วันเสาร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2567

Review: Train (OCN/2020)

Train (OCN/2020) 

  • Director: Ryu Seung-Jin
  • Writer: Park Ga-Yeon

      ซอโดวอน (ยุนชียุน) นักสืบที่พยายามดำเนินคดีกับ พัคแทคยอง (ชางรยอล) ทายาทผู้มีอิทธิพลผู้ต้องสงสัยในคดีล่วงละเมิดทางเพศ แต่ความพยายามของ ซอโดวอน ต้องเป็นหมัน เมื่ออัยการฮันซอคยอง (คยองซูจิน) ปฏิเสธการออกหมายจับให้กับเขา เมื่อ ซอโดวอน ไม่สามารถหาหลักฐานมาให้กับเธอได้ แถมเหยื่อที่เป็นพยานเพียงคนเดียวของคดี ยังกลับคำให้การอีกด้วย ทำให้ ซอโดวอน จำใจต้องปล่อยตัวคนร้ายให้หลุดมือไปก่อน

ซอโดวอน พยายามใช้ทุกวิถีทาง เพื่อหาหลักฐานมาเอาผิด พัคแทคยอง ให้ได้ เพียงแต่การไล่ล่าเพื่อเอาตัวคนผิดมาลงโทษ ในคดีล่วงละเมิดทางเพศ มันกลับทำให้เขาได้พบร่างของเหยื่อถูกฆาตกรรมหลายราย รวมถึงหลักฐานที่อาจเชื่อมโยงไปถึงคดีฆาตกรรมในอดีต ซึ่งเกี่ยวข้องกับการตายของพ่ออัยการฮันซอคยอง คดีที่ปิดไม่ลงและยังไม่สามารถนำตัวคนผิดมาลงโทษได้ เพียงแต่อัยการ ฮันซอคยอง อาจจะยังไม่รู้ถึงความลับบางอย่างที่ ซอโดวอน คนที่ครั้งหนึ่ง เปรียบเสมือนพี่ชายของเธอและ โอมีซุก (อีฮังนา) ตำรวจหญิงที่ทำคดีพ่อของเธอ ร่วมมือกันปกปิดความลับบางอย่างเอาไว้ 

แต่ความเข้าใจเรื่องต่าง ๆ ในอดีตของ ซอโดวอน อาจต้องเปลี่ยนไป เมื่อคดีฆาตกรรมที่เขากำลังพยายามตามหาความจริงอยู่นั้น มันเกิดเรื่องแปลกประหลาดขึ้นมา เมื่อเหยื่อที่ถูกระบุว่าตายกลับยังมีชีวิตอยู่ดี ปรกติทุกอย่าง แล้วร่างของเหยื่อที่ถูกพบในสถานีรถไฟ ซึ่งถูกปิดตายหลายรายล่ะ พวกเขาเป็นใครแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขากันแน่

ซีรีส์ระทึกขวัญ สืบสวน เรื่องราวเหนือธรรมชาติจากเกาหลีที่มีจำนวน 12 ตอน ในทีแรกที่รู้มาว่า มีพล็อตเรื่องเป็นโลกคู่ขนาน ผมก็แอบคิดว่าเนื้อหาจะซับซ้อนหรือเปล่า แต่เอาเข้าจริงเนื้อหาค่อนข้างเข้าใจง่ายเลยล่ะครับ ด้วยความที่ซีรีส์ไม่ได้หยิบเอาเงื่อนไข พล็อตไซไฟโลกคู่ขนานมาใช้เท่าไหร่ แต่เหมือนจะให้น้ำหนักที่ความดราม่า เรื่องราวชีวิตของตัวละครมากกว่า หากใครที่กังวลว่าซีรีส์จะดูยาก ผมก็ขอบอกเลยว่ามันค่อนข้างเข้าใจง่าย บันเทิงตามสไตล์ซีรีส์สืบสวนเกาหลีแบบพิมพ์นิยมเลยล่ะครับ

ในช่วง 4 ตอนแรกผมพูดตรง ๆ ว่า ดราม่าฟูมฟาย ระหว่าง ซอโดวอนกับฮันซอคยอง ที่ซีรีส์ใส่เข้ามายังไม่ได้ผลกับผู้ชมเท่าไหร่ ด้วยความที่ปูมหลังของตัวละคร ถูกเปิดเผยออกมาอย่างจำกัด เพราะบางปมต้องเก็บซ่อนเป็นความลับเอาไว้ ไม่ได้เฉลยให้ผู้ชมเข้าใจในทีเดียว เรียกว่าถึงจะมีตัวละครตาย มีบางคนร้องไห้ฟูมฟาย แต่มันก็ยังไม่ทำให้คนดูอินได้ซักเท่าไหร่ กว่าที่ดราม่าความสัมพันธ์ตัวละคร จะเริ่มได้ผลก็ช่วง 4 ตอนสุดท้าย เมื่อเรื่องราวในอดีตมันค่อย ๆ เปิดเผยออกมาทีละน้อย ผู้ชมอย่างเราได้เห็นว่าตัวละครอย่าง ซอโดวอน พยายามปกป้องอะไร ทำไมเขาถึงรัก แล้วก็พยายามดูแล ฮันซอคยอง อย่างถึงที่สุด

