้ากันดีทุกอย่าง แต่กลับไม่ใช่คนที่รู้สึกชอบสำหรับตัวเอง
ซีรีส์ทำออกมาได้ครบรสพาทดราม่าก็หลายอารมณ์และความรู้สึก ทั้งประเด็นครอบครัว ความรัก มิตรภาพ ยั่วล้อกับบรรทัดฐานสังคมเอเชียเรื่องชีวิตคู่ พาทโรแมนติกชวนจิ้นก็ทำได้ดี ถึงจะเป็นความรักต่างวัยก็ต้องบอกว่ารอดนะสำหรับเรื่องนี้ วิคตอเรีย ซ่ง ก็มีเสน่ห์สมกับบทบาท ซ่งเหว่ยหลง ก็หล่อกรุบ ๆ ถูกใจทั้งสาวน้อยสาวใหญ่อยู่แล้ว
นอกจากนั้นในเรื่องนี้ยังมีเนื้อหาของตัวละครอื่นที่สร้างสีสันได้อีกด้วย ทั้งคู่ของ จางอวี่เจี้ยนกับอวี่ซูซิน ที่เป็นรักต่างวัยเหมือนกัน แถมยังเป็นอาจารย์กับลูกศิษย์อีกด้วย หรือจะเฟรนด์โซนอย่างคู่ เว่ยเจ๋อหมิงกับแคทเธอรีน หยาง ที่มีอุดมการณ์การใช้ชีวิตต่างกัน เมื่อผู้ชายดันเป็นหนุ่มมินิมอลลิสต์ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อย แต่ฝ่ายหญิงอยากจะเจอกับคนมีฐานะหรืออย่างน้อยก็มีอนาคตที่ดีให้ แล้วช่วงนี้ที่ได้ดูซีรีส์จีนบ่อยเหมือนว่า เว่ยเจ๋อหมิงกับแคทเธอรีน หยาง จะเล่นด้วยกันมาสามเรื่องแล้ว เพียงแต่เหมือนจะมีแค่เรื่องนี้ที่ข้ามเฟรนด์โซนได้คู่กัน ส่วนเรื่องอื่นนอกนั้นจะอยู่ในเฟรนด์โซนตลอดเลย
หากจะมีตัวละครไหนที่น่าจะถูกพูดถึงอีกคงไม่พ้น เย่ ลูหมิง คู่แข่งของ หยวนซ่ง ประธานบริษัทหนุ่มใหญ่ที่สังคมมองว่าคู่ควรกับ เห้อฟานซิง ตัวละครที่จะว่าดีก็ดีจะว่าแย่ก็แย่ คือเป็นคนดีแน่ ๆ ล่ะ ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร แต่ความเป็นมนุษย์มีรัก โลภ โกรธ หลง มีความเห็นแก่ตัว ก็มักจะสร้างเหตุสร้างปัจจัยทางอ้อมให้เกิดปัญหา ออกแนวหวังดีประสงค์ร้าย แต่ก็เป็นตัวละครที่ตามเนื้อหามีส่วนสำคัญทำให้ เห้อฟานซิง ค้นพบตัวเองเจอ แล้วยังเป็นอุปสรรคทำให้ หยวนซ่ง โตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นด้วย เรียกว่าถึงจะไม่ใช่ MVP ของเรื่อง แต่บทบาทก็มีส่วนสร้างผลกระทบสำคัญต่อตัวละครนำทั้งสองคนมาก ๆ
เป็นซีรีส์ที่เอาจริงไม่ต้องรอให้กลายเป็นสาวใหญ่ก่อนถึงค่อยดู ผมว่าเป็นซีรีส์ที่เหมาะกับคนที่กำลังจะมีความรักหรือเริ่มมีความสัมพันธ์ เพราะให้สถานการณ์จำลองปัญหาของความสัมพันธ์ หากคบกันด้วยโจทย์แบบนี้จะต้องเจอกับปัญหาแบบไหน แล้วระหว่างความรักกับความเหมาะสมจะเลือกอะไร พูดให้เข้าใจง่าย ๆ ว่าซีรีส์พาคนดูสำรวจความสัมพันธ์บางรูปแบบเพื่อให้เราค้นหาตัวเองนั่นแหละ
#SeriesReview #รีวิวซีรีส์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น