วันอังคารที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

Review: The Greatest Teacher (2023)

The Greatest Teacher (2023) 

#Thriller #Youth #Mystery Director: Suzuki Yuma
      รินะ คุโจ (Mayu Matsuoka) ครูมัธยมปลายที่กำลังยืนกินลมชมวิวตั้งคำถามถึงอาชีพครูของตัวเอง แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้คำตอบอะไรกลับมา รินะ ก็ถูกผลักจากด้านหลังตกลงไปเสียชีวิต โดยที่ไม่รู้ว่าใครหรือสาเหตุอะไรทำให้ตัวเองลงเอยอย่างนั้น เพียงอย่างเดียวที่ รินะ พอจะมองเห็นขณะกำลังตกลงไป คือชายแขนเสื้อที่บอกได้ชัดเจนว่าใครคนนั้นเป็นนักเรียนในห้องที่เธอเป็นครูประจำชั้นอยู่

หลังจากที่ รินะ คิดว่าตัวเองต้องตายไปแล้วแน่ ๆ เธอกลับรู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้งในคาบโฮมรูมของนักเรียนปี 3 ห้อง D แล้วจะบอกว่าภาพความตายเมื่อกี้เป็นความฝันก็ไม่ได้ เพราะเธอได้ย้อนเวลากลับไป 1 ปีก่อนหน้าในวันเปิดภาคเรียน สิ่งที่ รินะ คิดได้ในตอนนั้นคือการเปลี่ยนแปลงอนาคต ที่จะเกิดขึ้นกับตัวเองในวันจบการศึกษา ซึ่งคนแรกที่เธอจะต้องเปลี่ยนแปลงก็คือตัวเอง เธอจะต้องกลายเป็นครูที่ไม่ตั้งคำถามถึงการทำหน้าที่ของตัวเองเหมือนที่ผ่านมา

ซีรีส์ญี่ปุ่นผลงานของผู้กำกับ Yuma Suzuki ที่เคยมีผลงานแนวคล้ายกันเรื่อง Mr. Hiiragi's Homeroom สารภาพว่าตอนดูไม่นึกว่าจะเป็นผู้กำกับคนเดียวกัน เพราะแม้ซีรีส์จะมาในแนวให้บทเรียนชีวิตเพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเองคล้ายกัน แต่วิธีการหรืออารมณ์ของเรื่องค่อนข้างแตกต่างกัน ใน Mr. Hiiragi's Homeroom บทสนทนาระหว่างครูฮิรากิกับนักเรียน ขัดแย้งดุเดือด มีความสั่งสอน ชี้นำชัดเจน จนเราที่เป็นคนดูบางทียังแอบรู้สึกอึดอัด แต่กับ The Greatest Teacher ครู รินะ จะประนีประนอมกว่า ไม่ค่อยชี้นำ แถมออกจะให้ตัวนักเรียนเลือกหนทางตัดสินใจกันเองด้วยซ้ำ พอมีความต่างในคาแรคเตอร์กับวิธีคิด ตอนแรกเลยไม่นึกว่าจะเป็นผู้กำกับคนเดียวกัน

ถ้าพูดกันในแง่ความบันเทิงต้องบอกว่าความเดือดใน Mr. Hiiragi's Homeroom มันทำงานกับคนดูได้มากกว่า แม้จะไม่มีฉากแอคชั่นการสาดคำพูดหรืออารมณ์ใส่กันมันก็ดุเดือดจริง ๆ ส่วน The Greatest Teacher เป็นซีรีส์ที่ดูได้เรื่อย ๆ ใช้คำว่าน่าติดตามมากกว่าสนุก เราอยากจะรู้ว่าครูอย่าง รินะ จะรับมือกับปัญหาของนักเรียนแต่ละคนแบบไหน เมื่อบางคนไม่มีท่าทีสลดอะไรเลย ตรงจุดนี้ซีรีส์ใช้วิธีคิดที่ว่า ความเปลี่ยนแปลงต้องเริ่มจากตัวเอง ครูรินะ ที่ไม่สั่งสอนแบบ ครู ฮิรากิ ก็จะมีคำพูดติดปากเกือบทุกครั้งว่า "ไม่ว่าอะไรครูก็จะทำ" เพื่อเป็นการบอกว่าจะอยู่เคียงข้างทุกคน ซีรีส์ใช้วิธีให้ทางเลือกการตัดสินใจกับตัวละคร ผ่านการกลั่นกรองความคิดของตัวเอง โดยที่คนเป็นครูก็จะทำหน้าที่ในแบบที่ผู้ใหญ่คนหนึ่งจะทำได้