ส่วนตัวผมค่อนข้างเสียดาย ที่ซีรีส์นำเอาพล็อตโลกคู่ขนานมาใช้น้อยไปหน่อย แม้จะมีส่วนสำคัญในช่วงสองตอนสุดท้าย ที่เฉลยเรื่องราวทั้งหมด ซึ่งจะว่าไปซีรีส์สามารถขยายเนื้อหาออกไปไกลกว่าเดิมได้ พอดูจบแล้วทบทวนเนื้อหาย้อนกลับผมก็รู้สึกว่า เอ่อ ซีรีส์มันก็มีหลายจุดที่น่าหยิบเอามาขยายต่อได้อีกนะ อย่างศพที่ถูกพบในตอนแรก กับตัวตนของพวกเขาในโลกอีกใบ หรือเงื่อนไขความแตกต่างข้อจำกัดระหว่างโลกคู่ขนาน ที่ซีรีส์ไม่ได้สร้างหรือใส่เข้ามา เอาจริงในทีแรกก็ดูเหมือนจะใส่เข้ามากับอาการปวดหัววิ้ง ๆ ของตัวละคร ซอโดวอน แต่ก็เหมือนจะใส่เข้ามาอย่างงั้นเอง ไม่มีผลอะไรต่อเนื้อหาเลย

เวลาส่วนใหญ่ของซีรีส์ใช้ไปกับความสัมพันธ์ ระหว่างตัวละครมากกว่า แล้วซีรีส์ก็หยิบเอาประเด็นตัวตนที่แตกต่างกัน มาใช้กับผู้คนรอบข้างซอโดวอน มีประเด็นดราม่าที่พอจับต้องได้ เกี่ยวกับการที่คนเราตัดสินใจเลือกทำ หรือไม่ทำอะไรบางอย่าง เพียงสิ่งเล็กน้อยมันอาจจะสามารถเปลี่ยนชีวิตใครบางคน จากหน้ามือเป็นหลังมือได้เลย แต่สำหรับเรื่องนี้มันก็แปลกอย่างหนึ่ง แม้จะดูว่าซีรีส์ให้เวลา กับความสัมพันธ์ของแต่ละตัวละครเยอะ แต่ก็ดูเหมือนว่ายังเชื่อมโยงกันไว้หลวม ๆ ผู้ชมอย่างเรายังไม่รู้สึกถึงความผูกพันของพวกเขาได้เท่าไหร่ อาจจะเพราะรูปแบบความสัมพันธ์ ในแต่ละโลกคู่ขนานของพวกเขามันต่างกัน การตัดสินใจแบบหนึ่งอาจทำให้พวกเขา กลายเป็นคนรู้จักหรือคนรักกัน แต่การตัดสินใจอีกแบบหนึ่ง พวกเขาอาจเป็นเพียงคนแปลกหน้า หรืออาจจะกลายเป็นคนที่เกลียดกันเข้าไส้ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น

หลังจากดูจนจบส่วนตัวผมชอบ องค์ประกอบโดยรวมของซีรีส์นะครับ รู้สึกว่ามันน่าสนใจถือว่ามีของเลยล่ะ แค่ยังนำเสนอออกมาได้ไม่ลงตัวและเพลเซฟไปหน่อย ยังไม่กล้าเล่นท่ายากแบบซีรีส์ข้ามเวลา ที่มีพล็อตโลกคู่ขนานผสมอยู่ด้วย อย่างเรื่อง Signal สัญญาณลับข้ามเวลา แม้ผมจะไม่ถูกใจสามตอนสุดท้ายนัก แต่ก็ยอมรับว่าบทของ Signal กล้าเล่นท่ายากมากกว่าซีรีส์พล็อต ข้ามเวลา โลกคู่ขนานเรื่องอื่น ๆ อยู่ดีครับ

ผมคงจะสรุปจำกัดความซีรีส์เรื่องนี้ได้ว่า หากวัดที่ความบันเทิงแนวระทึกขวัญสืบสวน ผมก็ถือว่าซีรีส์ทำได้ดีตามมาตรฐานซีรีส์เกาหลีแนวเดียวกันนะครับ ยิ่งกับการมีเพียงแค่ 12 ตอนก็เลยทำให้เนื้อหา ที่แม้จะมีดราม่าฟูมฟายพอควร แต่ก็ไม่ได้ให้เรื่องราวมันยืดเยื้อหรือมีช่วงน่าเบื่อเลย ค่อนข้างดำเนินเรื่องราวได้ไหลลื่นดีทีเดียวเลยล่ะครับ


#SeriesReview #รีวิวซีรีส์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: Dreaming Back to the Qing Dynasty (2019)

Dreaming Back to the Qing Dynasty (2019) ฝันคืนสู่ต้าชิง #Drama   #Romance Director: Lee Kwok Lap, Wai Hong Chui, Chen Shu Liang Screenwrite...