วันพฤหัสบดีที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2563

The Left Ear - 左耳 (2015)

The Left Ear - 左耳 (2015) จั่วเอ่อร์ หูข้างซ้ายที่ไม่ได้ยิน

#ปีนรั้วรีวิว #Drama Director: Alec Su
      หลี่เอ่อร์ (เฉินตูหลิง) สาวที่ใฝ่ฝันจะเจอชายในฝัน กระซิบคำหวานข้างหูซ้ายของเธอ แม้ว่าหูข้างนั้นจะไม่สามารถได้ยินเสียงก็ตาม คู่ซี้ของ หลี่เอ่อ ก็คือ โหยวทา (Xia Hu) ลูกพี่ลูกน้องที่คอยปกป้องเธอเสมอมา แล้วตอนนี้ หลีเอ่อ ก็คิดว่าได้เจอหนุ่มในฝันคนนั้นของเธอแล้ว นั่นก็คือ สวี่อี้ (หยางหยาง) หนุ่มสุดฮอตประจำโรงเรียนที่ดีพร้อมไปเสียทุกด้าน ซึ่งหนุ่มในฝันคนนี้ชั่งดูห่างไกลกับเธอเหลือเกิน

ในวันที่ สวี่อี้กับจางหยาง (Hao Ou) นัดแข่งบาสกับวัยรุ่นประจำถิ่น (Bowen Duan) ทีมของพวกเขาเอาชนะคู่แข่งไปได้ แถม หลี่ปาลา (หม่าซือฉุน) สาวสวยนักร้องประจำผับขวัญใจวัยรุ่นเจ้าถิ่น ยังเกิดหลงเสน่ห์ของ จางหยาง อีกด้วย แม้ จางหยาง จะคบอยู่กับ เจี๋ยวเจี่ยว (กวนเสี่ยวถง) คุณหนูลูกสาวนักธุรกิจอยู่ก็ตาม แต่นั่นก็ดูจะไม่ใช่ปัญหาสำหรับการสานความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ปัญหามันอยู่ตรงที่ว่า

จางหยาง กลับใช้ ปาลา เป็นเครื่องมือทำลายชีวิตของ สวี่อี้ และปาลาก็ยอมทำตามคำขอแต่โดยดี ไม่เคยสนใจในเหตุผลของเขา แต่การกระทำของทั้งสองคนก็อยู่ในสายตาของ หลี่เอ่อร์ ที่อยากจะปกป้อง สวี่อี้ หนุ่มในฝันของตัวเอง มันจึงกลายเป็นความรักหลายเศร้า กลายเป็นสมการที่ไม่มีทางแก้ จนนำมาซึ่งโศกนาฏกรรมของใครบางคน ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของคนที่เกี่ยวข้องนับแต่นั้น
      หนังก้าวพ้นวัย (Coming of Age) จากประเทศจีน ที่ไม่ใช่เพียงแค่การก้าวพ้นวัยจากวัยรุ่นสู่ผู้ใหญ่ แต่ยังเป็นการก้าวพ้นความผิด ให้อภัยตัวเองและคนที่เคยทำไม่ดีต่อเรา ในช่วงชีวิตวัยรุ่นไม่รู้จะมีใครเคยเป็นหรือเปล่านะ กับการคิดชั่วร้ายกับใครสักคนที่เราไม่ชอบหน้า การอยากเอาชนะแย่งชิง ซึ่งในหนังเรื่องนี้แต่ละตัวละครก็ต่างเคยทำผิดต่อกัน

ยิ่งกับตัวละครเอกอย่าง จางหยาง ในช่วงต้นจนถึงกลางเรื่อง ตัวละครนี้เรียกได้ว่าเป็นคนเลวเป็นตัวร้ายในสายตาคนดูอย่างเราๆแน่นอน เมื่อเขาทั้งปอกลอกและนอกใจแฟนของตัวเองไปกับ ปาลา ทั้งยังใช้ ปาลา เป็นเครื่องมือ ทำลาย สวี่อี้ เพื่อเอาคืนใครบางคน เรียกได้ว่า จางหยาง นั้นทำผิดต่อใครหลายคนมากมายจนไม่น่าได้รับการอภัย