ที่ผมเสียดายสักนิดคงจะเป็นการที่ซีรีส์ไม่เอาความเป็นแนว Whodunit มาใช้เท่าไหร่ ทั้งที่เริ่มด้วยปริศนาว่าใครเป็นคนลงมือ แต่การเล่าเรื่องเทน้ำหนักไปที่ดราม่าล้วน ๆ จนปริศนาฆาตรกรรมจางลงจนแทบลืมไปเลย ในเมื่อไม่เน้นความสนุกจากอารมณ์ดุเดือดเลือดพล่านแล้ว หากหันมาขายปริศนาฆาตกรรมปนสืบสวน จากการดำเนินเรื่องเรื่อย ๆ คงจะน่าสนใจเพิ่มขึ้นอีก

เป็นซีรีส์ดราม่าจากญี่ปุ่นที่ใจความเนื้อหาดีมากอีกเรื่องหนึ่ง ที่สำคัญตอนดูเราไม่รู้สึกถูกยัดเยียดหรือถูกสั่งสอนมากเกินไปด้วย ในแง่ของนักแสดงอาจไม่ได้รวมดาวเท่า Mr. Hiiragi's Homeroom ที่มีนักแสดงวัยรุ่นคุ้นหน้าเยอะกว่า กับเรื่องนี้ที่คุ้นหน้าเห็นจะเป็น มานะ อาชิดะ ตัวละคร คานาอุ ที่เป็นคนเดินเรื่องหลักฝั่งของนักเรียนตัวละครตำแหน่งคล้าย ๆ กับ ซากุระ ของ นากาโนะ เมย์ ใน Mr. Hiiragi's Homeroom ที่เป็นคนเชื่อมระหว่างครูกับเพื่อนนักเรียน จะมีบทบาทเพิ่มอีกนิดตรงที่ คานาอุ เองเป็นเหยื่อการกลั่นแกล้งโดยตรง เหมือนเป็นตัวละครที่เอา ซากุระกับคาเกยามะ เรนะ มารวมกันเป็นคนเดียว ใน Mr. Hiiragi's Homeroom คาเกยามะ ตายแล้วตายเลย แต่ในเรื่องนี้ คานาอุ ได้กลับมามีชีวิตอีกครั้งเหมือนครู รินะ

เพิ่งนึกขึ้นได้อีกอย่างนึง Mr. Hiiragi's Homeroom เองก็กำลังจะมีรีเมคเวอร์ชั่นไทยด้วย งานของค่ายสตรีมอย่าง TrueID ในแง่ของนักแสดงของไม่กล่าวถึงก็แล้วกันครับ ไม่ใช่อะไรไม่เคยติดตามงานของใครเลยสักคน ไม่ว่าจะนักแสดงนำอย่าง มิว ศุภศิษฏ์ ที่มารับบทครูฮิรากิ หรือนักแสดงวัยรุ่นที่มารับบทนักเรียนในห้อง แต่พอเห็นชื่อผู้กำกับส่วนตัวผมถือว่ามีความน่าสนใจนะครับ ชื่อของ โขม ก้องเกียรติ โขมศิริ และ เก้า วิรดา คูหาวันต์ ชื่อของผู้กำกับโขมก็ถือว่ามีผลงานโดดเด่นอยู่หลายเรื่อง ส่วนผู้กำกับเก้า วิรดา ก็มีผลงานล่าสุดอย่างละครรีเมคเกมรักทรยศ ดูจากรายชื่อเบื้องหลังถือว่าคาดหวังได้เลยนะครับ

#SeriesReview #รีวิวซีรีส์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: All of Us Are Dead (2022)

 All of Us Are Dead (2022) มัธยมซอมบี้ Screenwriter:  Chun Sung Il Director:  Lee Jae Gyoo       ซีรีส์เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในโรงเรียนมัธ...