#ปีนรั้วรีวิว #Drama Director: JK Youn
ยูนด็อกซู (Jung-min Hwang) ชายชรา ที่ทำตัวขวางโลกไม่ยอ
ครอบครัวยูนเป็นชาวฮังนัมใน
เมื่อมาถึงปูซาน แม่และด็อกซู ย้ายมาอาศัยกับ ยูนก็อตบุน พี่สาวของพ่อที่เปิดร้ายขาย
หนังเกาหลีที่เป็นมหากาพย์เ
หากมองที่ภาพโดยรวมของหนัง ที่พยายามสื่อถึงผลพวงจากสงครามก็ทำได้ดีนะ จากเรื่องอื่นๆที่เราเคยดูกันมักจะพูดถึงประเด็น ความสูญเสีย(ชีวิต)ในสงคราม ผลกระทบทางเศรษฐกิจ ผลกระทบทางสภาพจิตใจหลังจากการออกรบ หรือกระทั่งผลกระทบต่อชาวบ้านที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรด้วย
Ode to My Father (2014) กี่หมื่นวัน...ไม่ลืมคำสัญญ าพ่อ เรื่องนี้ในเสนอแง่มุม การพลัดพรากของ คนรัก ครอบครัว ที่เกิดจากภาวะสงคราม ความทุกข์ยากที่ต้องเผชิญ เนื่องจากไม่มีพ่อซึ่งเป็นผู้นำครอบครัว แต่กลายเป็น ด็อกซู เด็กคนนึงที่ต้องเสียสละตัวเองเพื่อทำหน้าที่นั้นแทน หนังตอกย้ำแง่มุมการพลัดพรากนี้อีกครั้ง ด้วยเหตุการณ์ที่ ด็อกซู ได้พบเห็นในระหว่างไปทำงานในสงครามเวียดนาม
ส่วนการเสียสละตัวเองของ ด็อกซู นั้น เขาต้องแบกประเด็นนี้ไปตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง เมื่อ ด็อกซู เสมือนคนที่ยืดมั่นถือมั่นใจคำสัญญากับพ่อ ทำให้ทุกอย่างที่เขาทำที่ตัดสินใจลงไป มันไม่ใช่เพื่อตัวเองเลย มุมนึงของคำสัญญากับพ่อจึงกลายเป็นดาบสองคมที่ทำให้ ด็อกซู กลายเป็นคนที่มีชีวิตเพื่อคนอื่นตลอดเวลา เขาแทบไม่เคยทำอะไรเพื่อตัวเอง แม้กระทั่งในตอนที่มีครอบครัวแล้วก็ตาม สุดท้ายคำตอบของการไม่ขายร้าน เราก็จะได้ทราบกันในตอนท้ายเรื่อง (เอาจริงก็พอเดาออกได้ตั้งแต่แรกแล้วล่ะ หนังก็ไม่ได้แอบได้ซ่อนอะไรหรอก)
ส่วนตัวมองว่าหนังตอบโจทย์ได้ดี ทั้งในแง่มุมความบันเทิง ที่มีมุมตลกโปกฮาของคู่ซี้ ด็อกซูและทัลกู ที่ร่วมหวจมท้ายไปไหนไปกันตลอด และแง่มุมดราม่าสะเทือนใจ ในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้าย หนังขยี้ปมการพลัดพรากจาก คนรัก ญาติพี่น้องอีกครั้ง ด้วยการที่รัฐบาลจัดรายการตามหาญาติออกทีวี เพื่อให้ครอบครัวได้กลับมาเจอหน้ากันอีกครั้ง ซึ่ง ด็อกซู ก็เป็นหนึ่งในคนมากมาย ที่ตัดสินใจร่วมรายการเพื่อตามหา พ่อและมักซู น้องสาวที่แยกจากกัน ที่ท่าเรือ ฮังนัม ในวันนั้น
สรุปแล้ว Ode to My Father (2014) กี่หมื่นวัน...ไม่ลืมคำสัญญ าพ่อ เป็นหนังที่ ตอบโจทย์ได้ดีในแง่มุมความบันเทิงและพอถึงบทดราม่าก็ทำได้สะเทือนใจนะ พูดถึงผลพวงจากสงครามที่มันส่งผลกระทบตามมามากมาย พูดถึงการปลดปล่อยตัวเองจากอดีตที่เหนี่ยวรั้งเอาไว้ เหมือนกับคำพูดของ ทัลกู นั่นแหละว่า “ชีวิตมีเวลาจังหวะของมัน มีเวลาดีๆสำหรับทุกอย่าง”
Ode to My Father (2014) กี่หมื่นวัน...ไม่ลืมคำสัญญ
ส่วนการเสียสละตัวเองของ ด็อกซู นั้น เขาต้องแบกประเด็นนี้ไปตั้ง
ส่วนตัวมองว่าหนังตอบโจทย์ไ
สรุปแล้ว Ode to My Father (2014) กี่หมื่นวัน...ไม่ลืมคำสัญญ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น