หลี่เอ่อร์ ตัวละครที่ดูจะขาวสะอาดที่สุดของเรื่องเอง ก็ยังเคยมีความรู้สึกชั่ววูบแว๊บเข้ามาในหัวบางครั้งว่า เธอเองก็อยากจะทำร้ายทำลายคนอื่น เพื่อความสนองความต้องการของตัวเองเช่นกัน แต่เธอก็ไม่เคยทำมันสักครั้ง หลี่เอ่อร์ จึงเปรียบเสมือนตัวละคร ที่คอยมองดูความเป็นไปของคนอื่น ๆ ไม่ว่าจะ สวี่อี้ จางหยาง หรือปาลา ว่าแต่ละคนจะพาชีวิตไปในทางไหน สวี่อี้ จะชีวิตพังตามที่ จางหยางต้องการหรือไม่ แล้ว จางหยาง ที่ต้องการทำลายชีวิตคนอื่นล่ะ เขาจะมีชีวิตที่ดีกว่าคนที่อยากทำลายหรือเปล่า

ดูหนังเรื่องนี้แล้วก็เห็นได้ว่าชีวิตคนเรา ในช่วงวัยรุ่นมันเปราะบางมากเลยนะ ไม่ว่าจะแง่มุมของตัวละคร สวี่อี้ ที่โดน ปาลา ปั่นหัวเอาง่าย ๆ จนชีวิตพัง หรือกระทั่ง จางหยาง เพียงแค่ความแค้นส่วนตัว ที่ตัวเองก็ไม่ได้รู้ข้อเท็จจริงอะไร กลับลากคนอื่นมาเป็นเครื่องมือจนทำลายชีวิตใครหลายคน แล้วตัวเองก็มีความรู้สึกผิดติดค้างในใจ เป็นสิ่งฉุดรั้งชีวิตให้ไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้

แต่ก็ตามสิ่งที่หนังอยากนำเสนอก็คือ การก้าวข้ามความผิดของตัวเองและคนอื่น เมื่อใครก็ต่างเคยทำผิดพลาดมาด้วยกันทั้งนั้น ฉะนั้นก็ควรเก็บความผิดที่ว่าให้เป็นบทเรียนและไม่ทำซ้ำเดิมอีก เพราะการเก็บความรู้สึกผิดติดค้างเอาไว้ บางครั้งมันก็เป็นสิ่งฉุดรั้งชีวิต ไม่ให้ก้าวต่อไปข้างหน้าได้
      สรุปแล้ว The Left Ear (2015) จั่วเอ่อร์ หูข้างซ้ายที่ไม่ได้ยิน เป็นหนังก้าวพ้นวัย ที่ใจความที่จะสื่อสารดีนะ เอาจริงพล็อตก็ใช้ได้เลยล่ะ แต่การนำเสนอขาดความบันเทิงไปหน่อย อารมณ์ตัวละครดูหม่น ๆ มีเรื่องน่าหงุดหงิด ไม่พอใจกันอยู่ตลอดเวลา เลยจะบอกว่าหนังสนุกหรือเปล่า ก็คงจะสรุปไม่ได้ซะทีเดียว คงจะบอกได้ว่าใจความของหนังสื่อสารได้ดี น่าจะเหมาะกับคนที่มีความรู้สึกผิดติดข้างในใจกับเพื่อนกับอดีตคนรัก ที่หากพอจะเข้าใจความหมายที่หนังสื่อ อาจจะพอรู้สึกได้ว่าชีวิตเราควรจะก้าวต่อไปได้แล้ว

ปล.หนังเรื่องนี้ยังถูกใส่เชื่อมโยงไปยังหนังเรื่อง Secret Fruit (2017) อีกด้วย โดยใช้สองตัวละครเอกจากเรื่องนี้เป็นตัวเชื่อมโยง ผมเขียนรีวิวเสร็จแล้วสักสองสามวันคงได้ลงต่อเนื่องกัน
 
ฝากช่องยูทูปรีวิวหนังช่องเล็ก ๆ ด้วยครับผม:  https://www.youtube.com/channel/UCo1Txn08XONf92m_kngztWQ 
 
สามารถรับชมได้ทาง: True ID
 
ขอบคุณภาพประกอบจากภาพยนตร์ : The Left Ear (2015)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Review: #Alive (2020)

 #Alive (2020) คนเป็นฝ่านรกซอมบี้ Screenwriter & Director:   Jo Il Hyung       ตั้งแต่ทั่วโลกได้รู้จักกับ Train to Busan ก็ต้องบอกว่า ไม...