วันอังคารที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2563

Along with the Gods: The Last 49 Days (2018)

 Along with the Gods: The Last 49 Days (2018) ฝ่า 7 นรกไปกับพระเจ้า 2

#ปีนรั้วรีวิว #Action #Drama #Fantasy Director: Yong-hwa Kim
      หนังเล่าเรื่องราวต่อจากภาคแรก ที่ครั้งนี้ยมทูต คังริม, เฮวอนเมก, ดัคชุน ทั้งสามคนต้องพาวิญญาณของ คิมซูฮง (คิมดงอุค) น้องชายของ คิมจาฮง ดวงวิญญาณเพชรน้ำหนึ่งจากภาคแรก ที่ ซูฮง กลับกลายจากวิญญาณอาฆาตมาเป็นวิญญาณคนดี รายที่ 49 ที่จะทำให้สามยมทูตสมหวังได้กลับไปเกิดใหม่เสียที หากเขาสามารถช่วยแก้ต่างให้กับ ซูฮง ในการผ่านด่านพิจารณาบาปจากนรกทั้ง 7 ได้

เพียงแต่ครั้งนี้มันยากยิ่งกว่าวิญญาณของ คิมจาฮง (ชาแทฮยอน) เพราะเมื่อตอนที่ ซูฮง เป็นวิญญาณอาฆาตในภาคแรกนั้น เขาสร้างความปั่นป่วนไว้มากมาย ทั้งในโลกมนุษย์และในนรก คราวนี้ ราชายอมรา ผู้ปกครองนรกจึงยื่นข้อเสนอให้ภายใน 49 วัน ทั้งสามยมทูตจะต้องจัดการเก็บวิญญาณของ ฮอชุนซัม ชายแก่ที่อยู่เลยอายุขัยที่แท้จริง ของตนเองนานแล้วมายังนรกให้ได้ แต่อุปสรรคของทั้งสามยมทูตก็คือ เทพเจ้าประจำบ้าน (มาดงซอก) ที่ขัดขวางไม่ยอมให้ ฮอซุนซัม สิ้นอายุขัยของตนเองเสียที

หลังจากที่หนังภาคแรกปูพื้นทิ้งปม เรื่องราวในอดีตของสามยมทูตเอาไว้เล็กน้อย ภาคสองก็ถึงเวลาที่หนังได้เปิดเผยออกมาจัดเต็มเลยว่า ยมทูตแต่ละคนนั้นมีอดีตเป็นอย่างไร เพราะเหตุใดพวกเขาจึงได้กลายมาเป็นยมทูต แล้วเรื่องเมื่อ 1,000 ปีก่อนนั้น พวกเขามีความเกี่ยวข้องกันยังไง หนังเลือกใช้การพิจารณาบาปของ คิมซูฮง ในการสะท้อนเรื่องราวในอดีตของทั้งสามยมทูต
      จากภาคแรกที่หนังเน้นบาปแห่งการอกตัญญูของ คิมจาฮง เรื่องราวของการขอโทษ การไถ่บาป และการให้อภัยแก่กัน แต่เรื่องราวของน้องชายอย่าง คิมซูฮง นั้นเน้นไปที่เรื่องราวบาปแห่งการฆาตกรรม ต่อเนื่องมาจากการตายของเขาในภาคแรก ซึ่งประเด็นนี้มันเชื่อมโยงถึงเรื่องราวในอดีตของสามยมทูต ที่พวกเขามีความเกี่ยวข้องกันโดยตรง

เอาจริงแล้วถึงหนังทั้งสองภาคจะพูดถึงบาปที่แตกต่างกัน แต่เหมือนว่าใจความที่พยายามสื่อถึง ก็ไม่ได้แตกต่างจากประเด็นเดิมเท่าไหร่ เมื่อพูดถึงการยอมรับความผิดของตัวเอง และแก้ไขด้วยการทำมันให้ถูกต้องเข้ารูปเข้ารอย รวมถึงการให้อภัยความผิดในอดีตของกันและกัน

เสริมด้วยเรื่องราวของครอบครัว ฮอชุนซัม และสาเหตุที่เทพเจ้าประจำบ้านไม่ยอมปล่อยให้เขาตายเสียที ซึ่งเรื่องราวของครอบครัวตาลุง ฮอชุนซัม มันก็สะท้อนความเป็นตัวตน ของทั้งยมทูต เฮวอนเมกและดัคชุน ยิ่งกับเทพเจ้าประจำบ้านด้วยแล้ว เขารู้ซะยิ่งกว่ารู้เรื่องราวของยมทูตทั้งสามเสียอีก

ในมุมความบันเทิงภาคแรกเคยเป็นอย่างไร ภาคสองก็ถือว่ายังทำได้ดีเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะงานภาพเทคนิคพิเศษหรือความตลก ที่ดูจะต่างไปจากภาคแรกก็เห็นจะเป็นดราม่า ที่เรื่องราวของ คิมจาฮง คนพี่นั้นดราม่าชวนสะเทือนใจมากกว่า แต่เรื่องราวของ คิมซูฮง กับสามยมทูตนั้น

มันเป็นเรื่องราวของคนที่ลงมือทำผิดโดยตั้งใจ แล้วความรู้สึกผิดที่ว่ามันก็กัดกินตัวเองมาตลอด ทางเดียวที่จะหลุดพ้นไปจากความรู้สึกที่ว่า ก็คือการสารภาพความผิดของตัวองออกมา ประเด็นที่ว่านี้มันออกจะหน่วงความรู้สึกเสียมากกว่า จะสะเทือนความรู้สึกเราแบบภาคแรก

      สรุปแล้ว Along with the Gods: The Last 49 Days ฝ่า 7 นรกไปกับพระเจ้า 2 หนังรักษามาตรฐานความสนุกจากภาคแรกได้ดีนะ แม้ส่วนตัวผมเองจะมองว่ามุกในหนังไม่ฮา เกินความจำเป็นและไม่เข้ากับหนัง แต่หากมองว่าเสริมมุกตลกเข้ามา เพื่อทำให้เรื่อง นรก บาปกรรม ที่หนังพยายามนำเสนอมันดูเบาลง ก็คงพอยอมรับและบันเทิงไปกับหนังได้เต็มที่
 
ฝากช่องยูทูปรีวิวหนังช่องเล็ก ๆ ด้วยครับผม:  https://www.youtube.com/channel/UCo1Txn08XONf92m_kngztWQ 
 
ขอบคุณภาพปรพกอบจากภาพยนตร์ : Along with the Gods: The Last 49 Days

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: #Alive (2020)

 #Alive (2020) คนเป็นฝ่านรกซอมบี้ Screenwriter & Director:   Jo Il Hyung       ตั้งแต่ทั่วโลกได้รู้จักกับ Train to Busan ก็ต้องบอกว่า ไม...